Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน1 พฤษภาคม 2549
'เบียร์ช้าง'จ่อซื้อขายพ.ค.นี้ สิงคโปร์สบช่องเทขายหุ้น             
 


   
www resources

โฮมเพจ ไทยเบฟเวอร์เรจส์ จำกัด (มหาชน)

   
search resources

ไทยเบฟเวอเรจ, บมจ.
Stock Exchange




2 ผู้ถือหุ้นใหญ่สัญชาติสิงคโปร์ "SILVERCORD CAPITAL - GOLDEN CAPITA" ขายหุ้น"ไทยเบฟเวอเรจ" ให้ "สิริวนา" บริษัทไทยเกือบ 1.6 พันล้านหุ้น หรือ 7.26% ในราคาไอพีโอ โบรกเกอร์ ชี้กระบวนการพิจารณาเร็วเกินคาด เชื่อเตรียมลิสต์สิงคโปร์กลางเดือนนี้ "กิตติรัตน์" พร้อมลาออกจากตำแหน่งรับผิดชอบ เชื่อตลาดหุ้นจะได้ผู้จัดการคนใหม่ที่เหมาะสมเข้ามาทำงานแทน

แหล่งข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์ กล่าวถึง ขั้นตอนการพิจารณาแบบรายการแสดงข้อมูล (ไฟลิ่ง) ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ว่า ขั้นตอนปกติในการพิจารณาแบบรายการไฟลิ่งของตลาดหุ้นไทยหรือสิงคโปร์จะต้องใช้เวลาประมาณ 60 วัน แต่กรณีการยื่นไฟลิ่งบริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตเบียร์ช้างต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของประเทศสิงคโปร์ใช้เวลาในการพิจารณาเพียงประมาณ 45 วัน

ทั้งนี้ บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ ได้มีการยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงานก.ล.ต.สิงคโปร์ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมีนาคม 2549 ที่ผ่านมาภายหลังจากที่รอการปิดงบผลการดำเนินงานของบริษัทงวดปี 2548 ที่ผ่านมา

"ตลาดหุ้นสิงคโปร์อยากได้หุ้นขนาดใหญ่ๆ ของเรามาก จึงต้องเร่งรีบขบวนการพิจารณาไฟลิ่งให้เร็วจากปกติ ซึ่งคาดว่าหุ้นบมจ.ไทยเบฟเวอเรจ น่าจะซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ได้ไม่น่าจะเกินวันที่ 20 พ.ค.นี้"แหล่งข่าวกล่าว

สำหรับบมจ.ไทยเบฟเวอเรจ ถือว่าเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่ตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศหลายแห่งมีความสนใจให้มาจดทะเบียนโดยผลการดำเนินงานของไทยเบฟเวอเรจ และบริษัทย่อยงวดปี 2548 มีกำไรสุทธิ 10,409.37 ล้านบาท คิดเป็นกำไรหุ้นละ 0.47 บาท ใกล้เคียงกับปี 2547 ที่มีกำไรสุทธิ 10,417.47 ล้านบาท หรือ 0.47 บาทต่อหุ้น โดยที่ประชุมผู้ถือหุ้นยังอนุมัติการจัดสรรกำไรจากผลการดำเนินงานปี 2548 เป็นเงินปันผลรวมทั้งสิ้น 5,280 ล้านบาท หรือหุ้นละ 0.24 บาท

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า กรณีการเตรียมที่จะจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ของบมจ.ไทยเบฟเวอเรจ ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเองได้ประกาศแสดงความรับผิดชอบในกรณีดังกล่าวด้วยการลาออกจากตำแหน่งกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เนื่องจากไม่สามารถรักษาบริษัทขนาดใหญ่ของประเทศให้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศตามคำเชิญของตนเองได้

"เรื่องเบียร์ช้าง อาจจะไม่ใช่เพียงแค่การแสดงความรับผิดชอบ แต่ส่วนตัวผมมองว่าเรื่องที่ผมจะต้องรับผิดด้วย เพราะถือว่าเป็นเรื่องที่ผมดูแลโดยตรง ผมพูดไว้ชัดเจนว่าวันที่เบียร์ช้างจดทะเบียนในตลาดหุ้นสิงคโปร์ผมจะไม่เป็นเอ็มดีตลาดหลักทรัพย์"นายกิตติรัตน์กล่าว

ทั้งนี้ ส่วนตัวไม่ห่วงเรื่องคนที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์คนต่อไป เพราะในอดีตที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์มักจะได้ผู้จัดการที่เหมาะสมกับทุกช่วงทุกสมัยอย่างเสมอ

ด้านรายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) แจ้งว่า เมื่อวันที่ 27 เมษายน2549 บริษัท สิริวนา จำกัด ได้ซื้อหุ้นบริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด(มหาชน) ผู้ผลิตเบียร์ช้าง จาก SILVERCORD CAPITAL (SINGAPORE) LIMITED. และ GOLDEN CAPITAL (SINGAPORE) LIMITED. จำนวน 1,597,200,000 ล้านหุ้น หรือ 7.26%

ทั้งนี้ ระบุราคาที่ซื้อขายคือราคาไอพีโอ โดยนายชัยยุทธ ปิลันธน์โอวาท อดีตผู้บริหารบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ร่วมเสริมกิจ ในฐานะกรรมการบริษัท และนายขจรศักดิ์ วันรัตน์เศรษฐ ในฐานะกรรมการบริษัทเป็นผู้รายงาน

สำหรับรายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ที่บริษัทได้แจ้งในแบบรายการแสดงข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานก.ล.ต.เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2548 อันดับ1. Risen Mark Enterprise Ltd. จำนวน 5,537,600,000 หุ้น หรือ 25.17% อันดับ 2.Good Show Holdings Limited จำนวน 4,194,400,000 หุ้น หรือ 19.07% อันดับ 3.นายเจริญ สิริวัฒนภักดี จำนวน 3,156,500,000 หุ้น หรือ 14.35% อันดับ 5.คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี จำนวน 3,156,500,000 หุ้น หรือ 14.35% อันดับ 5. GOLDEN CAPITAL (SINGAPORE) LIMITED จำนวน 1,012,000,000 หุ้น หรือ 4.60%

ทั้งนี้ได้มีการแจ้งว่า GOLDEN CAPITAL (SINGAPORE) LIMITED เป็นบริษัทที่นายเจริญ สิริวัฒนภักดีและคุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี ถือหุ้นในสัดส่วนรวม 25%

อนึ่ง ก่อนหน้านี้บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ ได้ยื่นคำขอเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนครั้งแรก (ไอพีโอ) ต่อสำนักงานก.ล.ต. หลังจากที่ประชุมผุ้ถือหุ้นของบริษัทได้มีมติอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 22,000 ล้านบาท เป็น 29,000ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 7,000 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้(พาร์) 1 บาทต่อหุ้น โดยจะเป็นการแบ่งจัดสรรให้ประชาชนทั่วไปไม่เกิน 6,000 ล้านหุ้น และ 1,000 ล้านหุ้นรองรับการใช้สิทธิซื้อหุ้นส่วนเกิน   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us