Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน2 พฤษภาคม 2549
ธปท.จับตาหนี้ครัวเรือนช่วงดบ.ขึ้นหวั่นกระทบความสามารถชำระ หนี้             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารแห่งประเทศไทย

   
search resources

ธนาคารแห่งประเทศไทย
Economics




แบงก์ชาติ จับตาหนี้ภาคครัวเรือน หลังดอกเบี้ยปรับตัวในช่วงขาขึ้น หวั่นกระทบความสามารถในการชำระหนี้ ชี้หนี้บัตรเครดิต-สินเชื่อส่วนบุคคลยังเพิ่มสูง ขณะที่สินเชื่อส่วนบุคคลกระจุกตัวในกลุ่มคนที่มีรายได้ต่ำกว่า 15,000 บาท มีแนวโน้มเติบโตต่อ

รายงานแนวโน้มเงินเฟ้อฉบับเดือนเมษายน 2549 คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ประเมินว่า ปัจจัยเสี่ยงที่อาจจะกระทบเสถียรภาพของระบบการเงินมากขึ้น ได้แก่ ราคาน้ำมันที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อต้นทุนของภาคธุรกิจและค่าใช้จ่ายของครัวเรือนอย่างต่อเนื่อง อัตราดอกเบี้ยต่างๆ ในระบบเศรษฐกิจที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างชัดเจน แม้จะช่วยลดแรงกดดันต่ออัตราเงินเฟ้อ แต่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่สูงขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้ของภาคธุรกิจและครัวเรือน

ทั้งนี้ กนง. มองว่าสถานะทางการเงินของภาคครัวเรือนเป็นประเด็นที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิดภายใต้แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ในขณะที่การขยายตัวทางเศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอลง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อรายได้และความสามารถในการชำระหนี้ของครัวเรือน โดยข้อมูลสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภคของธนาคารพาณิชย์ชี้ว่าภาคครัวเรือนยังคงมีการก่อหนี้อย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาสที่ 4 ของปี 2548 อัตราการขยายตัวอยู่ที่ 16.7 % แม้ว่าจะชะลอลงบ้างจากไตรมาสก่อนหน้าที่ 18.1 %

อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาในรายละเอียดของแต่ละประเภทการกู้ยืมแล้ว การกู้ยืมเพื่อซื้อบ้านยังคงขยายตัวต่อเนื่องแต่อยู่ในอัตราที่ชะลอลง ซึ่งอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจะส่งผลให้ครัวเรือนมีภาระดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้น โดยหากเปรียบเทียบช่วงที่สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยเริ่มมีการขยายตัวในอัตราสูงกับช่วงเวลาปัจจุบันนั้น อัตราดอกเบี้ย MLR ปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 1.50 % ต่อปี จากประมาณการ 5.75 % ต่อปี มาเป็น 7.25 % ต่อปี ซึ่งจะเริ่มส่งผลให้มีการปรับสัญญาเงินกู้บ้าง ทั้งในรูปของจำนวนเงินผ่อนต่องวดที่เพิ่มขึ้นหรือการขยายระยะเวลาของการผ่อนชำระ ซึ่งจะส่งผลให้ภาคครัวเรือนต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทางการเงินต่อไป

ขณะที่การกู้ยืมเพื่อการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคลที่ไม่ใช่การกู้ยืมเพื่อที่อยู่อาศัยก็ขยายตัวเช่นกัน โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาส่วนของสินเชื่อที่ให้โดยภาคธุรกิจที่มิใช่ธนาคาร (Non-Bank) นั้น หนี้บัตรเครดิตยังคงขยายตัวในอัตราที่สูงแม้จะชะลอลงบ้าง ขณะที่ปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรที่ออกโดย Non-Bank ไม่ได้ขยายตัวมากนัก ซึ่งสะท้อนการสะสมหนี้ผ่านบัตรเครดิตของภาคครัวเรือนที่ส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มของผู้มีรายได้ไม่สูงนัก

สำหรับกรณีของสินเชื่อส่วนบุคคลที่อยู่ภายใต้การกำกับของ ธปท. นั้น กนง.มองว่านับตั้งแต่ที่ ธปท.ได้ออกมาตรการสินเชื่อส่วนบุคคลออกไปเมื่อเดือน ก.ค.2548 ที่ผ่านมา ทำให้ ธปท.สามารถติดตามตัวเลขสินเชื่อส่วนบุคคลของ Non-Bank ได้ โดยเริ่มมีข้อมูลตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2548 ซึ่งตัวเลขบ่งชี้ว่าสินเชื่อส่วนบุคคลส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ที่ครัวเรือนที่มีรายได้อยู่ในระดับต่ำกว่า 15,000 บาทต่อเดือน และยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ หากพิจารณาสินเชื่อเฉลี่ยต่อหนึ่งบัญชี กลุ่มครัวเรือนที่มีรายได้น้อยกว่า 5,000 บาท จะมียอดคงค้างสินเชื่อประมาณ 2 เท่าของรายได้ต่อเดือน ในขณะที่กลุ่มครัวเรือนที่มีรายได้สูงขึ้นมามียอดคงค้างสินเชื่อต่อบัญชีในระดับใกล้เคียงกับรายได้ต่อเดือน ซึ่งสะท้อนความแตกต่างในแต่ละกลุ่มครัวเรือนที่มีรายได้ต่างกัน

ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่การกู้ยืมของครัวเรือนยังไม่ชะลอลงอย่างชัดเจนนั้น อาจส่งผลในทางลบต่อความสามารถในการชำระหนี้ของครัวเรือนในภาพรวมได้ ซึ่ง กนง.มีความเห็นให้ติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป ถึงแม้ว่าในไตรมาสที่ 4 ของปี 2548 ข้อมูลสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของครัวเรือนยังไม่บ่งชี้ถึงความเปราะบางดังกล่าวก็ตาม โดยยังคงมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง

ตัวเลขการให้บริการบัตรเครดิต ล่าสุด ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ว่าปริมาณบัตรเครดิตและยอดคงค้างสินเชื่อบัตรเครดิตยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยมีบัตรเครดิตให้บริการทั้งสิ้น 10,048,047 บัตร เป็นบัตรเครดิตที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์ไทย 3,889,926 บัตร สาขาธนาคารต่างประเทศ 1,073,581 บัตร และบริษัทประกอบธุรกิจบัตรเครดิตประเภทนอนแบงก์ 5,084,540 บัตร เทียบกับสิ้นปี 2547 ที่มีปริมาณบัตรเครดิต 8,648,100 บัตร โดยมียอดสินเชื่อคงค้าง ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมามีทั้งสิ้น 142,420.44 ล้านบาท ปริมาณการใช้จ่ายรวม 56,429.56 ล้านบาท แยกเป็นปริมาณการใช้จ่ายในประเทศ 40,333.95 ล้านบาท และปริมาณการใช้จ่ายในต่างประเทศ 1,822.33 ล้านบาท การเบิกเงินสดล่วงหน้า 14,273.28 ล้านบาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us