|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ที่ปรึกษาทางการเงิน เผยบริษัทในไทยเนื้อหอม ทุนนอกเตรียมไหลเข้ามาร่วมลงทุนจากยุโรป-สหรัฐ-เอเซีย ทั้งควบรวมกิจการ หรือแค่ถือหุ้น เหตุอัตราการกำลังการผลิตที่เริ่มเต็มมากแล้ว ทำให้ต้องหาทุนเพื่อหวังขยายกำลังการผลิตเพิ่ม บวกกับสภาพคล่องในตลาดต่างประเทศล้น ทำให้เงินทุนไหลเข้าไทย
นายศฤงคาร สุทัศน์ชูโต กรรมการ บริษัทเอแคป แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด(มหาชน)เปิดเผยว่า ขณะนี้มีเงินทุนจากต่างประเทศพร้อมที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก และคาดว่ามีโอกาสที่จะได้เห็นภายในปีนี้ โดยที่ผ่านมาได้มีสถาบันการเงินจากต่างประเทศจำนวน 3-4 รายได้ติดต่อมา ซึ่งมีความต้องการเข้ามาลงทุนในประเทศไทย โดยได้มอบหมายให้บริษัทเอแคป แอ๊ดไวเซอรี่ เป็นที่ปรึกษาทางการเงินในการช่วยหาธุรกิจในประเทศไทย ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพการเติบโต และเป็นบริษัทที่สามารถสร้างผลกำไรได้พอสมควร รวมไปถึงการขยายงานในอนาคตและเป็นบริษัทที่มีมาร์เกตแชร์ หรือมีสินค้าที่พัฒนาได้ ซึ่งสถาบันการเงินจากต่างประเทศดังกล่าวพร้อมที่จะนำเงินเข้ามาลงทุนตั้งแต่ 100-1,000 ล้านบาท
ทั้งนี้สาเหตุที่สถาบันการเงินต่างประเทศให้ความสนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทยนั้น เนื่องจากมองว่าปัจจุบันนี้ธุรกิจในประเทศไทยมีอัตรากำลังการผลิตที่อยู่ในระดับประมาณ 70-75% ซึ่งใกล้จะเต็มกำลังการผลิตแล้ว ดังนั้นจึงอาจจะต้องมีการขยายการลงทุนเพิ่มขึ้น ซึ่งธุรกิจของไทยก็ต้องการเงินทุนเพิ่มขึ้น ดังนั้นสถาบันการเงินต่างประเทศก็พร้อมที่จะเข้ามาช่วยสนับสนุนในแง่ของเงินทุน ในลักษณะของการเข้ามาร่วมทุนเป็นพันธมิตรทางธุรกิจหรืออาจจะเข้ามาควบรวมกิจการได้
นอกจากนี้ก็ยังมีบริษัทในประเทศไทยที่ต้องการขยายธุรกิจ ซึ่งบริษัทเหล่านี้ก็พร้อมที่จะหาพันธมิตรเข้ามาร่วมธุรกิจเช่นกัน
สำหรับเงินทุนต่างประเทศที่เข้ามาลงทุนนั้นจะเป็นการลงทุนระยะยาว โดยสัดส่วนการเข้ามาถือหุ้นนั้นขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละแห่ง ซึ่งจะแตกต่างกันบางแห่งไม่ต้องการเข้ามาร่วมบริหาร ดังนั้นจึงจะเข้ามาถือหุ้นเพียง 10% เท่านั้น แต่บางแห่งก็อาจจะเข้ามาถือหุ้นในสัดส่วนไม่เกิน 25% หรือไม่เกิน 49% ซึ่งทุนจากต่างประเทศเหล่านี้อาจจะเข้ามาร่วมในการบริหาร โดยส่งตัวแทนเข้ามาเป็นกรรมการ ในด้านของผลตอบแทนนั้น แต่ละแห่งก็จะกำหนดไม่เท่ากันและมองว่าธุรกิจใดที่มีความเสี่ยงสูงก็จะให้ผลตอบแทนที่สูงตามไปด้วย และการที่บริษัทจดทะเบียนของไทยมีธรรมาภิบาลที่ดีขึ้น ทำให้มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
นายอัฏฐ์ อัศวานันท์ ผู้อำนวยการฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ อินเทลวิชั่น จำกัด(มหาชน)กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทเป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้กับบริษัทจากญี่ปุ่นซึ่งประกอบธุรกิจด้านยานยนต์ และสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในบริษัทของไทย ซึ่งเป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจด้านชิ้นส่วนยานยนต์ โดยบริษัทดังกล่าวเป็นบริษัทที่ไม่ได้จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์
นายพรทัต อมรวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์(บล.) กรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ขณะนี้งานในการเป็นที่ปรึกษาในการควบรวมกิจการจะมีจำนวนมากขึ้น ซึ่งจะมีทั้งการควบรวมกิจการระหว่างผู้ประกอบการไทยด้วยกันเองและนักลงทุนต่างชาติที่สนใจเข้ามาลงทุนในไทยซึ่งจะมีทั้งการลงทุนโดยตรงเพื่อต้องการมีส่วนร่วมในการบริหาร และการลงทุนทางด้านสินทรัพย์ ซึ่งพบว่าทุนจากต่างชาติที่ไหลเข้ามาลงทุนในไทยนั้นจะมาจากย่านภูมิภาคเอเชีย เช่น สิงคโปร์ ฮ่องกง ญี่ปุ่น ไต้หวัน และอินเดีย เป็นต้น
"เงินที่เข้ามาลงทุนนั้นจะมีทั้งจากประเทศในย่านเอเซีย เช่น ญี่ปุ่น หรือจากที่อื่น เช่น ที่ยุโรปหรือสหรัฐ เนื่องจากต่างประเทศจะมีสภาพคล่องที่สูง ดังนั้นจึงพร้อมที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศย่านเอเซีย ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วยเช่นกัน ซึ่งบริษัทในไทยที่เข้ามาลงทุนนั้นไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยบริษัทเอแคป แอ๊ดไวเซอรี่ นั้นจะได้ประโยชน์จากผู้ถือหุ้นที่เป็นต่างประเทศที่จะคอยแนะนำลูกค้ามาให้"นายศฤงคาร กล่าว
|
|
|
|
|