ซิตี้กรุ๊ป ประเทศไทย เปิดตัวสำนักงานค้าหลักทรัพย์ของบล.ซิตี้คอร์ป (ประเทศไทย) อย่างเป็นทางการในวันที่ 20 เมษายน ที่ผ่านมา นับเป็นการเพิ่มบริการครั้งสำคัญที่จะนำไปสู่เป้าหมายโบรกเกอร์ครบวงจรในอนาคต

บล.ซิตี้คอร์ป (ประเทศไทย) ก่อตั้งขึ้นในปี 2512 ในฐานะบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์และเปลี่ยนมาเป็นบริษัทหลักทรัพย์ในเดือนสิงหาคม 2543 ทำธุรกิจให้คำปรึกษาทางการเงิน การออกและจัดจำหน่ายตราสารหนี้ และได้ยื่นขอใบอนุญาตธุรกิจซับโบรกเกอร์ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เพื่อครอบคลุมธุรกิจในด้านตลาดหุ้นที่บริษัทยังไม่มี โดยได้รับใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในเดือนพฤศจิกายนและเริ่มดำเนินธุรกิจค้าหลักทรัพย์ตั้งแต่วันที่ 6 มีนาคม

"เป้าหมายของเราคือจะต้องติดอันดับ top 5 โบรกเกอร์ต่างชาติในไทยและก้าวต่อไปคือการเป็นโบรกเกอร์" เดวิด แรทลิฟฟ์ หัวหน้าธุรกิจหลักทรัพย์ ซิตี้กรุ๊ป เอเชียแปซิฟิก กล่าว

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ก.ล.ต.ไม่มีนโยบายที่จะออกใบอนุญาต โบรกเกอร์ให้ผู้ประกอบการเพิ่มขึ้นจากที่มีอยู่ ดังนั้น หากซิตี้คอร์ป จะยกฐานะขึ้นเป็นโบรกเกอร์ก็จำเป็นจะต้องซื้อใบอนุญาตจากโบรกเกอร์รายเดิมหรือใช้วิธีเข้าร่วมทุน

ปัจจุบัน บล.ซิตี้คอร์ปอยู่ในฐานะซับโบรกเกอร์ ส่งคำสั่งซื้อขายเกือบทั้งหมดผ่านทาง บล.ไทยพาณิชย์ซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญ กลุ่มลูกค้าของ บล.ซิตี้คอร์ปจะเป็นนักลงทุนสถาบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทในเครือของซิตี้กรุ๊ปที่มีกระจายอยู่ทั่วโลก แต่มีเป้าหมายที่จะขยายเข้าสู่นักลงทุนสถาบันของไทยด้วยเช่นกัน

คุณภาพของงานวิจัยเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการเจาะตลาดและให้บริการลูกค้าสถาบัน ซึ่ง บล.ซิตี้คอร์ปได้สร้างทีมวิเคราะห์หลักทรัพย์โดยดึงตัวแอนดรูว์ สตอทซ์ จาก บล.แมกควอรี มารับหน้าที่ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ โดยในปีที่ผ่านมา สตอทซ์และทีมงานได้รับการจัดอันดับเป็นทีมนักวิเคราะห์ยอดเยี่ยม อันดับ 2 ของไทยจากการสำรวจของนิตยสารเอเชีย มันนี่ ปัจจุบัน ทีมนักวิเคราะห์ของบล.ซิตี้คอร์ปมีจำนวน 7 คน ครอบคลุมหุ้น 20 บริษัทและจะเพิ่มขึ้นเป็น 50 บริษัทหรือคิดเป็นสัดส่วน 90% ของมูลค่าตลาดหุ้นภายในสิ้นปีนี้

ผลงานในไทยที่ผ่านมาของ บล.ซิตี้คอร์ป อาทิ การออกตราสารหนี้ระยะกลางครั้งแรกของไทยในปี 2544 นอกจากนี้ยังเป็นผู้ร่วมจำหน่ายการแปลงสินทรัพย์ลูกหนี้บัตรเครดิตของอิออน ธนสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ (securitization) เป็นครั้งแรกของไทยในปีที่ผ่านมาและถือเป็นการทำ securitization ที่ใหญ่ที่สุดด้วยเรตติ้ง AAA

ปัจจุบันซิตี้กรุ๊ปมีเครือข่ายธุรกิจหลักทรัพย์อยู่ใน 14 ประเทศ ในเอเชียแปซิฟิก มีพนักงานกว่า 10,500 คน ให้บริการครอบคลุมทั้งในด้านตลาดทุน การซื้อขายหลักทรัพย์ การวิเคราะห์หลักทรัพย์ ผลิตภัณฑ์ด้านตราสารอนุพันธ์ รวมทั้งโปรดักต์อื่นๆ