"ตัวฉันเองมีภาพอันแสนจะโรแมนติกที่อยู่ในความใฝ่ฝันและวาดภาพเอาไว้ในใจว่า จะเลี้ยงดูลูกๆ ให้เติบโตขึ้นในสภาพแวดล้อมคนละอย่างกับตัวเอง นั่นคือ ต้องการให้พวกเขาอยู่ในเมืองเล็กๆ ที่สามารถเดินไปโรงเรียนได้" Jessica Lange เจ้าของรางวัล Oscar ดาราสนับสนุนฝ่ายหญิงยอดเยี่ยมจากเรื่อง Tootsie เล่าถึงแรงบันดาลใจในการเลี้ยงดูลูกๆ และการปรับปรุงตกแต่งบ้านและสวนให้กลายเป็นสวรรค์บนดินของครอบครัว

"ยิ่งกว่านั้น ฉันต้องการให้ลูกๆ เติบโตแบบใกล้ชิดกับครอบครัวขยาย" จึงเป็นเหตุผลให้เธอและครอบครัวเลือกปักหลักอยู่ในคฤหาสน์สมัย Victoria ยุคทศวรรษ 1890 ติดๆ กับบ้านคุณแม่ของดาราเจ้าบทบาท คือปลูกบนเนินเขาในเมือง Stillwater ที่มีแม่น้ำ St.Croix ไหลผ่าน

เพราะเป็นคฤหาสน์ที่มีรูปทรงผิดแผกจากมาตรฐานของยุคนั้น "เราจึงต้องปรับปรุงใหม่ชนิดที่เรียกว่าสร้างใหม่เลยก็ว่าได้ งานฟื้นฟูบูรณะที่ตัวบ้านนั้นถือว่าสาหัสเอาการแล้วนะ พอมาเจองานปรับปรุงตกแต่งบริเวณโดยรอบก็ยิ่งหนักหนากว่ามาก" คุณแม่ลูกสามผู้คว้ารางวัล Academy Award มาครอง 2 ครั้งพยายามพรรณนาให้ฟังดูว่า งานปรับปรุงบ้านในครั้งนั้นหนักระดับรับมือไหว แต่จริงๆ แล้วมันคือการเข้าไปแผ้วถางพื้นที่ป่าละเมาะขนาด 2 เอเคอร์ที่แสนจะรกนั่นเอง แถมยังต้องจัดการกับผนังหินปูนและก้อนหินขนาดยักษ์ที่ฝังลงไปในดินเพื่อปูเป็นทางเดินสำหรับทางลาดชันบนเนินเขาให้อยู่ในสภาพเหมาะสมอีกต่างหาก

Jessica Lange ทุ่มเทเวลาและพลังทั้งหมดให้กับงานจัดสวนนานถึง 9 ปีจึงทำให้ป่าละเมาะกลายสภาพเป็นสวนสวรรค์ของครอบครัว

เธอลงมือทั้งๆ ที่ไม่เคยทำสวนมาก่อน แต่เชื่อมั่นว่าอย่างไรเสียก็คงสืบสายเลือดจากป้า 2 คนมาบ้าง

"ฉันเริ่มลงมือกับพื้นที่เล็กๆ ก่อน เป็นพื้นที่สวนรูปเกือกม้าที่อยู่ติดกับตัวบ้าน ที่นี่ยังไม่ได้ปลูกอะไรเลย ยังไม่ได้รับการออกแบบหรือตกแต่งอะไรทั้งนั้น"

Jessica Lange ลงมือโดยใช้แนวทางการจัดสวนแบบ English cottage ด้วยการลงไม้จำพวกบัว เฟิร์น และไม้เลื้อย รอบๆ สระปูกระเบื้องโมเสกโดยวางรูปแบบเหมือนกระโปรงบานของสาวน้อยบ้านนา

"เมื่อได้ลงมือจัดสวนแปลงที่อยู่ตรงกลางนี้แล้ว ทำให้ฉันเกิดความคิดต่อเนื่องอีกว่า จะจัดสวนอีก 3 แปลงสำหรับลูกทั้ง 3 คนโดยใช้สี ต้นไม้ แสงและเงาเป็นสื่อสะท้อนความรู้สึกของฉันที่มีต่อลูกแต่ละคน"

สำหรับ Shura ลูกสาวคนโต ซึ่งเป็นลูกติดกับสามีคนก่อน Jessica Lange ออกแบบให้เป็นสวนที่แลดูเหมือนปกคลุมด้วยผ้าม่านโทนสีม่วงด้วยการลง lilacs, violets, irises และ hydrangeas ที่ให้ดอกสีม่วงอ่อนหวานสวยงาม ต่อมา หลังจาก Shura เข้าพิธีวิวาห์ซึ่งจัดในสวนสวรรค์แปลงที่ดาราเจ้าบทบาทออกแบบและลงมือปลูกต้นไม้ให้ด้วยตัวเองแล้ว คุณแม่ Jessica Lange ก็เพิ่มกรงนกรูปเค้กแต่งงานของ Shura ลงไปในสวนของลูกสาวสุดที่รัก (โปรดดูภาพประกอบ)

Jessica Lange เล่าถึงแรงบันดาลใจในการจัดสวนให้ลูกสาวและลูกชายที่เกิดกับ Sam Shepard สามีคนปัจจุบัน ซึ่งร่วมชีวิตกันมาตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษ 1980 ว่า

"กับ Hannah ลูกสาวอีกคนหนึ่ง ฉันใฝ่ฝันจะจัดสวนด้วยต้นไม้และดอกไม้ที่ทำให้หญิงสาวทุกคนเกิดความรู้สึกเบิกบานหัวใจเมื่อเดินไปพบทุ่งหญ้า prairie เป็นครั้งแรก ต้นไม้ที่ปลูกจึงอยู่เรี่ยดินหรือไม่ก็มีกลิ่นฉุน อาทิ Echinacea, Monarda และ Yarrow"

กับลูกชายคนเดียว เจ้าของรางวัล Oscar บรรยายด้วยความสุขว่า "บริเวณด้านข้างของที่ดินแปลงนี้มีต้นโอ๊กรูปทรงสวยงามอยู่หลายต้น ทำให้พื้นที่บริเวณนั้นแลดูลึกลับและเงียบสงบ ฉันจึงตัดสินใจจัดสวนแปลงนี้ให้ Walker ด้วยการปลูกต้นไม้แล้วปล่อยให้เติบโตตามธรรมชาติ อาทิ toad lilies, trillium, violets และ jack-in-the-pulpit นอกจากนี้ ฉันยังลงต้นไม้ให้ร่มเงาอีกเยอะแยะ รวมทั้งต้น moss และ hostas ที่ให้ความเขียวร่มครึ้มตลอดเวลา"

เพราะลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเป็นนักตกปลาตัวยง ทำให้ Jessica Lange เพิ่มสระน้ำเล็กๆ ให้ และตกแต่งด้วยน้ำพุทำด้วยทองแดงหล่อเป็นรูปนางฟ้าอุ้มปลาไว้ในมือ จุดนี้เองที่เป็นแรงบันดาลใจให้เธอเพิ่มองค์ประกอบของน้ำลงไปในสวนทั้งหมดด้วย "เริ่มจากสระน้ำ จากนั้นก็มีน้ำตก แล้วก็ตามด้วยลำธาร และต่อมาก็เพิ่มสระน้ำลงไปอีก"

เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา Jessica Lange และ Shepard ผู้สามีตกลงซื้อที่ดินแปลงที่อยู่ติดๆ กันเพิ่มอีกแปลงหนึ่ง ทำให้ดาราเจ้าบทบาทได้งานออกแบบเต็มไม้เต็มมืออีกครั้งหนึ่ง "จู่ๆ ฉันก็มีที่ดินอีกหนึ่งเอเคอร์ให้ได้ออกแบบตามที่ชอบ แต่ฉันไม่ได้เข้าไปรื้ออะไรมาก ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติของมัน ที่แปลงนี้จึงเกือบจะเป็นป่าทั้งแปลง ยกเว้นบริเวณรอบๆ สระว่ายน้ำและบ้านพักรับรองแขกที่สร้างเพิ่มขึ้นมา"

นั่นหมายความว่า Jessica Lange เริ่มว่างจากงานจัดสวนอีกวาระหนึ่งและคันไม้คันมือตามประสานักจัดสวนคนขยัน "ฉันไม่มีพื้นที่ว่างเหลือให้ได้ออกแบบสนุกมืออีกแล้ว ยกเว้นจะซื้อที่แปลงใหม่เพิ่มเข้ามาหรือไม่ก็รื้อสนามหญ้าทิ้ง!"

แปลและเรียบเรียงโดย ดรุณี แซ่ลิ่ว
จากนิตยสาร Architectural Digest/March 2006