|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
Regulator ยัน"กฟผ."ต้องลดสัดส่วนถือหุ้นในบริษัทลูกทั้งเอ็กโก้และราชบุรีให้ต่ำกว่า 25% ตามระเบียบพัสดุจัดซื้อจัดจ้าง และต้องไม่ให้ฝ่ายบริหารทำงานซ้ำซ้อน หากต้องการเข้าประมูลผลิตไฟฟ้าเอกชนหรือ IPP รอบใหม่ คณะอนุกรรมการพยากรณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้าชี้เศรษฐกิจขยายตัวต่ำปรับแผนพยากรณ์ใหม่แล้วส่งลูกให้ กฟผ.ทำ PDP-2006
นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ประธานคณะกรรมการกำกับดูแลกิจการไฟฟ้า(Regulator) เปิดเผยว่า คณะกรรมการฯยังคงยืนยันมติเดิมที่จะให้บริษัทผลิตไฟฟ้า จำกัด(มหาชน) หรือเอ็กโก้ และบริษัทผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) จะเข้ายื่นประมูลผลิตไฟฟ้าตามโครงการรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตเอกชนรายใหญ่ หรือ IPP ได้ก็ต่อเมื่อการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ต้องลดสัดส่วนการถือหุ้นใน 2 บริษัทให้ต่ำกว่า 25% ตามระเบียบพัสดุการจัดซื้อจัดจ้างของสำนักนายกรัฐมนตรี ขณะเดียวกันก็จะต้องไม่มีฝ่ายบริหารที่ซ้ำซ้อนระหว่าง 2 บริษัทดังกล่าวกับกฟผ. แม้ว่ากฟผ.จะไม่ได้เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแล้วก็ตาม
"ตามมติเดิมคณะรัฐมนตรี (ครม.) กำหนดว่ากฟผ.จะได้รับสิทธิผลิตไฟฟ้า 50% และเปิดให้เอกชนแข่งขัน 50% ของความต้องการใช้ไฟฟ้าใหม่ ซึ่งหลักการนี้ก็ยังเหมือนเดิม ดังนั้น ทางกฟผ.ก็จะต้องทำตามระเบียบ เพราะการบริหารที่ไปไขว้กันอยู่ก็จะเกิดการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม "นายยุงยุทธกล่าว
อย่างไรก็ตาม การประชุมครั้งนี้ยังมีมติเห็นชอบการพยากรณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้าใหม่ในระหว่างปี 2549-2564 เนื่องจากค่าพยากรณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้าเดิมที่จัดทำขึ้นเมื่อเดือนม.ค.2547 กรณีเศรษฐกิจขยายตัวปานกลางที่ใช้เป็นฐานการลงทุนของการไฟฟ้านั้นเริ่มคลาดเคลื่อนเพราะอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจหรือ GDP ปี 2548 ได้ขยายตัวลดลงเหลือ 4.5% จากที่คาดการณ์เดิมจะขยายตัว 6.5% ดังนั้นคณะอนุกรรมการพยากรณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้าจึงได้ปรับปรุงใหม่โดยคิด GDP ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจฉบับที่ 10-12 เท่ากับ 5.2%,5.5%และ 5.5% ตามลำดับ รวมถึงการคำนึงการสร้างระบบรถไฟฟ้า 10 สายของรัฐบาล
นายวีรพล จีรประดิษฐกุล กรรมการใน Regulator กล่าวว่า สัดส่วนการผลิตไฟฟ้าคาดว่าคงจะขึ้นอยู่กับรัฐบาลชุดใหม่ว่าจะยึดมติครม.เดิมที่จะให้กฟผ. 50% หรือไม่เพราะจะขึ้นอยู่กับคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เป็นผู้พิจารณา อย่างไรก็ตาม สัดส่วนการผลิตไฟฟ้าของ IPP จากการพยากรณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้าใหม่ล่าสุดคาดว่าจะมีกำลังการผลิตประมาณ 4,500-5,500 เมกะวัตต์ (ช่วงปี 2554-2559) ซึ่งคิดเป็น 50% ที่เหลือจากการให้กฟผ.ผลิต โดยหลังจากนี้กฟผ.ก็จะต้องไปจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าหรือ PDP-2006 ใหม่ที่จะต้องพิจารณาว่ากฟผ.จะมีศักยภาพการลงทุนมากน้อยเพียงใดด้วย
"จากนี้ไปก็จะไปดูรายละเอียดต่างๆ รวมไปถึงเชื้อเพลิงในการเปิดประมูลซึ่งยอมรับว่าคงจะต้องมีถ่านหินเข้ามาเป็นทางเลือกด้วยแน่นอน"นายวีรพลกล่าว
|
|
|
|
|