|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
โอกิลวี่วัน เวิลด์วายด์ ประเทศไทย เผยผลสำรวจ OgilvyOne Executive Poll ชี้ให้เห็นว่าผู้บริหารจากบริษัทชั้นนำต่าง ๆ ยอมรับว่าการเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านรัฐบาลที่เกิดขึ้นเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่ส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจในปีนี้ แต่ยังคงมีแผนเพิ่มงบด้านการตลาดต่อไป แต่ต้องใช้ความระวัดระวังมากขึ้น
การจัดทำแบบสำรวจครั้งนี้ โอกิลวี่วัน ร่วมมือกับเว็บไซต์ MSN.com และนิตยสารแบรนด์เอจ โดยมีผู้บริหารจากบริษัทต่าง ๆ ของไทยจำนวน 325 คนร่วมตอบแบบสอบถาม ครอบคลุมประเด็นเกี่ยวกับความผันผวนทางเศรษฐกิจ การใช้งบประมาณเกี่ยวกับกิจกรรมด้านสื่อการตลาด และพฤติกรรมของผู้บริโภค ผู้ตอบแบบสอบถามมาจากกลุ่มผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น สินค้าอุปโภคบริโภค สื่อสาร ธนาคาร การเงิน ประกันภัย อสังหาริมทรัพย์ โทรคมนาคม เป็นต้น
กนกพร นิตย์ธีนานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอกิลวี่วัน เวิลด์วายด์ ประเทศไทย กล่าวถึงผลสำรวจครั้งนี้ว่า แม้ปีนี้จะมีปัจจัยที่กระทบต่อเศรษฐกิจและการลงทุนอยู่มากมาย แต่บริษัทต่างๆ ก็ยังให้ความสำคัญกับการทำการตลาด โดยเน้นการเสริมสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า หรือ CRM และการใช้สื่อแบบ interactive มากขึ้นในการสื่อสารเกี่ยวกับแบรนด์หรือตัวสินค้า แนวโน้มดังกล่าวยืนยันได้ว่า ทุกวันนี้การใช้สื่อที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง ควบคู่กับการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้ามีความสำคัญพอๆ กับคุณภาพของสินค้าและบริการเลยทีเดียว
การสำรวจในเรื่องผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจนั้น ปัจจัยอันดับหนึ่งคือการเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้าน รัฐบาล โดยคิดเป็น 28.5% อันดับสองคือวิกฤตการณ์ราคาน้ำมัน คิดเป็น 27.8% ตามมาด้วยภาวะ เงินเฟ้อ เหตุการณ์ความไม่สงบที่ภาคใต้ และไข้หวัดนก
ด้านการใช้จ่ายเกี่ยวกับกิจกรรมทางการตลาดและส่งเสริมความสัมพันธ์กับลูกค้าในปีนี้ ผู้ตอบแบบสอบถาม 60% ยังคงมีแผนที่จะเพิ่มงบประมาณด้านนี้ แต่นับว่าน้อยลงจากปีที่แล้วซึ่งมีสัดส่วนสูงถึง 79% ส่วนนักธุรกิจที่ร่วมตอบแบบสอบถามอีก 12.7% มีแผนจะลงทุนกับกิจกรรมการตลาดด้วยเงินจำนวนสูง โดยตั้งใจจะใช้กลยุทธ์ด้าน CRM ด้วยเช่นกัน
การใช้จ่ายเกี่ยวกับสื่อด้านการตลาด การจัดกิจกรรมการตลาด (event marketing) ยังได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่ง คิดเป็นสัดส่วน 22.8% ตามมาด้วยสื่อสิ่งพิมพ์ โทรทัศน์ สื่อแบบ interactive ไดเรกเมล์ และสื่อกลางแจ้งตามลำดับ ในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบธุรกิจหลายรายได้เริ่มหันมาใช้สื่อรูปแบบใหม่ ๆ อย่างอินเทอร์เน็ตมากขึ้น แสดงให้เห็นว่าแนวโน้มการใช้สื่อแบบ interactive จะมีมากขึ้น เนื่องจากอินเทอร์เน็ตและเครือข่ายบรอดแบนด์นั้นได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในกลุ่มผู้บริโภค
ผู้ตอบแบบสอบถามถึง 91.5% มีความเห็นว่าสภาวะการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปส่งผลให้การเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ ตลอดจนการรักษาฐานลูกค้าเดิมนั้นทำได้ยากขึ้น
ทั้งนี้นอกจากผู้บริโภคจะมีความรู้เกี่ยวกับสินค้าและบริการที่ดีขึ้นและระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้นแล้ว ยังมีผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยที่นิยมเปรียบเทียบราคาสินค้าก่อนตัดสินใจซื้อ
|
|
|
|
|