|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
"สามชัย สตีลฯ" ยอมรับผลงานไตรมาสแรกปีนี้ต่ำกว่าปีก่อน แต่มั่นใจสามไตรมาสที่เหลือจะเติบโต เนื่องจากแนวโน้มราคาเหล็กปรับตัวเพิ่มขึ้น และการผลิตท่อขนาด 18 นิ้วจะเริ่มดำเนินการได้ พ.ค. นี้เป็นต้นไป มั่นใจดันรายได้เติบต่อเนื่องตามเป้าปีนี้ 6 พันล้านบาท ก่อนจะเพิ่มเป็น 8 พันล้านบาทในปีหน้า
นายพัชวัฎ คุณชยางกูร รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท สามชัย สตีล อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ SAM เปิดเผยถึง ผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 1 ปี 2549 ว่า รายได้และกำไรสุทธิในไตรมาสแรกปีนี้ต่ำกว่าไตรมาสแรกปี 48 เนื่องจาก 2 เดือนแรกของปีราคาเหล็กยังอยู่ในช่วงของขาลง ส่งผลให้การดำเนินงานไตรมาสแรกปีนี้ตกลงด้วย
“ราคาเหล็กปรับตัวขึ้นมาในช่วงปลายเดือนมีนาคมแล้ว เป็นแนวโน้มที่ดี แต่ช่วยไตรมาสแรกเราไม่ทัน เพราะราคาเหล็กจะปรับขึ้นก็ใกล้ปิดบัญชีไตรมาสแรกแล้ว ” นายพัชวัฎ กล่าว
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมั่นใจว่าผลการดำเนินงานทั้งปี 49 จะสูงกว่าปี 48 เนื่องจากบริษัทจะมีรายได้จากท่อเหล็กขนาด 18 นิ้ว ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ที่บริษัทซื้อเครื่องจักรและสร้างโรงงานแห่งใหม่ที่ขณะนี้อยู่ในระหว่างการทดลองผลิต และคาดว่าจะเริ่มผลิตและจำหน่ายได้เดือนหน้า ขณะที่มาร์จิ้นของสินค้าตัวนี้มีถึง 15% ซึ่งถือว่ามากสุดในบรรดาสินค้าทุกตัว
ดังนั้น รายได้จากท่อเหล็กชนิดนี้จะเป็นตัวที่จะมาดึงรายได้ให้กับ SAM เติบโตได้อย่างไม่ยากในปีนี้ เพราะสามไตรมาสที่เหลือบวกกับแนวโน้มราคาเหล็กอยู่ในช่วงขาขึ้น จะทำให้ SAM โตจากปีก่อนได้ หลังจากที่ปี 47 ราคาเหล็กทะยานขึ้น ส่งผลให้ปี 48 ราคาเหล็กตกลงอย่างต่อเนื่องและนานกว่าที่ผ่านมา จึงทำให้ผู้ประกอบการเหล็กต่างบอบช้ำไปตาม ๆ กัน แต่ขณะนี้ภาวะราคาก็ดีขึ้น
นายพัชวัฎกล่าวว่า ปีนี้ทั้งปีตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ประมาณ 6 พันล้านบาทหรือหากจะต่ำกว่านี้ก็เพียงเล็กน้อย ซึ่งก็ยังคงเป็นตัวเลขที่ยังถือว่าสูงกว่าปีที่ผ่านมาแม้ว่าไตรมาสแรกจะต่ำลงก็ตาม
“ผมเชื่อว่า ผลงานของเราโดยรวมยังดี เพราะอย่างน้อยตัวท่อ 18 นิ้ว ที่จะผลิตเริ่มแรก 3 พันตัน ของกำลังการผลิตทั้งหมด 15,000 ตันนั้น จะเป็นตัวหลัก และที่เหลืออีก 7-8 เดือนที่เราจะผลิตและขาย น่าจะทำเงินได้ประมาณ 500-600 ล้านบาท และมีกำไรจากตัวนี้ 70-80 ล้านบาท ” นายพัชวัฎกล่าว
โดยหากผลิตท่อเหล็กขนาด 18 นิ้วได้เต็มปี จะทำเงินได้เกิน 1 พันล้านบาทต่อปี และจะดันให้รายได้รวมของบริษัทเกินกว่า 8 พันล้านบาท ซึ่งน่าจะเป็นเป้าของรายได้ในปีต่อไป และแนวโน้มราคาเหล็กต้องปรับเพิ่มด้วย
โดยล่าสุด SAM ควบรวมกิจการ กับบริษัท อินเตอร์ สตีล อินดัสทรี จำกัด โดยรับโอนทรัพย์สินและ หนี้สินทั้งหมด ซึ่งมีสินทรัพย์มูลค่า 1,325.53 ล้านบาท และเงินกู้ระยะยาวจากสถาบันการเงินจำนวน 245.53 ล้านบาท คงเหลือมูลค่าสินทรัพย์สุทธิจำนวน 1,080 ล้านบาท ซึ่งบริษัทจะชำระโดยออกหุ้นสามัญ จำนวน 60 ล้านหุ้นนั้นส่งผลให้บริษัทได้เข้าครอบครองและใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินทั้งหมดของ บริษัท อิน เตอร์ สตีล อินดัสทรี จำกัด รวมทั้งบันทึกในบัญชีของบริษัทแล้วทั้งหมดตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคม 2548 ปัจจุบันบริษัทยังมิได้รับโอนทางทะเบียนสำหรับที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ของบริษัท อินเตอร์ สตีล อินดัสทรี จำกัด เนื่องจากบริษัท อินเตอร์ สตีล อินดัสทรี จำกัด ได้ใช้สินทรัพย์ดังกล่าวเป็นหลักประกัน สินเชื่อกับสถาบันการเงินแห่งหนึ่ง
ดังนั้นบริษัทจึงอยู่ระหว่างการจัดหาสินเชื่อเพื่อชำระเงินกู้ระยะยาว ดังกล่าวข้างต้น เพื่อไถ่ถอนสินทรัพย์ดังกล่าว หลังจากนั้นบริษัทจึงจะสามารถโอนแล้วรับสินทรัพย์ดัง กล่าวมาเป็นสินทรัพย์ของบริษัท ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณต้นเดือนพฤษภาคมนี้
นายพัชวัฎ กล่าวว่า จากปัจจัยที่เกิดขึ้นหลายอย่างรอบด้าน โดยเฉพาะโครงการเมกะโปรเจ็กต์ที่จะล้าช้ากว่ากำหนด แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัท เพราะโครงการที่ซื้อท่อเหล็กจะเป็นโครงการที่ดำเนินการแล้ว อย่างสนามบินสุวรณภูมิ ที่ยังคงเดินหน้าต่อไป และอีกหลายโครงการที่จะเห็นเชื่อว่าปี 50 ก็น่ามีเกิดขึ้นหลายโครงการ
“ ของเรามีการจำหน่ายท่อให้กับโครงการใหญ่ ๆ เยอะ อย่างาสนามบินสุวรรณภูมิก็ใช้ท่อของเราเยอะมาก รถไฟฟ้ามหานครก็มีโครงการที่จะเชื่อมต่ออีก เราก็จะได้อานิสงส์จากโครงการเหล่านี้เพิ่มขึ้นและปัญหาการเมืองรุมเร้าไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัท เพราะพบว่าบริษัทยังมีงานเข้ามาต่อเนื่อง ”วัฎกล่าว
สำหรับการส่งท่อเหล็กไปขายยังต่างประเทศนั้น ขณะนี้ได้รับความสนใจจากหลายประเทศ แต่เนื่องจากเป้าหมายการผลิตของ SAM คือการผลิตเพื่อรองรับความต้องการในประเทศ จึงจะส่งออกเป็นลำดับต่อไป แต่แผนการส่งออกก็ยังมีอยู่เพียงแต่รอโอกาสและจังหวะ
|
|
|
|
|