|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
"ไดนาสตี้เซรามิค" ไม่หนักใจกระเบื้องจีนเข้าตีตลาดไทย ชี้โปรดักส์และขนาดกระเบื้องต่างกัน ช่องทางจำหน่ายแตกต่าง ลั่นทั้งปีปั๊มรายได้โต 20% จาก 4,300 ล้านบาทในปี 48 หลังเพิ่มกำลังผลิต ขยายตลาดนัดค้าปลีก และเพิ่มตัวแทนจำหน่าย ย้ำชัดปีนี้ยังครองแชมป์ผู้นำตลาดกระเบื้องในประเทศหวังส่วนแบ่งตลาดเพิ่มเป็น34 - 35% จากเดิมที่ 29 -30%
นายชนะ สุทธิหวังเจริญ กรรมการ บริษัท ไดนาสตี้เซรามิค จำกัด (มหาชน) หรือ DCC เปิดเผยถึงการเข้ามาของสินค้ากระเบื้องจากจีนว่า ปริมาณที่เข้ามาจำหน่ายในประเทศแม้จะเพิ่มขึ้น แต่ด้วยลักษณะของสินค้าของบริษัทฯกับกระเบื้องที่มาจากจีนมีความแตกต่างกัน โดยผลิตภัณฑ์กระเบื้องของบริษัทมีชิ้นเล็กกว่า เจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลางและล่าง ส่วนจีนเป็นกระเบื้องชิ้นใหญ่ เจาะกลุ่มลูกค้าระดับบน ซึ่งไม่ได้ส่งผลกระทบต่อยอดขายบริษัท
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการปี 2549 นั้น กรรมการกล่าวว่า รายได้รวมเติบโตได้ 20 % จากปีก่อนที่มีรายได้ 4,300.97 ล้านบาท เนื่องจากทางบริษัทฯมีการเพิ่มกำลังการผลิตกระเบื้อง รวมถึงมีการขยายตลาดนัดค้าปลีก และตัวแทนจำหน่ายเพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลให้รายได้รวมน่าจะเป็นไปตามเป้าหมาย
โดยในต้นปีที่ผ่านมา ทางบริษัทฯได้เพิ่มกำลังการผลิตอีก 5 แสนตร.ม.ต่อเดือน ทำให้บริษัทฯมีกำลังการผลิตเป็น 1.3 แสนตร.ม.ต่อวัน หรือเพิ่มขึ้นเป็น 4 ล้านตร.ม.ต่อเดือน ในด้านการขยายช่องทางขาย บริษัทได้เพิ่มตลาดนัดค้าปลีกเพิ่มเป็น 200 แห่งในสิ้นปีนี้ โดยเตรียมขยายเพิ่มอีก 20 - 30 แห่ง จาก170 แห่งในปัจจุบัน คาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 4 - 5 ล้านบาทต่อสาขา ซึ่งสะท้อนให้งบลงทุนรวมปีนี้อยู่ที่ 100 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีแผนเพิ่มตัวแทนจำหน่ายอีก 20 - 25% จากปีก่อนที่มีตัวแทนจำหน่ายไม่ถึง 100 รายทั่วประเทศ
" คาดว่าไตรมาส 2 รายได้มีแนวโน้มดีขึ้น เนื่องจากทางบริษัทฯน่าจะมียอดขายเพิ่มขึ้นจากการเพิ่มกำลังการผลิตในช่วงต้นปี รวมถึงยอดขายที่เพิ่มขึ้นจากความต้องการใช้กระเบื้องเป็นวัสดุตกแต่งที่ขยายตัวสูง"
ปัจจุบัน บริษัทมีสัดส่วนรายได้ในประเทศ 97% และรายได้ต่างประเทศ 2 - 3% โดยในปีนี้เน้นสัดส่วนรายได้ในประเทศเป็นหลัก เนื่องจากราคาจำหน่ายกระเบื้องในประเทศดีกว่า จึงมีแผนเปิดสาขาในตลาดต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น เพื่อผลักดันให้สัดส่วนรายได้ขยับขึ้นเป็น 75% จากปีก่อนที่ 70% ขณะที่สัดส่วนรายได้กรุงเทพฯและปริมณฑลลดลงเล็กน้อยอยู่ที่ 25% จากเดิมที่ 30%
ก่อนหน้านี้ ตัวเลขผลประกอบการไตรมาสแรก บริษัทมีกำไรสุทธิรวมทั้งสิ้น 174 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 91 ล้านบาทหรือ34% เนื่องจากยอดขายสินค้าลดลงจากปีก่อน 46 ล้านบาทหรือ 4 % จากปริมาณขายที่ลดลงจากงวดเดียวกันกับปีก่อน และมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้น 70 ล้านบาท หรือ 58 % รวมทั้งมีค่าความนิยมตัดบัญชีเพิ่มขึ้น 9 ล้านบาท
นายชนะ กล่าวว่าในปี 48 ส่วนแบ่งทางการตลาด (Market Share) ของกระเบื้องเป็นอันดับ 1 อยู่ที่ 29 - 30% และตั้งเป้าเป็นผู้นำตลาดกระเบื้องต่อเนื่อง โดยต้องผลักดันส่วนแบ่งเพิ่มขึ้นเป็น 34 - 35% ขณะที่ภาพรวมของอุตสาหกรรมตลาดกระเบื้องน่าจะขยายตัวจากปีก่อน 10% เนื่องจากความต้องการใช้เพิ่มสูงขึ้น ทั้งในส่วนกรุงเทพฯและต่างจังหวัดเพื่อใช้ในการปรับปรุงและซ่อมแซมอาคารบ้านเรือน
|
|
|
|
|