|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
พีเออีฯ เดินหน้าพัฒนาศักยภาพการดำเนินงาน หวังให้ฐานะการเงินมั่นคงแข็งแกร่งและสามารถ ทำกำไรได้ต่อเนื่อง คาดการณ์ย้ายกลับเข้ามาซื้อขายในตลาดได้ไม่เกิน 1 มี.ค.ปีหน้า พร้อมปรับกลยุทธ์จับมือพันธมิตรรุกงานประมูล มั่นใจปีนี้ประมูลงานใหม่ได้ไม่ต่ำกว่า 378 ล้านบาท อัตรากำไรขั้นต้นเกิน 10%
นายสรเดช ชูเทศะ ผู้อำนวยการฝ่ายบัญชีและการเงิน บริษัท พีเออี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ PAE รายงานความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาเพื่อฟื้นฟูกิจการ หลังออกจากแผนฟื้นฟูกิจการ ตามข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า ในปี 2549 นี้ บริษัทมีนโยบายดำเนินงานให้มีฐานะการเงินที่มั่นคงและมีผลกำไรอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งดำเนินการเพื่อให้บริษัทสามารถกลับเข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ตามปกติภายในไม่เกิน วันที่ 1 มีนาคม 2550
สำหรับโครงการดำเนินงานในอนาคตนั้น บริษัทคาดว่าในปีนี้ บริษัทจะสามารถประมูลงานใหม่ได้ไม่น้อยกว่าปี 2548 ที่สามารถประมูลงานได้จำนวน 378 ล้านบาท และคาดว่าจะมีอัตรากำไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 10% ของมูลค่างาน
พร้อมกันนี้ บริษัทมีกลยุทธ์ในการหางานประมูลเพิ่มโดยการร่วมมือกับบริษัทพันธมิตร ในการเข้าประมูลงานกับการไฟฟ้านครหลวง, การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค, การไฟฟ้าฝ่ายผลิต และหน่วยงานภาครัฐอื่นๆ นอกเหนือจากการประมูลงานกับภาคเอกชน ขณะเดียวบริษัทจะเริ่มจัดตั้งหน่วยพัฒนาธุรกิจ ที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมพัฒนาโครงการต่างๆ ที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะโครงการของภาครัฐ
"ในปี 2549 บริษัทคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้เพิ่มขึ้นจากปี 2548 อีกอย่างน้อย 170 ล้านบาท และมีกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 17 ล้านบาท"
ด้านผลการดำเนินงานในปี 2548 ที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้จากการขาย 248.01 ล้านบาท รายได้รวม 255.03 ล้านบาท ขาดทุนก่อนหักดอกเบี้ยจ่าย 36.87 ล้านบาท ดอกเบี้ยจ่าย 3.22 ล้านบาท คิดเป็นขาดทุนสุทธิทั้งสิ้น 43.52 ล้านบาท
โดยสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้บริษัทมีผลขาดทุนสุทธินั้น เกิดจากการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญ สำหรับบัญชีลูกหนี้การค้าที่มีอายุเกินกว่า 1 ปี จำนวน 3 รายใหญ่ๆ ในไตรมาสที่ 2/2548 ได้แก่ บริษัท ฟรีอินเตอร์เน็ท จำกัด บริษัทโพรไดร์ฟ์ ดิลลิ่ง จำกัด และบริษัท อินเตอร์เน็ต โปรโตรคอล เน็ตเวิร์ค จำกัด รวมทั้งการตั้งการด้อยค่าของสินค้าคงเหลือ
ส่วนโครงการที่ปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินงานมี 5 โครงการหลัก ได้แก่ โครงการแรก โครงการ SDH-EGAT FO 2547 การจัดซื้อพร้อมติดตั้งอุปกรณ์ ตามโครงการร่วมใช้ระบบใยแก้วนำแสงของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ของกรมการสื่อสารทหาร บก.สส. มูลค่า 125 ล้านบาท ซึ่งสิ้นสุดโครงการเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
โครงการ PEA FO cable Zone 3,Zone 6 (DSD-3/2004) (กฟภ.) ซึ่งเป็นงานจ้างเหมาออกแบบจัดหาพร้อมติดตั้งโครงข่ายเคเบิ้ลใยแก้วนำแสงโครงการพัฒนาระบบสื่อสารมูลค่าโครงการ 245.48 ล้านบาท ขณะนี้คืบหน้าไปแล้ว 20% สิ้นสุดโครงการพฤศจิกายน 2549 โครงการ PEA SDH Equipment (DSD-2/2004) (กฟภ.) งานจ้างเหมาออกแบบ จัดหา พร้อมติดตั้งอุปกรณ์สื่อสารสัญญาณความเร็วสูง (SDH) มูลค่า 48.07 ล้านบาท คืบหน้า 43% สิ้นสุดโครงการกันยายน 2549
โครงการตะวันนาไนท์บาซาร์ ซึ่งเป็นการก่อสร้างอาคารชั้นเดียว (โครงสร้างเหล็ก และงานไฟฟ้า) มูลค่า 122.22 ล้านบาท คืบหน้าแล้ว 70% สิ้นสุดโครงการพฤษภาคม 2549 และโครงการสุดท้ายงานการให้บริการอุตสาหกรรม (Industrial Service) ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องขนาดใหญ่ด้วยการจัดส่งบุคคลากรไปปฏิบัติงานซ่อมบำรุงฐานขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ และงานประกอบหรือสร้างโครงเหล็กตามคำสั่งของลูกค้าและอื่นๆ มูลค่างานต่อปี 204 ล้านบาท
|
|
|
|
|