Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ สิงหาคม 2539








 
นิตยสารผู้จัดการ สิงหาคม 2539
บุญญรักษ์ นิงสานนท์ ถึงเวลาเบนหัวเรือธนาคารออมสินสู่ปากอ่าว             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารออมสิน

   
search resources

ธนาคารออมสิน
บุญญรักษ์ นิงสานนท์
Banking




วันอังคารที่ 2 กรกฎาคม 2539 ที่ผ่านมา ถือได้ว่าเป็นการเริ่มต้นแห่งมิติใหม่ของธนาคารออมสิน ธนาคารที่รับฝากเงินเริ่มต้นจาก 1 บาทแห่งเดียวของไทย

เพราะเป็นวันเข้ารับตำแหน่งใหม่ของ ดร.บุญญรักษ์ นิงสานนท์ ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน คนที่ 10 แต่เป็นผู้อำนวยการออมสินคนแรกที่มาจากคนนอก

"สำหรับวันแรกที่ผมเข้ามารับมอบงานในตำแหน่งผู้อำนวยการของธนาคารออมสิน ซึ่งตั้งมายาวนาน ความตั้งใจแรก คือ เป้าหมายที่จะให้ธนาคารออมสินมีการทำงานที่ดีสนองตอบต่อคนไทยทั้งหมด และการทำให้ธนาคารเป็นสถาบันที่สร้างความก้าวหน้าในอาชีพให้กับพนักงานทุกคนได้อย่างมั่นคง สำหรับแนวทางการก้าวสู่การทำงานในอนาคตที่จะต้องแข่งกับสถาบันการเงินอื่น" แถลงการณ์แรกของผู้อำนวยการ ธ.ออมสินคนใหม่ ในวันรับมอบงาน

นโยบายดังกล่าว เกิดจากการที่ผู้อำนวยการคนใหม่ มองว่า ปัจจุบันในแวดวงของสถาบันการเงิน แม้แต่ภาคเอกชนก็ถือเป็นยุคหัวเลี้ยวหัวต่อที่ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง หลายแห่งมีการสร้างการผลิตใหม่ มีการปรับตัวพัฒนา เพื่อให้เข้าสู่ระบบแข่งขันของตลาดการเงินที่เข้มข้น สิ่งที่ทุกแห่งเน้น คือ การพัฒนาระบบการทำงานที่ต้องเริ่มจากคน ซึ่ง ธ.ออมสินก็ไม่มีความคิดที่ต่างไปจากที่อื่น เพราะผู้อำนวยการคนใหม่ประกาศว่า ต่อไปนี้ คนของธ.ออมสินต้องรู้จักการทำงานเป็นทีม และต่อไปในธ.ออมสินจะไม่มีลักษณะการทำงานคนเดียว

แม้รายละเอียดในฐานะคนใหม่อย่าง ดร.บุญญรักษ์ ยังต้องรอการปรึกษากับคณะกรรมการของธนาคารในการหารายละเอียดด้านการทำงาน แต่สำหรับแผนการพัฒนาศักยภาพให้มีความคล่องตัวเพื่อการปรับตัวเข้าสู่ระบบธนาคารพาณิชย์ และสภาวะเศรษฐกิจที่เป็นผลจากนโยบายการเปิดเสรีการเงินของรัฐบาล ธ.ออมสินได้เตรียมรับมือกับสถานการณ์ในด้านต่าง ๆ ไว้แล้วโดยหลักการต่อไปนี้

ด้านการพัฒนาองค์กร ธ.ออมสินได้ปรับโครงสร้าง เพื่อวางรากฐานการกระจายอำนาจการตัดสินใจไปสู่การบริหารให้มีความคล่องตัวมากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับการขยายตัวในการประกอบธุรกิจของธนาคารเชิงพาณิชย์ โดยปรับปรุงโครงสร้างการแบ่งส่วนงานของธนาคารในภาพรวม และเพิ่มหน่วยงานที่ทำหน้าที่รับผิดชอบการหาผลประโยชน์ในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อให้การบริหารงานเดินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ

"ส่วนของสำนักผู้อำนวยการเองก็มีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งเล็กน้อย คือ จะเสนอให้มีรองผู้อำนวยการเพิ่มเป็น 2 คน แต่โครงสร้างอื่นก็ยังคงไว้เหมือนเดิม คือ จากคณะกรรมการธนาคาร แยกเป็นสายบริหารมีผู้อำนวยการ รองผู้อำนวยการ แล้วแยกสายปฏิบัติงานเป็น 4 สาย คือ สายปฏิบัติการ สายธุรกิจ สายบริหาร และสายบัญชีการเงิน และอีกสายงานที่สนองตอบนโยบายรัฐบาลแบ่งเป็นคณะกรรมการบริหารโครงการสินเชื่อเพื่อพัฒนาชนบท และคณะกรรมการจัดการโครงการฯ

ด้านการพัฒนาระบบงาน ได้นำคอมพิวเตอร์มาใช้ในหน่วยงานทุกระบบตั้งแต่การจัดเก็บข้อมูล ปรับปรุงระบบการตรวจสอบภายใน ระบบงานสลากออมสินพิเศษ ฯลฯ รวมทั้งการนำเทคโนโลยีด้านคอมพิวเตอร์มาใช้กับงานสาขา เพื่อให้บริการฝาก-ถอนต่างสาขาในระบบออนไลน์ได้เหมือนธนาคารพาณิชย์ทั่วไป โดยใช้เครือข่ายสื่อสารข้อมูลผ่านดาวเทียมให้กว้างขวางและรวดเร็วขึ้น โดยผู้อำนวยการคนใหม่ กล่าวว่า

"แม้ตอนนี้ ธ.ออมสิน จะขาดเทคโนโลยีสมัยใหม่อยู่บ้าง แต่เรื่องของการมีน้ำใจ และจิตสำนึกในการบริการลูกค้าจะต้องทำได้ดีไว้เสมอ เรายังคงรับเงินฝากเริ่มต้นที่ 1 บาท และพร้อมที่จะนับเหรียญที่ประชาชนนำมาฝาก ในขณะที่ธนาคารอื่นไม่มีใครทำ จุดเด่นนี้เรายังคงไว้แต่ก็มีแผนจะปรับปรุง และพัฒนาธุรกิจเงินฝากโดยการเพิ่มรูปแบบเงินฝากและเงื่อนไขการให้บริการทางการเงินเพิ่มขึ้น"

การพัฒนาการตลาดครั้งนี้ยังรวมถึงการเพิ่มบริการธนาคารทางโทรศัพท์ ปรับปรุงการให้บริการชำระค่าสาธารณูปโภคต่าง ๆ หรือบริการชำระเบี้ยประกันภัยบุคคลที่สาม รวมทั้งขยายตลาดการลงทุนหาผลประโยชน์ ซึ่งนอกจากการสนับสนุนเงินทุนแก่รัฐบาลในรูปแบบของการลงทุนในพันธบัตร ตั๋วสัญญาใช้เงินแล้ว ยังขยายการลงทุนหาผลประโยชน์ในภาคเอกชนและประชาชนทั่วไปในรูปของหุ้นกู้ หุ้นสามัญลงทุนในหน่วยลงทุนและการกระจายสินเชื่อต่าง ๆ ทั้งสินเชื่อบุคคล เช่น สินเชื่อผู้ค้ารายย่อย สินเชื่อเคหะ ฯลฯ และสินเชื่อเอกชน เช่น สินเชื่อสู่ภูมิภาค สินเชื่อเพื่อธุรกิจ ฯลฯ

"การพัฒนาสินเชื่อดังกล่าว จากตัวอย่างสินเชื่อเพื่อการเคหะจากเดิมที่ ธ.ออมสิน แต่ละสาขา สามารถปล่อยกู้ต่อรายได้ในวงเงินไม่เกิน 10 ล้านบาท ถ้าเกินนั้นจะต้องผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการบริหาร ต่อไปจะมีการพิจารณาเปลี่ยนแปลงการเพิ่มวงเงินอนุมัติ เพื่อลดขั้นตอนการปฏิบัติงานที่จะช่วยเพิ่มอำนาจการแข่งขันให้คล่องตัวและขยายการลงทุนระยะยาวให้มากขึ้น เพราะเท่าที่ผ่านมา ธ.ออมสินมีการออมมากกว่าการปล่อยกู้ เพราะต้องทำตัวเป็นธนาคารของธนาคารอีกที" ดร.บุญญรักษ์ กล่าวถึงรายละเอียดการเปลี่ยนแปลงบางอย่างของธ.ออมสิน ซึ่งในอีกหลาย ๆ ด้านยังต้องรอการปรึกษากับคณะกรรมการบริหารของธนาคารในรายละเอียด

สำหรับตัวเลขเงินฝากของธ.ออมสินในพ.ศ.2538 มียอดรวม 182,302.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.42% จากพ.ศ.2537 และปล่อยสินเชื่อเพียง 14,281.14 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 3,090.97 ล้านบาท

ส่วนการพัฒนาบุคลากร โดยกำหนดนโยบายหลักเน้นการสร้างเสริมประสบการณ์เชิงพาณิชย์ มาอบรมพนักงานทั้งระดับปฏิบัติการและระดับบริษัท รวมทั้งสนับสนุนให้มีการศึกษาต่อในระดับต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ

ผู้อำนวยการคนล่าสุด กล่าวว่า นโยบายที่วางไว้ทุกด้านของธนาคารล้วนตรงกับคำฝากฝังของรัฐมตรีว่าการกระทรวงการคลังที่เรียกไปพบก่อนรับตำแหน่งว่า ต้องการให้ตนดูแล ธ.ออมสิน ให้ดี โดยเน้นเรื่องความั่นคงพร้อมกับขยายงานออกไปให้ก้าวสู่เป้าหมายและนโยบายที่วางไว้ได้ ซึ่งโดยส่วนตัวผู้อำนวยการคนล่าสุดมีความตั้งใจว่า จะเริ่มจากเรื่องขวัญและกำลังใจของพนักงานเป็นเรื่องแรก เพราะเชื่อว่า ทุกธรกิจต้องเริ่มจากคน ซึ่งเป็นตัวแปรที่สำคัญที่สุด เมื่อคนพร้อมแผนงานต่าง ๆ ก็จะก้าวไปได้อย่างมั่นคง รวมทั้งการผันระบบของธนาคารสู่รูปแบบของธนาคารพาณิชย์มากขึ้นตามเป้าหมายด้วย

งานใหม่ของ ดร.บุญญรักษ์ ในวัย 49 ปี คงไม่ใช่เรื่องน่าหนักใจสำหรับผู้เคยมีทั้งประวัติการเรียนทั้งระดับปริญญาตรีด้านบริหารการคลัง จากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาโททั้งด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและการฑูตและกฎหมาย และปริญญาเอกสาขาเดียวกับปริญญาโท จากมหาวิทยาลัยทัฟส์ เมืองบอสตัน มลรัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา ประสบการณ์ทุกสาขาที่ได้ศึกษามาจึงน่าจะช่วยได้มากกับการทำงานใหม่ในครั้งนี้

ประกอบกับประสบการณ์การทำงานในด้านต่าง ๆ อาทิ ที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม. ดร.พิจิตต รัตตกุล ผู้จัดการฝ่ายแผนงานธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) รองเลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อม ผู้อำนวยการกองวางแผนส่วนรวม สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมืองสมัยรัฐบาลอานันท์ ปันยารชุน ปฏิบัติงานประจำรองนายกรัฐมนตรีเสนาะ อูนากูล กรรมการสถาบันพัฒนาชนบท มหาวิทยาลัยขอนแก่น

ประสบการณ์เหล่านี้ คงจะเป็นส่วนเสริมการทำงานในตำแหน่งผู้อำนวยการธนาคารออมสินคนที่ 10 ของ ดร.บุญญรักษ์ ได้เป็นอย่างดี และคงทำให้พนักงานธนาคารออมสินเริ่มงานกับนายใหม่ด้วยขวัญกำลังใจที่ดีอย่างที่ผู้อำนวยการคนล่าสุดหวังไว้ได้ โดยไม่ต้องหวั่นว่าเป็นคนนอก หรืออย่างน้อยก็ไม่ต้องหวั่นต่ออาถรรพ์ตัวเลข 13 เหมือนสถาบันการเงินระดับชาติ อย่างธนาคารแห่งประเทศไทย

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us