เกียรตินาคิน ธนาคารน้องใหม่ที่เปิดดำเนินธุรกิจเป็นรายที่ 2 รองจากธนาคารทิสโก้ ได้เปิดแถลงผลดำเนินงาน รอบปี 2548 เพื่อสะท้อนกลยุทธ์อันสำคัญของการทำธุรกิจ ฐานะผู้เล่นหน้าใหม่ในตลาด
ฐิตินันท์ วัธนเวคิน ประธานสายงานบริหารการเงินและเงินฝาก ได้ขยายความถึงกลยุทธ์ตรงนี้ว่า ความที่เกียรตินาคินเป็นธนาคารขนาดเล็ก ที่ต้องมุ่งเน้นการทำธุรกิจแต่เฉพาะในพื้นที่ที่มีความถนัด การใช้กลยุทธ์รักษาต้นทุนดอกเบี้ย และความสอดคล้องในการกำหนดช่วงระยะเวลาระหว่างการรับเงินฝากและการให้สินเชื่อที่ต้องสัมพันธ์กันนั้น จึงถือเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องเน้นย้ำ
ตลอดช่วงการทำธุรกิจในปีที่ผ่านมา เกียรตินาคินจึงมุ่งเน้นการระดมเงินทั้งในรูปเงินฝากจากผู้ออมทั่วไป และระดมทุนในรูปตราสาร หรือออกตั๋วบีอี ที่มีอายุตั้งแต่ 1-3 ปี เพื่อนำมาใช้เป็นแหล่งเงินทุนที่สอดคล้องกับอายุสินเชื่อของธนาคารที่มีตั้งแต่ 3-4 ปีขึ้นไป
ดังจะเห็นได้ว่า เกียรตินาคินได้พยายามระดมทุนเงินฝากที่มีอายุยาวถึง 36 เดือน เข้ามาให้มากที่สุดคือกว่า 22,000 ล้านบาท เพื่อช่วยรักษาความสัมพันธ์ในระยะเวลาของเงินฝากกับเงินกู้ในพอร์ตคงเหลือไว้ให้ได้นานกว่า 1 ปี แม้จะต้องแบกต้นทุนส่วนต่างอยู่บ้างก็ตาม แต่ยังเป็นเรตที่ยอมรับได้
โดยภาพรวมด้านการระดมทุนของธนาคาร จะมีทั้งเงินฝาก และหุ้นกู้รวมกันราว 54,000 ล้านบาท เพิ่มจาก 10,000 ล้านบาทเมื่อครั้งวิกฤติเศรษฐกิจ โดย 80% อยู่ในรูปเงินฝากทั่วไป และอีก 20% เป็นการระดมทุนจากนิติบุคคล ซึ่งมีฐานลูกค้ากว่า 8,000 ราย ส่วนใหญ่เป็นเงินฝากระยะยาวเฉลี่ยบัญชีละ 6 ล้านบาท
ปี 2549 ธนาคารตั้งเป้าขยายฐานเงินฝากขึ้นเป็น 66,800 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นกว่า 16,000 ล้านบาท ทั้งนี้ กลยุทธ์การระดม เงินฝาก ซึ่งต้องมีระยะเวลาที่สอดคล้องกับช่วงเวลาการให้สินเชื่อ เช่น สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ที่ยาวนานถึง 36 เดือนนั้น ยังคงเป็นกลยุทธ์ที่ธนาคารต้องเน้นย้ำต่อไป ขณะเดียวกันธนาคารยังมีแผนระดมทุนผ่านตราสารหนี้อายุ 3 ปี เพิ่มอีกราว 4,000 ล้านบาท
ด้านภาพรวมผลดำเนินงานในปี 2548 สินทรัพย์รวมของธนาคารขยายตัว 18% คิดเป็นมูลค่า 68,051 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 2,436 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 228 ล้านบาท หรือ 10.33% โดยผลกำไรที่เพิ่มขึ้นมาจากการขยายตัวในพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ และสินเชื่อเพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในอัตรา 30% และ 18% ตาม ลำดับ
ทั้งนี้ ธนาคารเกียรตินาคินแชร์ส่วนแบ่งตลาดสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ทั้งที่เป็นมือหนึ่งและมือสองอยู่ราว 5-10% โดยต่างจังหวัดถือเป็นตลาดสำคัญจากที่มีสัดส่วนสูงถึง 80% ในปีนี้ธนาคารยังมีแผนขยายสาขาบริการเพิ่มเติมอีก 3 จังหวัดคือ จันทบุรี ชุมพร และฉะเชิงเทรา
แต่จากสภาพการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจเช่าซื้อและอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นนั้น ธวัชไชย สุทธิกิจไพศาล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ได้ให้ภาพแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อรถยนต์ว่า มีความเป็นไปได้ ที่ตลาดจะได้เห็นดอกเบี้ยนี้เขยิบขึ้นไปอยู่ที่ 4% เมื่อสิ้นไตรมาส 4 ของปีนี้ จากปัจจุบันที่ทรงตัวอยู่แถวๆ 3.4-3.5%
แม้เกียรตินาคินจะมองว่าแนวโน้มการแข่งขันของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ในปี 2549 จะทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นก็ตาม แต่พวกเขาก็ตั้งเป้าหมายอัตราการเจริญเติบโตไว้โดยเฉลี่ยที่ 24%
|