ธนาคารทิสโก้แถลงผลการดำเนินงานงวดไตรมาสแรกปีนี้มีกำไรสุทธิ 544 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.2% จาก 517.12 ล้านบาทในงวดเดียวกันของปีที่แล้ว สาเหตุสำคัญมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยจากอัตราผลตอบแทนจากเงินให้สินเชื่อปรับตัวสูงขึ้น รายได้ดอกเบี้ยจากรายการระหว่างธนาคารและตลาดเงิน รายได้เงินปันผลจากเงินลงทุนและกำไรจากการขายเงินลงทุน

ถึงแม้กำไรจะเพิ่มขึ้น แต่ดูเหมือนว่าผู้บริหารของทิสโก้จะถูกตั้งคำถามถึงเรื่องยอดพอร์ตสินเชื่อที่ลดลงจากการแถลงรอบนักวิเคราะห์ที่จัดขึ้นก่อนหน้ารอบสื่อมวลชนอยู่พอสมควรจนทำให้ปลิว มังกรกนก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารต้องกล่าวถึงเรื่องนี้ก่อนที่จะถูกสื่อมวลชนตั้งคำถาม

"ยอดสินเชื่อลดลงเพราะช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ทิสโก้ เริ่มชะลอการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อ เพื่อจะรอดูความแน่นอนของอัตราดอกเบี้ย ไม่ใช่ว่าเราเสียความสามารถในการแข่งขัน แต่ธุรกิจ ทุกประเภทจะมี cycle ของมันเอง ถ้าเราเร่งปล่อยสินเชื่อมากตอนนี้ถึงแม้ว่าจะมีกำไร แต่ในอนาคตกำไรจะค่อยๆ ลดลง"

ปัจจัยสำคัญของการบริหารสถาบันการเงินที่ปลิวเน้นในการ แถลงข่าวครั้งนี้ รวมถึงในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับ "ผู้จัดการ" ช่วงต้นเดือนสิงหาคมปีที่แล้วไม่ใช่เรื่องอัตราดอกเบี้ยที่จะอยู่ในระดับสูงหรือต่ำ แต่เป็นการควบคุมส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ย (spread management) ให้อยู่ในระดับที่สามารถทำกำไรและแข่งขันได้ ซึ่งงวดไตรมาสแรกปีนี้ spread ของทิสโก้อยู่ที่ 3.9% ลดลงจากไตรมาส 4 ปีที่แล้ว 0.2%

ยอดสินเชื่อไตรมาสแรกของทิสโก้มีจำนวน 63,699.10 ล้าน บาท ลดลง 0.4% จากสิ้นปี 2548 โดยสินเชื่อเช่าซื้อมีสัดส่วนมากที่สุด 70% สินเชื่อการค้าและอุตสาหกรรม 20% สินเชื่อเคหะ 3% และสินเชื่ออื่นๆ 7% ทั้งนี้ คาดว่าสัดส่วนสินเชื่อการค้าและอุตสาหกรรมในปีนี้จะเพิ่มขึ้น เนื่องจากภาคอุตสาหกรรมมีการใช้กำลังการผลิตค่อนข้างสูงและต้องมีการขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น เป็นโอกาสของการปล่อยสินเชื่อประเภทนี้ นอกจากนี้ทิสโก้ยังได้เริ่มปล่อยสินเชื่อให้กับกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและเล็ก หรือ SMEs ด้วย

ถึงแม้จะถูกแรงกดดันจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นตามแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น แต่การมีธุรกิจหลากหลายตามคอนเซ็ปต์ธนาคารครบวงจร (Universal Banking) ที่ทิสโก้ทำมาเป็นรายแรกๆ ของประเทศช่วยให้รายได้จากค่าธรรมเนียมในธุรกิจอื่นๆ เข้ามาทดแทนส่วนที่หายไปได้ โดยไตรมาสแรกปีนี้ทิสโก้มีรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย 755 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 27.6% โดยส่วนสำคัญมาจากกำไรจากการลงทุน (trading) ซึ่งมีถึง 274 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 123.2%

สำหรับความคืบหน้าของการปรับโครงสร้างการถือหุ้นเป็นบริษัทโฮลดิ้ง ขณะนี้ได้มีการตั้งบริษัท ทิสโก้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ขึ้นเป็นบริษัทแม่ของกลุ่มทิสโก้แทนธนาคารเรียบร้อยแล้ว ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยได้พิจารณาและเสนอแผนดังกล่าวของทิสโก้ เพื่อขออนุมัติจากกระทรวงการคลังตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ และเมื่อได้รับอนุมัติแล้วก็จะดำเนินการเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนใน ตลาดหลักทรัพย์แทนที่ธนาคารทิสโก้ตามที่กำหนดไว้