Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน26 เมษายน 2549
หุ้นน้ำมันร่วงฉุดดัชนีหุ้นรูด             
 


   
search resources

Stock Exchange




ตลาดหุ้นไทยร่วงต่อเกือบ 8 จุดหลังราคาน้ำมันปรับตัวลดลง บล.เกียรตินาคิน เตือนนักลงทุนจับตาคำตัดสินศาลล้มลายกรณีทีพีไอ ขอออกจากแผนฟื้นฟู ขณะที่บล.แอ๊ดคินซัน แนะเลี่ยงซื้อหุ้นกลุ่มวัสดุก่อสร้างฯ

ภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์วานนี้( 25 เม.ย.) ตลอดทั้งวันดัชนีเคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบ โดยมีแรงขายจากหุ้นกลุ่มพลังงานออกมาค่อนข้างมากหลังราคาน้ำมันในตลาดโลกเริ่มปรับตัวลดลง ส่งผลทำให้ดัชนีปิดที่ 763.88 จุด ลดลง 7.66 จุด หรือ 0.99% โดยจุดสูงสุดของวันอยู่ที่ 771.31 จุด และจุดต่ำสุดอยู่ที่ 761.55 จุด มูลค่าการซื้อขาย 18,990.88 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 446.75 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 1,077.53 ล้านบาท นักลงทุนซื้อสุทธิ 1,524.28 ล้านบาท

สำหรับดัชนีกลุ่มพลังงานซึ่งเป็นกลุ่มที่ปรับตัวลดลงมากที่สุดโดยปิดที่ 16,885.26 จุด ลดลง 532.29 จุด หรือ 3.06% มูลค่าการซื้อขาย 4,179.50 ล้านบาท ขณะที่หุ้น PTTEP ราคาปิดที่ 130 บาท ลดลง 5 บาท หรือ 3.70% มูลค่าการซื้อขาย 1,395.16 ล้านบาท, หุ้น PTT ราคาปิดที่ 260 บาท ลดลง 8 บาท หรือ 2.99% มูลค่าการซื้อขาย 1,439.62 ล้านบาท, หุ้น TOP ราคาปิดที่ 68.50 บาท ลดลง 3.50 บาท หรือ 4.86% มูลค่าการซื้อขาย 859.34 ล้านบาท

นางวิริยา ลาภพรหมรัตน ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)เกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจัยหลักที่ส่งผลทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงมากจากแรงขายหุ้นในกลุ่มพลังงาน เนื่องจากนักลงทุนเริ่มมีความกังวลเกี่ยวกับการปรับลดค่าการกลั่นของบมจ.ปตท. หรือ PTT และบมจ.ไทยออยล์ หรือ TOP

ทั้งนี้ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลงเป็นอีกหนึ่งสาเหตุทำให้มีแรงขายหุ้นในกลุ่มดังกล่าวออกมาก

นอกจากนี้ ยังมีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องการปรับประมาณการจีดีพีของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่จะมีการแถลงให้วันนี้ว่าจะออกมาอย่างไร หลังจากภาคธุรกิจได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น

อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งที่นักลงทุนจะต้องติดตาม เรื่องการนัดฟังคำตัดสินของศาลล้มละลายกลางกรณีบริษัทอุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย หรือ TPI ยื่นเรื่องเพื่อขอออกจากแผนฟื้นฟูกิจการซึ่งจะเป็นประเด็นที่ส่งผลต่อภายรวมตลาดหุ้น สำหรับ ภาวะตลาดหุ้นในสัปดาห์นี้คาดว่าจะยังคงผันผวน โดยแนะนำรอซื้อ ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวอยู่ที่ 760-770 จุด

นายชัย จิรเสวีนุประพันธ์ หัวหน้าฝ่ายกลยุทธการลงทุน บล.พัฒนสิน กล่าวถึงภาวะดัชนีตลาดหลักทรัพย์วานนี้ว่า ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง ทำให้ราคาหุ้นในกลุ่มพลังงานปรับตัวลดลงตาม ประกอบการการที่หุ้นในกลุ่มพลังงานเป็นกลุ่มมาร์เก็ตแคปใหญ่ซึ่งเป็นเหตุให้ดัชนีปรับตัวลดลง ทั้งนี้ ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นนั้นมีผลต่อตลาดหุ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

สำหรับแนวโน้มการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์วันนี้คาดว่าดัชนีจะเคลื่อนไหวคล้ายๆกับวันนี้ซึ่งมุ่งประเด็นไปที่ปัจจัยแรกคือต้องติดตามหุ้นกลุ่มพลังงานต่อไป โดยประเมินแนวรับที่ 755 จุด และแนวต้านที่ 770 จุด

นายเอกพิทยา เอี่ยมคงเอก รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ บีฟิท จำกัด กล่าวว่า นักลงทุนสถาบันเริ่มมีการเข้ามามีบทบาทในการซื้อขายในตลาดหุ้นมากขึ้น หลังจากที่ก่อนหน้ามีการซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยประเมินแนวรับที่ 755 จุด และแนวต้านที่ 770 จุด

**แนะเลี่ยงซื้อหุ้นกลุ่มวัสดุฯ

นายอมเรศ สิงห์ณรงค์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ฝ่ายที่ปรึกษาการลงทุน บล.แอ๊ดคินซัน กล่าวถึง ผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นส่งผลกระทบต่อต้อนทุนการขนส่ง ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลกระทบทางตรงกับกลุ่มผู้ผลิตวัสดุก่อสร้าง เช่น ปูนซีเมนต์ รวมถึงผลกระทบในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์

ทั้งนี้ ผลกระทบในเรื่องดังกล่าวอาจจะส่งผลต่อผลการดำเนินงานของบริษัท เนื่องจากหากราคาน้ำมันยังไม่ปรับตัวลดลง ผลกระทบที่เกิดขึ้นจะส่งผลที่ชัดเจน สำหรับคำแนะนำการลงทุน แนะให้ระมัดระวังการลงทุนหุ้นกลุ่มวัสดุก่อสร้าง เนื่องจากปัจจัยเรื่องน้ำมันยังไม่คลี่คลาย   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us