|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
"รับสร้างบ้าน" ตรึงราคาสร้างบ้านหวังดึงยอดขาย คาดครึ่งปีหลังอั้นไม่อยู่เตรียมพิจารณาปรับขึ้นตามราคาน้ำมัน ชี้ภาวะชะลอตัวยาวถึงสิ้นปีเห็นภาพรับเหมารายย่อยหลายรายหลุดออกจากวงจรตลาดแน่ หวั่นทิ้งงานแนะผู้บริโภคเลือกบริษัทที่น่าเชื่อถือ
นายศักดา โควิสุทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทรอยัลเฮ้าส์ จำกัด เปิดเผยภายหลังได้รับเลือกเป็นนายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านว่า ในภาวะเศรษฐกิจไทยชะลอตัวจากปัจจัยลบหลายประการ อาทิ อัตราดอกเบี้ย ราคาน้ำมัน ความไม่สงบทางการเมือง แต่สิ่งที่ทกระทบต่อธุรกิจรับสร้างบ้านมากที่สุด ได้แก่ ปัญหาจากราคาน้ำมันที่ส่งผลให้ราคาวัสดุปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ต้นทุนค่าก่อสร้างปรับสูงขึ้นตาม ในขณะที่ราคารับสร้างบ้านไม่สามารถปรับขึ้นได้สูงมากนักจากหลายปัจจัยทั้งจากการแข่งขันเรื่องราคาที่ผู้รับเหมารายย่อยมักใช้เป็นกลยุทธ์ในการทำตลาด
"ผมอยู่ในธุรกิจนี้มากว่า 20 ปี สิ่งที่เห็นคือธุรกิจนี้ผู้รับเหมามักล้มหายตายจากไปที่ละรายสองราย เพราะที่ผ่านมามักจะแข่งขันกันในเรื่องราคา ไม่ค่อยมีคนแข่งในเรื่องของมาตรฐานการก่อสร้าง คุณภาพงาน แต่ตอนนี้เปลี่ยนไป ผู้บริโภคคำนึงถึงคุณภาพมากขึ้น ทางสมาคมจึงเน้นรับสมาชิกที่มีคุณภาพมากกว่าปริมาณ การเลือกใช้บริษัทรับสร้างบ้านแทนผู้รับเหมา ก็เหมือนการซื้อประกันชีวิต ที่คนซื้อไม่ต้องการให้เกิดขึ้น แต่ก็ต้องป้องกันเอาไว้ บริษัทรับสร้างบ้านก็มีการรับประกันการก่อสร้าง" นายศักดากล่าว
สำหรับการแก้ปัญหาราคาวัสดุในเบื้องต้นนั้น บริษัทสมาชิกสมาคมฯ ส่วนใหญ่อยู่ในธุรกิจนี้มานาน ซึ่งมีสัมพันธภาพอันดีกับซัปพลายเออร์ จึงสามารถทราบราคาล่วงหน้าและสั่งสต๊อกสินค้าได้ หากมีปัญหาเรื่องที่จัดเก็บก็ให้ซัปพลายเออร์เป็นคนเก็บให้ ซึ่งที่ผ่านมามีการสต๊อกสินค้าทุกเดือน และมีการพูดคุยในเรื่องราคาวัสดุทุกเดือนอยู่แล้วทำให้ทราบราคาล่วงหน้า
ส่วนปัญหาความไม่สงบทางการเมืองยังทำให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่น จึงชะลอการสร้างบ้านออกไปก่อน เพื่อรอดูทิศทางของสถานการณ์ เนื่องจากลูกค้าที่สร้างบ้านส่วนใหญ่มีบ้านอยู่แล้วจึงไม่เร่งสร้างบ้านใหม่ ส่วนปัญหาเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้นเชื่อว่าไม่ส่งผลกระทบมากนักเพราะลูกค้ากว่า 60% ใช้เงินสดหรือเงินออม มีเพียง 40% ที่ใช้สินเชื่อจากสถาบันการเงิน
นายกสมาคมฯ กล่าวต่อว่า ในไตรมาสแรกของปีนี้ยอมรับว่าปัญหาการเมืองมีผลกระทบต่อธุรกิจรับสร้างบ้าน แต่ไม่มากนักเพราะรับสร้างบ้านเป็นการรับงานตามออร์เดอร์ที่ลูกค้าสั่ง ซึ่งลูกค้าเองได้มีการเตรียมตัวและออมเงินมาก่อนล่วงหน้าแล้ว ทำให้ปัญหาดังกล่าวกระทบน้อย
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะปัจจัยลบมากระทบ แต่สมาคมยังคงเป้าหมายยอดรับสร้างบ้านเอาไว้เดิม คือ ยอดขายทั้งปีที่ 8,400 ล้านบาท โดยมีส่วนแบ่งตลาดของรับสร้างบ้านทั้งหมด 24% จากมูลค่ารวม 30,0000 ล้านบาท ซึ่งทางสมาคมได้วางเป้าส่วนแบ่งตลาดในอนาคตเพิ่มเป็น 50% ของตลาดรวมภายใน 4-5 ปีข้างหน้า
สำหรับปัจจัยในเรื่องของต้นทุนก่อสร้างที่ปรับตัวสูงขึ้น ขณะนี้จากที่ได้พูดคุญกันภายในสมาคมยังไม่มีบริษัทใดปรับราคารับสร้างบ้านขึ้น โดยจะยังคงตรึงราคาเดิมเอาไว้ก่อนคาดว่าจะสามารถตรึงได้ถึงกลางนี้นี้ และหลังจากนั้นในช่วงครึ่งปีหลังจะต้องมาพิจารณาในเรื่องราคาสร้างบ้านใหม่ โดยพิจารณาจากราคาน้ำมันเป็นหลัก เพราะเชื่อว่าหากราคาน้ำมันยังปรับขึ้นอย่างต่อเนื่องอยู่เช่นนี้ บริษัทรับสร้างบ้านคงไม่สามารถตรึงราคาต่อไปได้
ด้านนางสาวศุภิชชา ชัยพิพัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ซีคอน จำกัด ในฐานะคณะกรรมการสมาคม กล่าวว่า ในภาวะปัจจุบันจะต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำธุรกิจใหม่ เพราะที่ผ่านมาจะเน้นในเรื่องของการทำตลาด แต่ในสถานการณ์ปัจจุบันจะต้องปรับมาเป็นศาสตรายุทธ์ ในภาวะที่ตลาดไม่ดี ต้องสร้างความรับรู้ให้มากขึ้น โดยเฉพาะ ผู้บริโภค, สถาบันการเงิน, สื่อและกลุ่มวัสดุก่อสร้าง
สำหรับนโยบายของสมาคมฯ ในปีนี้จะยึดแนวทางสร้างมาตรฐานธรกิจรับสร้างบ้านให้เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค รวมถึงเน้นการสร้างความแตกต่างอย่างชัดเจนกับผู้รับเหมารายย่อย ซึ่งจะเป็นการร่วมมือกันพัฒนามาตรฐานระหว่างสมาชิกสมาคมฯ โดยในเบื้องต้นจะร่วมกันสร้างคำจำกัดความของบริษัทรับสร้างบ้านให้มีความชัดเจน
นอกจากนี้จะมีการร่วมมือกันระหว่างสมาชิก เพื่อพัฒนาตลาดรับสร้างบ้าน และธุรกิจต่อเนื่องร่วมกัน โดยล่าสุดไดมีการจัดตั้งบริษัท เฮ้าส์ เฟรนด์ลี่ โปรดัก จำกัด เพื่อผลิตและจำหน่ายโครงหลังคา อีซี่ ทรัส ซึ่งโรงงานผลิตตั้งอยู่บริเวณรังสิตคลอง 7 จ.ปทุมธานี มีกำลังผลิตรวม 4,000 ตารางเมตร/วัน โดยในช่วงแรกผลิตและจำหน่ายให้กับสมาชิกสมาคม และในอนาคตจะมีการขยายเพื่อให้บริการกับกลุ่มอื่นๆ อาทิ กลุ่มบ้านจัดสรร โรงงานอุตสาหกรรม
นอกจากนโยบายดังกล่าวแล้ว สมาคมยังได้วางแผนการประชาสัมพันธ์ธุรกิจรับสร้างบ้าน โดยในปีนี้เตรียมจัดงานสัมมนาวิชาการภายใต้หัวข้อ "ศาสตรายุทธ์" ในวันที่ 28 มิถุนายน 2549 ณ ห้องออดิทอเรียม อาคารชินวัตร ทาวน์เวอร์ 3 ส่วนกิจกรรมให้ คือ งานรับสร้างบ้าน 2006 ระหว่างวันที่ 16-20 สิงหาคม 2549 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งเป็นการรวมบริษัทรับสร้างบ้านกว่า 30 ราย พร้อมบริษัทวัสดุก่อสร้างชั้นนำมาร่วมออกบูทด้วย
|
|
|
|
|