Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน26 เมษายน 2549
ธอส.รับสภาพอสังหาฯชะลอ3เดือนระบายNPAได้546ล้าน             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารอาคารสงเคราะห์

   
search resources

ธนาคารอาคารสงเคราะห์
ขรรค์ ประจวบเหมาะ
Banking and Finance




ผลการดำเนินงานธอส. 3 เดือนแรกกำไรหด 38% เหตุต้นทุนดอกเบี้ยพุ่งประกาศปรับขึ้นดอกเบี้ยกู้ พร้อมดูดเงินฝากลูกค้ารายย่อยเพิ่ม ส่วนยอดขายเอ็นพีเอลดตามภาวะอสังหาฯซบ ไตรมาสแรกขายได้เพียง 546 ล้านบาท

นายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยถึงสถานการณ์ของผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกปี 2549 (มกราคม-มีนาคม)ว่า ธอส.สามารถปล่อยสินเชื่อได้ 29,972 ล้านบาท เพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีการปล่อยที่ 28,045 ล้านบาท แต่ในด้านของตัวเลขการทำกำไรพบว่า มีผลกำไรลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 38% หรือ 538 ล้านบาท โดยมีกำไรเหลือเพียง 880 ล้านบาท จากที่ช่วงเดียวกันของปีก่อนกำไรอยู่ที่ 1,418 ล้านบาท

ทั้งนี้ สาเหตุมาจากต้นทุนด้านการเงินของธอส.เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ส่วนต่างระหว่างดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ (สเปรด)แคบลง จากที่เคยอยู่ในระดับ 1.8% เมื่อ 2 ปีก่อนเหลือเพียง 0.8% เท่านั้น ซึ่งปกติจะต้องอยู่ที่ระดับเกินกว่า 1% จึงเป็นอัตราที่เหมาะสม อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาธอส.ให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ซึ่งเป็นผู้กู้รายย่อยโดยส่วนใหญ่ในอัตราดอกเบี้ยคงที่แบบขั้นบันได ทำให้ไม่สามารถปรับขั้นอัตราดอกเบี้ยได้ เพราะเป็นการกู้แบบคงที่มีระยะเวลากำหนด

"ในช่วงไตรมาสแรกปีนี้แม้ว่าจะมีปัจจัยเรื่องราคาน้ำมัน อัตราดอกเบี้ยและการเมืองจะวุ่นวายแต่ยังมีประชาชนมากู้เงินมากขึ้น แต่ในช่วงวันที่ 1-21 เมษายนมียอดมาขอกู้แล้ว 5,244 ล้านบาทคาดทั้งเดือนน่าจะมียอดปล่อยกว่า 7 ,000 ล้าน ซึ่งจะต่ำกว่าเมษายนปีก่อนที่มียอด 9,300 ล้านบาท เนื่องจากผลอัตราดอกเบี้ยที่ปรับขึ้น และราคาน้ำมันที่ตึงตัวมากขึ้น โดยอัตราดอกเบี้ยที่ปรับขึ้น 1%ทำให้ต้องเพิ่มภาระการผ่อนต่อเดือนเพิ่มขึ้น 800 บาท" นายขรรค์กล่าว

ที่ผ่านมาธอส.ได้มีการปรับขึ้นเงินฝาก เนื่องจากต้องการรักษาลูกค้าเก่าที่เป็นลูกค้ารายใหญ่ให้ยังคงเก็บเงินไว้ที่ธอส. เพราะ 35% เป็นลูกค้ารายใหญ่ที่มีเงินฝากเกิน 1,000 ล้านบาท หากกลุ่มนี้ถอนเงินออกไปทีเดียวธนาคารต้องหาเงินเข้ามาเพิ่ม ดังนั้นธอส.จึงต้องการดึงลูกค้ารายย่อยเข้ามาฝากเพิ่มขึ้น ซึ่งยอมรับว่าทำได้ยากกว่าแบงก์พาณิชย์อื่น ๆ เนื่องจากมีจำนวนสาขาที่น้อยกว่า ทั้งนี้ดอกเบี้ยเงินกู้ที่ปรับเพิ่มขึ้นมายังไม่ส่งสัญญาณอันตราย เพราะเอ็นพีแอลยังปกติโดยอยู่ที่ 6% จาก 9.11% ส่วนเป้าการปล่อยกู้ในปีนี้อยู่ที่ 115,000 ล้านบาท

"เราเสียเปรียบแบงก์พาณิชย์ เพราะเขาไปปล่อยกู้ดอกเบี้ยสูงในธุรกิจเช่าซื้อและรถยนต์ ทำให้สามารถให้ดอกเบี้ยเงินฝากสูงได้ ขณะที่ธอส.เป็นผู้ปล่อยกู้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ ดังนั้นการให้ดอกเบี้ยเงินฝากในอัตราสูงจึงทำได้ลำบาก " นายขรรค์กล่าว

สำหรับผลการดำเนินงาน ณ วันที่ 31 มีนาคม 2549 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ธนาคารมียอดสินเชื่อคงค้างรวมทั้งสิ้น 489,707 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.83% โดยไตรมาสแรกของปี 2549 ธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้สูงถึง 29,972 ล้านบาท จำนวนทั้งสิ้น 47,354 ราย ซึ่งเป้าหมายสินเชื่อปล่อยใหม่ตลอดปี 2549 ตามเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังกำหนดไว้ที่ 115,000 ล้านบาท ด้านเงินฝาก ธนาคารมียอดเงินฝากรวมทั้งสิ้น 365,550 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.71%

ส่วนสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 523,946 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 68,440 ล้านบาท หรือ 15.03% เงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงเท่ากับ 9.03% หลังจากที่ธนาคารได้นำกำไรสุทธิหลังนำส่งกระทรวงการคลังมารวมแล้ว โดยมีหนี้สงสัยจะสูญ (NPL) ลดลง 3.11% คงเหลือ 6.0% ของยอดสินเชื่อรวม หรือ 29,371 ล้านบาท ทั้งนี้ธนาคารสามารถจำหน่ายทรัพย์ NPA ในไตรมาสแรกได้จำนวน 546 ล้านบาท คงเหลือ 8,887 ล้านบาท ซึ่งถือว่าลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียอดขาย 799 ล้านบาท

อนึ่ง ตามข้อมูลผลการขายNPA ในระยะเวลา 5 ปี( ปี 2544-2548) เปรียบเทียบกับNPA ที่ได้มาระหว่างปี มีการเคลื่อนไหวดังนี้ สามารถขายNPA ได้จำนวน 278 ล้านบาท , 1,960 ล้านบาท , 2,895 ล้านบาท ,3,638 ล้านบาท และปี 2548 ทำได้จำนวน 3,534 ล้านบาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us