"ชูศักดิ์ ธรรมสิทธิ์บูรณ์" ผู้บริหารโน้ตบุ๊กฟูจิตสึตคนใหม่ ชูกลยุทธ์ "แบรนด์พาวเวอร์" ต่อยอดพรีเมียมแบรนด์ต่อ โดดเด่นด้านดีไซน์ เทคโนโลยีและบริการ ตั้งเป้าปีนี้เพิ่มส่วนแบ่งตลาดเป็น 5% จากเดิมที่มีอยู่แค่ 2% ด้วยโน้ตบุ๊กรุ่นใหม่พลังดูโอ คอร์ พร้อมกระตุ้นตัวแทนจำหน่าย 2 รายที่เหลือด้วยเงินอุดหนุนตามแรงขาย ผุดไลท์ช็อปอีก 10 แห่งภายในปีนี้

ชูศักดิ์ ธรรมสิทธิ์บูรณ์ ผู้จัดการประจำประเทศไทยคนใหม่ กลุ่มผลิตภัณฑ์พีซี บริษัท ฟูจิตสึ ซิสเต็ม บิสสิเนส (ประเทศไทย) จำกัด ได้กล่าวถึงทิศทางการทำตลาดในปี 2549 ต่อจากผู้บริหารรายเดิม "ณภพ นุสติ" โบกมือลาจากไปประกอบธุรกิจส่วนตัวทางด้านซอฟท์แวร์ว่า สืบเนื่องจากฟูจิตสึนับเป็นผู้ผลิตโน้ตบุ๊กคอมพิวเตอร์ในระดับโกลบอรแบรนด์ 1 ใน 5 ของโลกด้วยประสบการณ์กว่า 70 ปี และเป็นที่ยอมรับในตลาดเรื่องคุณภาพและดีไซน์ โดยแผนการทำตลาดในปีปฏิทินของฟูจิตสึซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา จะยังคงมุ่งเน้นในเรื่องแบรนด์พาวเวอร์ที่ถือเป็นศักยภาพของแบรนด์โน้ตบุ๊กฟูจิตสึทางด้านนวัตกรรมใน 3 เรื่อง

"ดีไซน์ คุณภาพเทคโนโลยีและบริการ จะเป็นสิ่งที่ฟูจิตสึจะยังคงยืดมั่นในการทำตลาดปีนี้"

ชูศักดิ์ ธรรมสิทธิ์กล่าวถึงยอดขายของฟูจิตสึในปีที่ผ่านมาว่า ยอดขายในไตรมาสแรกระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีอัตราเติบโตถึง 20% ซึ่งทำให้การตั้งเป้าหมายยอดขายในปี 2549 นี้ของฟูจิตสึในการขยายส่วนแบ่งทางการตลาดจากเดิมที่มีอยู่เพียง 2% เพิ่มเป็น 5% ในปี 2549 หรือคิดเป็นอัตราการเติบโต 75%

"หากมองถึงสภาวการณ์ตลาดคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลโดยรวมในประเทศไทยนั้นคาดกันว่า จะเติบโตประมาณ 13% ปีที่ผ่านมาภาพตลาดโดยรวมของโน้ตบุ๊กในประเทศไทยมีอัตราการเติบโตสูงถึง 48% โดยเป็นตลาดโน้ตบุ๊กระดับไฮเอนด์ประมาณ 10% เท่านั้น ซึ่งถือเป็นตลาดหลักของฟูจิตสึ และเราก็จะยังคงเน้นตลาดนี้อย่างต่อเนื่อง"

ภายใต้อัตราการเติบโตดังกล่าว ชูศักดิ์ ผู้บริหารที่มาจากบริษัท ซีเมนส์ จำกัดในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายขายอาวุโสในส่วนการขายอินฟอร์เมชั่นแอนด์คอมมิวนิเคชั่นส์ โมบายประเมินตลาดสาเหตุที่ทำให้โน้ตบุ๊กคอมพิวเตอร์เป็นที่ชื่นชอบจากผู้บริโภคในช่วงที่ผ่านมาให้ฟังว่า โน้ตบุ๊กคอมพิวเตอร์นับเป็นตลาดที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ราคาของโน้ตบุ๊กที่ถูกลงขณะที่มีการพัฒนาประสิทธิภาพกลับดีขึ้น แถมยังมีหลากหลายรุ่นให้เลือก มีระบบสื่อสารแบไร้สาย มีการติดตั้งสื่อบันทึกข้อมูลที่เป็นแบบดีวีดีไรท์เตอร์ สิ่งเหล่านี้ถือเป็นจุดขายสำหรับตลาดอินโฟเทนเม้นท์ หน้าจอกว้างไวด์สกรีน และน้ำหนักที่บางเบา

"ขนาดตลาดรวมคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลของไทยในปีนี่น่าจะมีขนาดประมาณ 1.5 ล้านเครื่อง ในจำนวนนี้ 4 แสนเครื่องเป็นตลาดของโน้ตบุ๊กคอมพิวเตอร์หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 30% ของตลาดรวม"

ด้วยจุดเด่นในตัวผลิตภัณฑ์ที่สร้างชื่อให้กับฟูจิตสึโด่งดังขึ้นมาด้วยคุณภาพและดีไซน์ที่บางเบา และมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ ซึ่งจะยังคงเป็นจุดขายของฟูจิตสึอย่างต่อเนื่องในปีนี้ ชูศักดิ์บอกว่า ด้วยวิสัยทัศน์ของฟูจึตสึในการเป็นผู้นำทางด้านนวัตกรรมไอทีระดับโลก ในปีนี้ทางบริษัทจึงเปิดตัวโน้ตบุ๊กคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ในคราวเดียวกันถึง 7 รุ่น4 ซีรีส์ ประกอบไปด้วยฟูจิตสึ ไลฟ์บุ๊ก เอสซีรีส์ 2 รุ่น ประกอบด้วย เอส6311 กับเอส7110 คิวซีรี่ส์มี 1 รุ่น คิว2010 เอ็นซีรีส์ 2 รุ่น เอ็น6410 กับเอ็น3530 และอีซีรีส์ 2 รุ่นเช่นกัน คือ อี8110 กับอี8210

"โดดเด่นด้วย คุณภาพเทคโนโลยี ดีไซน์ของฟูจิตสึสะท้อนถึงการแสดงออกถึงตัวตน สไตล์เท่คลาสิกไร้กาลเวลาและสง่างาม และยังตอบสนองการใช้งานทางด้านโมบิลิตี้ทั้งในกลุ่มคนทำงาน ผู้บริหารและคนรุ่นใหม่"

ส่วนกลุ่มเป้าหมายของโน้ตบุ๊กฟูจิตสึจะยังคงเป็นกลุ่มเดิม ที่เป็นผู้ใช้มืออาชีพและผู้บริหารที่มีสไตล์ที่เป็นตัวของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นวิศวกร แพทย์ นักการตลาด ดีไซน์เนอร์ นอกจากนี้ยังเหมาะกับคนรุ่นใหม่ที่ต้องการพลังสร้างสรรค์ในงาน

"ฟูจิตสึยังคงเน้นลูกค้าเป้าหมายระดับไฮเอนด์ระดับราคาเฉลี่ย 65,000-100,000 บาทขึ้นไป เราจะไม่ลงมาเล่นตลาดล่างเท่าไรนัก"

ชูศักดิ์ยังบอกตลาดใหม่ที่จะขยับเข้าหาว่า ปีนี้เราได้ขยายฐานไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่อยากสัมผัสฟูจิตสึโน้ตบุ๊ก ด้วยโน้ตบุ๊กรุ่นพิเศษราคา 49,000 บาท

สำหรับเทคโนโลยีที่จะเปิดตัวในปีนี้ของฟูจิตสึ ผู้จัดการประจำประเทศไทย กลุ่มผลิตภัณฑ์พีซีย่ำว่า จะเป็นเซนติโน ดูโอ โมบาย เทคโนโลยีทั้งหมด โดยจะเน้นซีพียูของอินเทลเป็นส่วนใหญ่

นโยบายทางด้านบริการซึ่งถือเป็นจุดขายของฟูจิตสึอีกเรื่องหนึ่ง ชูศักดิ์บอกว่า ด้วยคุณภาพการให้บริการของศูนย์บริการลูกค้าฟูจิตสึเวอร์วิสเซ็นเตอร์ที่เปิดบริการไม่มีวันหยุด ที่ถือเป็นกลยุทธ์ประการหนึ่งของฟูจิตสึที่สร้างความแตกต่างจากแบรนด์อื่นที่วันนี้ได้เปิดให้บริการครบ 6 ปีเต็มซึ่งฟูจิตสึได้พัฒนาประสิทธิภาพในการซ่อมบำรุงให้เลือกในอัตราเฉลี่ยเพียง 3 ชั่วโมงจากเดิม 1 วันลงมา

ชูศักดิ์ยังได้กล่าวถึงความเปลี่ยนในเรื่องของช่องทางจัดจำหน่ายภายหลังที่เข้ารับตำแหน่งว่า ได้มีการปรับช่องทางจัดจำหน่ายใหม่ โดยได้ลดจำนวนตัวแทนจำหน่ายที่มีอยู่เดิม 4 รายก่อนหน้านี้ลดลงเหลือเพียง 2 ราย ทั้งนี้เพื่อต้องการให้ตัวแทนจำหน่ายโฟกัสการทำตลาดของฟูจิตสึให้มากขึ้น รวมถึงแก้ปัญหาการตัดราคากันเองของตัวแทนจำหน่ายเหมือนที่เคยเกิดขึ้นในอดีต

"ถามว่า การตัดราคามีมากแค่ไหนนั้น คงบอกว่า มีไม่มาก"

ส่วนการที่จะทำให้ตัวแทนจำหน่ายโฟกัสการทำตลาดให้ฟูจิตสึนั้น ผู้จัดการประจำประเทศไทยบอกว่า เราได้ปรับโมเดลเม็ดเงินสนับสนุนการขายใหม่จากเดิมที่ให้งบเป็นก้อนเปลี่ยนมาเป็นรูปแบบของเปอร์เซ็นต์แทนขึ้นอยู่กับจำนวนยอดขายของแต่ละตัวแทนจำหน่ายว่า สามารถทำยอดได้มากแค่ไหน

"สมมติว่า ทำยอดขายได้ 1 หมื่นเครื่องอาจได้เงินอุดหนุน 1% เกิน 2 หมื่นเครื่องได้ 2% เป็นต้น ซึ่งการทำอย่างนี้น่าจะทำให้ตัวแทนจำหน่ายทุ่มเททำตลาดให้บริษัทมากขึ้นกว่าเดิม"

นอกจากจะเปลี่ยนรูปแบบการให้งบอุดหนุนทางการตลาดแล้ว ชูศักดิ์ยังได้ปรับรูปแบบการขายโมแดลโน้ตบุ๊กเป็นในรูปแบบที่เรียกว่า เอ็กซ์คลูซีฟ โปรดักส์ ทำให้ตัวแทนจำหน่ายแต่ละรายจะมีโปรดักส์ที่ทำตลาดไม่เหมือนกัน

"เอสซีรีส์ถือเป็นซีรีส์ที่ขายดีที่สุด ประมาณ 60-70% มาจากซีรีส์นี้ ซึ่งเราก็จะกระจายรุ่นในเอสซีรีส์ให้กับตัวแทนจำหน่ายแต่ละรายทำตลาด รวมถึงซีรีส์อื่นๆ ด้วย จึงทำให้หมดปัญหาเรื่องราคาแล้วยังสามารถตรวจสอบยอดขายได้อย่างรวดเร็วด้วย"

ซูศักดิ์ได้กล่าวถึงช่องทางจัดจำหน่าย "ไลฟ์ช็อป" ของฟูจิตสึซึ่งถือว่า ฟูจิตสึบุกเบิกผู้แทนจำหน่ายในรูปคอนเซ็ปต์ช็อปโน้ตบุ๊กรายต้นๆ ในเมืองไทยว่า ปัจจุบันฟูจิตสึมีช็อปดังกล่าวอยู่ 11 แห่ง โดยทางฟูจิตสึจะเป็นผู้เข้าไปลงทุนการตกแต่งช็อปให้ทั้งหมดเพียงแต่ต้องมีการคอมมิสยอดขายเท่านั้น โดยในปีนี้มีแผนที่จะขยายช่องทางจำหน่ายดังกล่าวเพิ่มอีก 10 แห่งรวมเป็น 21 แห่ง

"เวลานี้ พร้อมที่จะเปิดช็อปได้แล้ว 2-3 แห่งจึงทำให้มั่นใจว่า ปีนี้ 10 แห่งน่าจะทำได้ตามที่วางไว้"

สำหรับคอนเซ็ปต์การตกแต่งช็อปของฟูจิตสึ ชูศักดิ์บอกว่า จะเน้นภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้เป็นไปในแนวเดียวกันที่สื่อถึงความทันสมัยและสไตลิช รวดเร็วด้วยบริการที่ยอดเยี่ยมและอบอุ่นในบรรยากาศที่ลูกค้ารู้สึกเป็นส่วนหนึ่งและผ่อนคลายเหมือนอยู่บ้าน โดยจะมีมุมกาแฟและอินเทอร์เน็ตเพื่อให้ลูกค้าใช้ขณะรอรับเครื่อง

"รูปแบบช็อปนั้น จะนำแนวคิดที่ทดลองทำที่ศูนย์การค้า ซิมลิม ประเทศสิงคโปร์มาเป็นแบบในการตกแต่งให้กับไลท์ซ็อปของฟูจิตสึในประเทศไทย"

ชูศักดิ์ ธรรมสิทธิ์บูรณ์ได้กล่าวถึงสาเหตุที่ผู้บริโภคคนไทยเลือกซื้อโน้ตบุ๊กของฟูจิตสึว่า จากผลการวิจัยผู้ใช้ฟูจิตสึพบว่า องค์ประกอบในการตัดสินใจเลือกซื้อ ฟูจึตสึนั้น อันดับแรกมาจากความมั่นใจในบริการที่ดี สอง เรื่องของแบรนด์อิมเมจ และสาม ดีไซน์ ส่วนแนวโน้มเทคโนโลยีใหม่อย่าง ดูโอ คอร์ ชิพประมวลผล กินไฟต่ำจะมาปรับโฉมโน้ตบุ๊กให้ผนกวรวมความสามารถไว้หลายอย่างเป็นอินโฟเทนเมนต์ทั้งเกม บันเทิง ประมวลผล ข้อมูลสื่อสารทำงานรวดเร็วยิ่งขึ้น กับไลฟ์สไตล์และลักษณะงานของแต่ละอาชีพยิ่งขึ้น เทคโนโลยีใหม่นี้ก็จะเข้ามายกเครื่องพีซีสู่ความเป็นมัลติมีเดียพีซี สร้างคอมพ์สายพันธุ์ใหม่ เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคปัจจุบันหันมาเน้นความบันเทิงมากขึ้น ควบคู่กับการใช้งาน เช่น เกม ดาวน์โหลดเพลง รวมถึงผนกวอุปกรณ์ไอทีเข้ากับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ใน้บานได้ เพื่อนำไปสู่ศูนย์รวมความบันเทิงดิจิตอลในบ้าน