"มาม่า” โอดไตรมาสแรกโตน้อย หลังจากไวไว-ยำยำ เปิดศึกอัดโปรโมชัน-หั่นราคา ล่าสุดทุ่ม 20 ล้านบาทระเบิดสองแคมเปญใหญ่ ดันบรรจุภัณฑ์คัพเกาะกระแสบอลโลก โกยยอดขายไตรมาสสองโต 10% พร้อมปล่อยอีกแคมเปญช่วงพ.ค.สิ้นปีแชร์ขยับเป็น 55%

นายเพชร พะเนียงเวทย์ หัวหน้าฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรามาม่า เปิดเผยว่า หลังจากราคาน้ำมันขยับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงไตรมาสสอง ยกตัวอย่างดีเซลขยับขึ้นกว่า 26 บาทต่อลิตร ส่งผลให้ราคาสินค้าหลายอย่างปรับเพิ่มขึ้นตามมา สืบเนื่องจากต้นทุนการผลิตสูงขึ้น อีกทั้งยังมีปัจจัยแวดล้อมทางด้านการเมืองที่ยังไม่นิ่ง ดังนั้นจึงมองว่ากำลังซื้อของผู้บริโภคในไตรมาสสองไม่ค่อยสู้ดีมากนัก

โดยปัจจัยการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคในภาวะอย่างนี้ ส่วนใหญ่จะเลือกสินค้าที่ดีมีความคุ้มค่าคุ้มราคาหรือมาจากการทำโปรโมชันเป็นหลัก นอกจากนี้พฤติกรรมของผู้บริโภคจะชะลอการซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย มีราคาสูง และสินค้าเงินผ่อนลง ได้แก่ กลุ่มโทรศัพท์มือถือ อสังหาริมทรัพย์ รถยนต์ ฯลฯ ส่วนสินค้าที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน อย่าง สินค้าอุปโภคบริโภค แชมพู สบู่ เชื่อว่าจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก

สำหรับในช่วงไตรมาสแรกสินค้าส่วนใหญ่อัดแคมเปญโปรโมชัน “ลด แลก แจก แถม”เพื่อกระตุ้นยอดขายกันตั้งแต่ต้นปี และคาดว่าในช่วงไตรมาสสองแคมเปญโปรโมชันจะมีมากขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงที่มีฟุตบอลโลก 2006 ในเดือนมิถุนายน ซึ่งจะเป็นปัจจัยกระตุ้นกำลังการซื้อของผู้บริโภคอย่างหนึ่ง สำหรับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาม่าได้ทุ่มงบ 20 ล้านบาท เตรียมทำแคมเปญโปรโมชันเกาะกระแสฟุตบอลโลกเช่นกัน โดยจะเลือกทำเฉพาะบรรจุภัณฑ์คัพเท่านั้น

“บรรจุภัณฑ์คัพหรือถ้วยเป็นขนาดที่มีอัตราการเติบโตสูงมากประมาณ 20-30% ต่อปี และยิ่งในช่วงฟุตบอลโลก คาดว่าจะเป็นขนาดที่มีอัตราการโตสูงกว่าขนาดอื่นๆ เนื่องจากมีความสะดวกสบายสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ โดยปัจจุบันบรรจุภัณฑ์คัพมาม่าเป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 40-50% ส่วนที่เหลือ 50-60% เป็นของคู่แข่งอีกสองค่าย ได้แก่ ไวไว และยำยำ”

สำหรับภาวะตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโต 9.1% ซึ่งเป็นการเติบโตตามปกติ ในขณะที่มาม่ามีอัตราการเติบโตเพียง 5% น้อยกว่าตลาด ทั้งนี้เป็นเพราะคู่แข่งที่อยู่ในตลาดอย่างไวไวอัดแคมเปญโปรโมชัน”รวยทันใจ ไวไวให้โชค” แจกทองคำ 630 บาท ขณะที่ยำยำหั่นราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในช่องทางโมเดิร์นเทรด โดยจำหน่ายราคาซอง 3.75 บาท เมื่อเทียบกับมาม่าราคา 4.75 บาท ดังนั้นหลังจากที่มาม่าเปิดแคมเปญแจกทองให้โชคไปแล้ว ในช่วงเดือนพฤษภาคมเตรียมเปิดตัวแคมเปญใหม่มากระตุ้นยอดขายอีกหนึ่งแคมเปญ คาดว่าในช่วงไตรมาสสองมาม่าจะเติบโตเกิน10%

แนวโน้มตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมูลค่า 9,500 ล้านบาท คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตไม่ถึง 10% เนื่องจากในปีที่แล้วตลาดมีอัตราการเติบโตสูงถึง 15% จากปกติตลาดจะมีอัตราการเติบโต 3-5% โดยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาม่าตั้งเป้ามีอัตราการเติบโต 8.2% มาจากการออกรสชาติใหม่และแคมเปญโปรโมชันกระตุ้นยอดขาย โดยปัจจุบันมาม่าเป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 50% และสิ้นปีนี้ตั้งเป้ามีส่วนแบ่งเพิ่มเป็น 55% ส่วนด้าน”ไวไว” มีส่วนแบ่ง 28% และยำยำ 15%