|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
กลุ่มธนชาต รุกธุรกิจประกันภัย ตั้งเป้าติดอันดับ 1 ใน 10 ของบริษัทประกันภัยในประเทศไทยภายในปี 2550 โดยในปีนี้ให้ บริษัทธนชาตประกันภัย จับมือพันธมิตรต่างชาติ บริษัท ทรานส์อเมริกา ไดเร็คมาร์เก็ตติ้ง เอเชีย แปซิฟิก ทำธุรกิจเทเลมาร์เก็ตติ้ง คาดภายในสิ้นปีมีเบี้ยประกันภัยรับตรงจากธุรกิจเทเลมาร์เก็ตติ้งนี้ไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาท สำหรับเบี้ยประกันภัยรวมของบริษัททั้งปีตั้งไว้ประมาณ 2,300 ล้านบาท
นายนพดล เรืองจินดา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทมีนโยบายที่จะขยายธุรกิจในเชิงรุกมากขึ้นโดยมุ่งมั่นที่จะเป็นบริษัทชั้นนำในวงการธุรกิจประกันภัยและมีความพร้อมที่จะให้บริการแก่ลูกค้าด้วยมาตรฐานสากลพร้อมตั้งเป้าว่าภายในปี 2550 บริษัทฯ จะติดอันดับ 1 ใน 10 ของบริษัทประกันภัยทั้งหมดในประเทศไทย
บริษัท ธนชาตประกันภัย มีเป้าหมายจะขยายช่องทางการตลาดผ่านทางโทรศัพท์ โดยใช้ฐานลูกค้าของกลุ่มธนชาตซึ่งมีกว่า 700,000 ราย ในการทำการตลาดโดยในปีนี้บริษัทได้ประกาศเป็นพันธมิตร ร่วมกับ บริษัท ทรานส์อเมริกา ไดเร็คมาร์เก็ตติ้ง เอเชีย แปซิฟิก ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจเทเลมาร์เก็ตติ้ง และเป็นบริษัทในกลุ่ม AEGON ซึ่งเป็นบริษัทโฮลดิ้งคัมปะนีขนาดใหญ่ติดอันดับ1 ใน 10 ของโลกด้านธุรกิจประกันชีวิต เพื่อทำการตลาดขายกรมธรรม์ผ่านช่องทางโทรศัพท์ร่วมกัน ซึ่งบริษัทฯเชื่อว่าความร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจเทเลมาร์เก็ตติ้งระดับโลกอย่างทรานส์อเมริกาจะช่วยให้บริษัทฯสามารถพัฒนาด้านธุรกิจเทเลมาร์เก็ตติ้งได้อย่างรวดเร็วโดยตั้งเป้าหมายว่าภายในสิ้นปีนี้บริษัทฯจะมีเบี้ยประกันภัยรับตรงจากธุรกิจเทเลมาร์เก็ตติ้งนี้ไม่น้อยกว่า 100ล้านบาท
นายนพดล กล่าวว่า สำหรับความร่วมมือทางธุรกิจระหว่าง บริษัท ธนชาตประกันภัย และ บริษัท ทรานส์อเมริกาในครั้งนี้จะส่งผลให้กลุ่มธนชาตมีอัตราการเติบโตบรรลุผลตามเป้าหมายที่วางไว้โดยความร่วมมือดังกล่าวถือเป็นตัวอย่างแนวทางในการดำเนินธุรกิจร่วมกับ พันธมิตรต่างชาติที่เป็น Strategic Alliance ที่กลุ่มธนชาตต้องการใช้เป็นแนวทางขยายธุรกิจเนื่องจากเป็นความร่วมมือที่ไม่จำเป็นต้องร่วมลงทุนถือหุ้นระหว่างกันแต่เป็นการนำจุดแข็งมาเสริมซึ่งกันและกันเช่นการผนวกความรู้ความเข้าใจในความต้องการของผู้บริโภคของธนชาตประกันภัยเข้ากับเทคโนโลยีและความสามารถในการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการ ดังกล่าวของทรานส์อเมริกา ก็จะช่วยสร้างศักยภาพในการให้บริการให้มีมาตรฐานเหนือกว่าคู่แข่งขันได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น
โดยในปี 2548 ที่ผ่านมา บริษัทธนชาตประกันภัยถือเป็นปีที่ประสบความสำเร็จในการสร้างเบี้ยประกันภัยรับตรงได้ดีกว่าที่ตั้งเป้าไว้คือกว่า 1,500 ล้านบาท ซึ่งเติบโตจากปี 2547 ถึง 50% ทำให้บริษัทฯมีสถานะในอุตสาหกรรมประกันภัยขยับขึ้นอย่างรวดเร็วจากอันดับที่ 26 มาอยู่ในอันดับที่ 18 ในปีเดียว ซึ่งหากดูเฉพาะในส่วนงานรับประกันภัยรถยนต์แล้วบริษัทฯน่าจะสามารถเข้ามาอยู่ในอันดับ1 ใน 10 ได้ด้วย สำหรับผลประกอบการของบริษัทฯ มีกำไรสุทธิประมาณ 65 ล้านบาทคิดเป็น Return on Equity กว่า 14%
ในส่วนของปี 2549 บริษัทฯตั้งเป้าหมายที่จะมีความเติบโตในระดับที่สูงมากเช่นเดิมคือประมาณ 50%ในขณะที่ในอุตสาหกรรมประกันภัย บริษัท ไทยรับประกันภัยต่อ จำกัด (มหาชน)(ThaiRe) ได้ประมาณการไว้ว่าจะมีการเติบโตไม่เกิน 13% โดยในปี 2549 นี้ บริษัทฯ ประมาณการว่าจะมีเบี้ยประกันภัยรับตรงกว่า 2,300 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯได้ขยายเครือข่ายไปด้วยกันกับธนาคารธนชาตที่เร่งเปิดสาขาจนครอบคลุมการให้บริการได้ทั่วประเทศ ซึ่งเชื่อว่าการผนึกกำลังอย่างเข้มแข็งและมีจุดมุ่งหมายร่วมกันของกลุ่มธนชาตจะช่วยให้บริษัทฯสามารถบรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้ไม่ยาก
|
|
|
|
|