Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน3 พฤษภาคม 2549
ตลาดสุขภัณฑ์ดิ้นปรับราคาขึ้น             
 


   
www resources

โฮมเพจ สตาร์ ซานิทารี่แวร์

   
search resources

Sanitary Wares
สตาร์ ซานิทารี่แวร์, บมจ.
โคห์เลอร์ (ประเทศไทย), บมจ.




ผู้ผลิตสุขภัณฑ์ในตลาดร้องจ๊าก!! แบกต้นทุนไม่ไหว หลังเจอ2เด้ง น้ำมัน-ดอกเบี้ยขึ้น จับตาภายในไตรมาส 3 ขึ้นราคาขายไม่ต่ำกว่า 10% พร้อมหนีตลาดล่างดีไซน์สินค้าสู่ตลาดพรีเมี่ยมดันยอดขาย เชื่อมูลค่ารวมตลาดยังโต 10% ด้านยักษ์ใหญ่จากค่ายโคห์เลอร์ฯทยอยเพิ่มยอดส่งออก หนีตลาดอสังหาฯในประเทศซบเซายาว

นายสมชัย ว่องอรุณ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท สตาร์ ซานิทารี่แวร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงสถานการณ์ล่าสุดของตลาดสุขภัณฑ์ว่า ปัจจัยลบด้านการเมืองที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์และผู้บริโภคทั่วไป ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักในตลาดสุขภัณฑ์ ทำให้ตลาดชะลอตัวลงไปค่อนข้างมาก ประกอบกับในช่วงนี้ ราคาน้ำมันและอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง ยิ่งมีผลกระทบต่อตลาด โดยเฉพาะการปรับขึ้นของราคาน้ำมันที่ค่อนข้างรุนแรง ทำให้ต้นทุนทางด้านเชื้อเพลิงของผู้ประกอบการสูงขึ้นกว่า 20%

" ตนได้พูดคุยกับผู้ประกอบการสุขภัณฑ์หลายๆ รายในตลาด ทำให้ทราบว่าขณะนี้ต้นทุนการผลิตสุขภัณฑ์ของผู้ประกอบการแต่ละราย ขยับขึ้นโดยเฉลี่ย 20% โดยเฉพาะในส่วนของต้นทุนค่าเชื้อเพลิง ทำให้ผู้ประกอบการเตรียมจะปรับราคาขายสุขภัณฑ์ขึ้นครั้งใหม่ คาดภายในไตรมาส 3 จะปรับขึ้นประมาณ 10% จากที่ในช่วง2ปีที่ผ่านมา แม้ว่าราคาน้ำมันจะปรับขึ้น แต่ทุกรายก็ยังยืนราคาเดิมโดยไม่มีการปรับขึ้น" นายสมชัย กล่าว

อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่า หากมีผู้ประกอบการรายใด นำร่องขึ้นราคาขายก่อนผู้ประกอบการรายอื่น ทางบริษัทฯก็พร้อมปรับราคาขายตามทันที แต่ในสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว คงไม่มีผู้ประกอบการรายใดปรับขึ้นราคา เนื่องจากกังวลต่อยอดขายบริษัทได้ สำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบด้านน้ำมันและดอกเบี้ยค่อนข้างมากในขณะนี้ คือ กลุ่มที่เน้นทำตลาดในประเทศเป็นหลัก เพราะไม่สามารถปรับราคาขายขึ้นได้ ซ้ำร้ายการชะลอตัวของตลาดยิ่งกระทบต่อยอดขายอีกทางหนึ่ง

นายสมชัย กล่าวถึงตลาดรวมสุขภัณฑ์ในปี 2549 ว่า มูลค่าตลาดรวมขยายตัว 10% แม้ว่าปริมาณการผลิตสุขภัณฑ์จะมีจำนวนเพิ่มขึ้นไม่มาก โดยทั้งปีประมาณ 4 ล้านชิ้น เทียบกับปีที่ผ่านมา ปริมาณการผลิตประมาณ 3 ล้านกว่าชิ้น ทั้งนี้ สาเหตุที่มูลค่าตลาดขยายตัวสูงขึ้นถึง 10% เนื่องจากผู้ประกอบการได้ออกผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ในระดับราคาขายที่สูงขึ้น

ในส่วนทิศทางของบริษัทสตาร์ฯ ในปีนี้จะมีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้น 10-15% ทั้งในส่วนของตลาดในประเทศและตลาดส่งออก ปัจจุบันมีการใช้กำลังการผลิตประมาณ 80% ของกำลังการผลิตทั้งหมด 10,000 ตันต่อปี ทั้งนี้ หากต้องเพิ่มกำลังการผลิตจะต้องพิจารณาสภาวะของตลาด และคาดจะขยายกำลังเพิ่มอีกประมาณ 30% ประมาณ 3,000 ตัน เน้นสินค้าระดับบนถึงล่าง สัดส่วนอยู่ประมาณ 20% ส่วนที่เหลือ 80% เป็นสินค้าในตลาดกลาง

สุขภัณฑ์สตาร์ลดส่งออก โคห์เลอร์ฯสวนทางบุกตปท.

นายสมชัย กล่าวว่า บริษัทยังได้ปรับกลยุทธ์โดยพยายามลดสัดส่วนการส่งออกจาก 70% ลงมาเหลือ 65% เพื่อเพิ่มสัดส่วนตลาดในประเทศให้เป็น 35% จากเดิม 30% โดยสินค้าที่เพิ่มขึ้นในประเทศจะเน้นลูกค้าตลาดกลาง-บนเป็นหลัก และมีส่วนผลักดันให้บริษัทมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นประมาณ 1% จากเดิมประมาณ 7-8%

ด้าน นายกมล เลิศศรัทธา กรรมการผู้จัดการ บริษัท โคห์เลอร์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงนโยบายของโคห์เลอร์ในปีนี้ว่า วางเป้าการเติบโตเป็น 2 เท่าของตลาดสุขภัณฑ์ในทุกปี โดยในปี 2548 เติบโตประมาณ 20% ส่วนในปี49 คาดว่าในภาพรวมตลาดสุขภัณฑ์จะมีอัตราการเติบโตเพียง 5-8% เนื่องจากตลาดอสังหาฯมีการชะลอตัว ซึ่งในไตรมาสแรกของปีนี้มีอัตราการเติบโตลดลงถึง 10% เทียบกับปีที่แล้ว อย่างไรก็ตามคาดว่าทั้งปีบริษัทจะมีอัตราการเติบโต 10-15%

ปัจจุบันโคห์เลอร์ส่งออกสุขภัณฑ์ 2 ใน 3 ของกำลังการผลิต และขายในประเทศ 1 ใน 3 ของกำลังการผลิต โดยกำลังการผลิตรวมทั้งหมด 3 ล้านชิ้นต่อปี แบ่งเป็นผลิตภัณฑ์โคห์เลอร์ 70% ส่วน30% เป็นสุขภัณฑ์กะรัต ทั้งนี้ โคห์เลอร์จะส่งออกสินค้าไปยัง อเมริกาและยุโรปเป็นหลัก โดยจะเพิ่มการส่งออกทุกปี

สำหรับตลาดในประเทศเมื่อตลาดอสังหาฯ มีการชะลอตัว บริษัทปรับแผนหันมาส่งออกเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งการจัดโปรโมชันกระตุ้นยอดขายตลอดทั้งปี อาทิ การจัดขายเป็นแพ็คเกจ จัดสินค้าเป็นชุดเพื่อขายลดราคาประมาณ 10% รวมทั้งการนำสินค้าใหม่ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้จะมีสินค้าใหม่ออกสู่ตลาด 30 รุ่น ราคาต่ำสุด 4,000-6,000 บาท/ชิ้น สูงสุด 2 แสนบาทต่อชิ้น

นอกจากนี้ บริษัทจะนำผลิตภัณฑ์โคห์เลอร์ที่ได้รับรางวัล โกลด์ อวอร์ด ในด้านดีไซน์ยอดเยี่ยมจาก IDSA หรือสมาพันธ์ผู้ออกแบบสินค้าอุตสาหกรรมในประเทศสหรัฐอเมริกา คือ โถสุขภัณฑ์ "เพียวริส แฮท บ็อกซ์" ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่มีแท็งก์พักน้ำ สามารถทำความสะอาดได้ง่าย ระบบการชำระล้างที่ใช้น้ำเพียง 6 ลิตรต่ำครั้ง

นายกมลกล่าวต่อว่า สำหรับการแข่งขันของตลาดสุขภัณฑ์ในปีนี้ จะมีการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น ทั้งการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ การแข่งขันด้านราคา ซึ่งที่ผ่านมาโคห์เลอร์ได้ตรึงราคาขาย แม้ว่าต้นทุนจะเพิ่มขึ้นก็ตาม แต่กะรัตได้มีการปรับราคาขายขึ้นแล้ว 2% นับจากต้นปีที่ผ่านมา โดยในปีนี้บริษัทจะใช้งบการตลาดทั้งในสุขภัณฑ์โคห์เลอร์และกะรัตรวมกว่า 100 ล้านบาท

ส่วนแนวโน้มของตลาดสุขภัณฑ์ในไตรมาส 2 คาดว่ามีอัตราการเติบโตอยู่ เนื่องจากมองว่าปัจจัยพื้นฐานของประเทศยังดีอยู่ แม้จะพบปัจจัยลบทั้งราคาน้ำมัน การเมือง อัตราดอกเบี้ย แต่เป็นเพียงผลกระทบต่อกำลังซื้อในช่วงสั้นเท่านั้น โดยเชื่อว่าในครึ่งปีหลังกำลังซื้อจะกลับเข้ามา

บาธรูมฯเพิ่มน้ำหนักลูกค้าต่างชาติ

นางสาวลดาวัลย์ เบญจธนะฉัตร์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท บาธรูมดีไซน์ จำกัด เปิดเผยว่า กล่าวว่า ภาวการณ์ชะลอตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์และเศรษฐกิจโดยรวมไม่ได้ส่งผลกระทบต่อยอดขายของบริษัท แต่อย่างใด เนื่องจากผลิตภัณฑ์ของบริษัทเน้นที่ตลาดระดับไฮ-เอ็น รวมถึงการเข้าทำตลาดโครงการหรูทั้งโครงการจัดสรร โรงแรม รีสอร์ท อีกทั้งยังเน้นออกนวัตกรรมใหม่อยู่ตลอดเวลาเพื่อสร้างความเป็นผู้นำตลาด

นอกจากนี้บริษัทยังเน้นการทำตลาดต่างประเทศเป็นหลัก โดยตั้งเป้าภายใน 5 ปี จะเป็นอินเตอร์เนชั่นแนลแบรนด์ โดยตลาดหลักสำคัญ อาทิ ฝรั่งเศส, สเปน, เยอรมนี, ญี่ปุ่น, มาเลเซีย, สิงคโปร์ และกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ซึ่งยอดส่งออกคิดเป็น 20-30% ของยอดขายรวม และตั้งเป้าโตกว่า 1 เท่าตัว ส่วนเป้ายอดขายทั้งบริษัทตั้งเป้าโต 20%

สำหรับกำลังการผลิตในปัจจุบันอ่างอาบน้ำ 1 แสนชิ้นต่อปี ปัจจุบันใช้กำลังการผลิต 90% ส่วนสุขภัณฑ์มีกำลังการผลิต 50,000 ชิ้นต่อปี คิดเป็น 30-40% ของกำลังการผลิตรวม ส่วนผลิตภัณฑ์ใหม่ในปีนี้จะเน้นผลิตภัณฑ์อัจฉริยะ ใช้ระบบสัมผัส หรือที่เรียกว่า I-TOUCH   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us