กลุ่มมาลีนนท์แจงไม่มีแผนนำบริษัทซีวีดี เอ็นเตอร์เทนเมนท์เข้าควบรวมกับบริษัทบีอีซี เวิลด์ พร้อมดันคนจากบีอีซีเทโร เข้านั่งเป็นกรรมการในซีวีดี เอ็นเตอร์เทนเมนท์ เตรียมศึกษาจุดอ่อน-จุดแข็งเพื่อนำมาปรับกลยุทธ์ให้บริษัทเติบโตเพิ่มขึ้น

นายประสาร มาลีนนท์ รองประธานกรรมการ และรองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซีวีดี เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ CVDเปิดเผยก่อนที่จะเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้นว่า หลังจากที่นางสาวแคทลีน มาลีนนท์และนางสาวเทรซี่ แอนด์ มาลีนนท์เข้ามาถือหุ้นในบริษัทซีวีดี เอ็นเตอร์เทนเมนท์นั้น ทางบริษัทไม่มีแผนที่จะรวมกิจการของบริษัทซีวีดี เอ็นเตอร์เทนเมนท์เข้ากับบริษัทบีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BECแต่อย่างใด ซึ่งการเข้าลงทุนของนางสาวแคทลีน และนางสาวเทรซี่เป็นการลงทุนส่วนตัวไม่เกี่ยวข้องกับบริษัท ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องทำคำเสนอซื้อหรือเทนเดอร์ออฟเฟอร์จากผู้ถือหุ้นราย ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)ก็ไม่ได้แจ้งให้ต้องทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์แต่อย่างใด

ทั้งนี้บริษัท บีอีซี เวิลด์ไม่มีนโยบายเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทซีวีดี เอ็นเตอร์เทนเมนท์ เว้นแต่ในอนาคตบริษัทซีวีดี เอ็นเตอร์เทนเมนท์ มีโครงการใหม่ๆ เกิดขึ้น อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงการถือหุ้นอีกครั้งและขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการหาบุคคลที่มีความสามารถทางด้านการตลาด เพื่อให้เข้ามารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ แทนนายเผด็จ หงษ์ฟ้า เนื่องจากธุรกิจของบริษัทส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการตลาดเป็นหลัก

วานนี้(25 เม.ย.)บริษัทซีวีดี เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ได้จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ซึ่งมีวาระเกี่ยวกับการเลือกตั้งกรรมการใหม่ แทนกรรมการคนเก่าที่ได้หมดวาระ ซึ่งประกอบด้วย นายประสาร มาลีนนท์,นายสุนทร โภคาชัยพัฒน์,นายเดชา ตุลานนท์และนายปัญจะ เสนาดิสัย ซึ่งในส่วนของนายปัญจะนั้นได้แจ้งว่าจะขอไม่รับตำแหน่งต่อไป ดังนั้นคณะกรรมการบริษัทจึงได้เสนอนายชาญศักดิ์เฟื่องฟูซึ่งเป็นผู้บริหารบริษัทบีอีซี เทโร เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด(มหาชน)ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทบีอีซี เวิลด์ เข้ามาเป็นกรรมการและเสนอให้ต่อวาระกรรมการอีก 3 คน

อย่างไรก็ตามได้มีผู้ถือหุ้นเสนอซื้อนายกมลพรรธน์ เมฆวรวุฒิ เข้ามาเป็นกรรมการ โดยนายกมลพรรธน์นั้นเข้ามาลงทุนในหุ้นบริษัทซีวีดี เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ตั้งแต่ปี 2543โดยทยอยซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งในวันที่เข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้นนั้น ได้ถือหุ้นในจำนวน3.7 ล้านหุ้น โดยเป็นหุ้นของนายกมลพรรธน์ส่วนหนึ่งและอีกส่วนมาจากการได้รับมอบฉันทะมา ซึ่งสาเหตุที่นายกมลพรรธน์เข้ามาลงทุนในบริษัท เพราะเห็นว่าเป็นบริษัทที่ดีและมีสภาพคล่องอย่างมาก ดังนั้นจึงทำให้ต้องมีการลงคะแนนเลือกตั้งกรรมการใหม่ ผลปรากฏว่านายประสาร,นายสุนทร,นายเดชาและนายชาญศักดิ์ ได้รับเลือกเป็นกรรมการ

นอกจากนี้ในที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้มีการสอบถามถึงโครงการซื้อหุ้นคืนที่บริษัทได้ดำเนินการไปก่อนหน้านี้ ซึ่งก็ได้รับคำชี้แจงว่าบริษัทได้จัดโครงการดังกล่าว เนื่องจากเป็นการบริหารสภาพคล่องที่มีอยู่มากในช่วงเวลานั้น โดยบริษัทได้เริ่มซื้อหุ้นคืนในเดือนมีนาคม 2547 โดยซื้อในราคาหุ้นละ 50 บาท ซึ่งตามเกณฑ์ที่ระบุไว้นั้นในระยะเวลา 3 ปีจะไม่สามารถขายหุ้นออกมาได้ โดยจะครบระยะเวลาในเดือนมีนาคม 2550 ซึ่งขณะนั้นคณะกรรมการจะต้องพิจารณาอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไร โดยจะขึ้นอยู่กับความต้องการใช้เงินของบริษัท

นางสาวแคทลีน มาลีนนท์ กรรมการบริษัทซีวีดี เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด(มหาชน)เปิดเผยว่า หลังจากที่เข้ามาลงทุนในบริษัทแล้วก็จะต้องเข้าไปศึกษาถึงจุดอ่อนและจุดแข็งของบริษัท โดยจะพยายามแก้ไขจุดอ่อนของบริษัท เพื่อเป็นลดปัจจัยด้านความเสี่ยง ซึ่งบริษัทยังเน้นในธุรกิจเดิมเกี่ยวกับโฮมเอ็นเตอร์เทนเมนท์เหมือนเดิม และในอนาคตอาจจะมีการขยายธุรกิจที่เกี่ยวโยงกัน รวมถึงธุรกิจของบริษัทก็สามารถเกื้อหนุนหรือสนับสนุนในธุรกิจของบริษัทบีอีซี เวิลด์ ซึ่งเป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจด้านบันเทิงแบบเต็มรูปแบบได้