Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน25 เมษายน 2549
ถิรไทยเคาะราคาขายหุ้น 5.75 บาท รุกตลาดตปท.ตั้งเป้ารายได้โต30%             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท ถิรไทย จำกัด (มหาชน)

   
search resources

Stock Exchange
ถิรไทย, บมจ.




ถิรไทย เคาะราคาหุ้น 5.75 บาท พร้อมเล็งขยายตลาดต่างประเทศ ดันสัดส่วนรายได้ปีนี้เพิ่มเป็น 30% จากปีที่ผ่านมา เพียง 10% มั่นใจรายได้ปีนี้โตกว่า 30% จากปีที่ผ่านมามีรายได้ 1,090 ล้านบาท เหตุมีงานในมือแล้ว 955 ล้านบาท ด้านที่ปรึกษาฟุ้ง เหนือจองจากภาวะตลาดหุ้นปรับตัวดีขึ้น ขณะที่ราคาหุ้นมีส่วนลดให้กับนักลงทุนสูง

นายสัมพันธ์ วงษ์ปาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ถิรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TRT ผู้ประกอบธุรกิจออกแบบและผลิตหม้อแปลงไฟฟ้า เปิดเผยว่า บริษัทได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไป(IPO) หุ้นละ 5.75 บาท โดยจะเปิดให้มีการจองซื้อหุ้นจำนวน 30 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์)หุ้นละ 2 บาท ในวันที่ 26-28 เมษายนและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ (mai)ในวันที่ 10 พฤษภาคม นี้

ทั้งนี้มั่นใจว่าราคาหุ้นของบริษัทจะสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่าราคาจองได้เนื่องจาก บริษัทมีปัจจัยพื้นฐานที่ดีและภาวะตลาดในช่วงที่บริษัทเข้าจดทะเบียนนั้นคาดว่าจะมีการปรับตัวที่ดีจากปัจจัยทางการเมืองคลี่คลายและการเสนอขายหุ้นครั้งนี้บริษัทได้มีการจัดสรรหุ้นแก่นักลงทุนสถาบันจำนวน20% นักลงทุนทั่วไป 80% นั้นบริษัทไม่มีความกังวลว่านักลงทุนจะมีการขายหุ้นออกมาในวันแรกเพราะมองว่าจากศักยภาพของบริษัททำให้นักลงทุนหันมาสนใจ

สำหรับเงินที่ได้จากการะดมทุนครั้งนี้จำนวน 172.50 ล้านบาท จะนำไป เพิ่มศักยภาพการผลิตหม้อแปลง ไฟฟ้ากำลัง30 ล้านบาท และนำไปลดภาระหนี้ระยะสั้นและยาวของบริษัทจำนวน 85 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้บริษัทมีหนี้สินต่อทุน(D/E) 2 เท่า จากขณะนี้ที่มี D/E 4 เท่า และทีเหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน

นายสัมพันธ์ กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 49 เติบโตเพิ่มขึ้นมากว่า 30% จากปี 48 ที่มีรายได้รวม 1,090.93 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 77.34 ล้านบาท เนื่องจากขณะนี้บริษัทมีงานมือแล้ว 955 ล้านบาทซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 80% ของรายได้ และบริษัทเตรียมที่จะเข้าประมูลงานเพิ่มอีก 1,000ล้านบาท ซึ่งเป็นงานของการไฟฟ้านครหลวงโดยมีโอกาสที่จะได้งานประมูลประมาณ 20%และบริษัทมีงานที่อยู่ระหว่างการประมูลประมาณ 250ล้านล้านบาท

“บริษัทมั่นใจว่ารายได้ปีนี้จะเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 30%เนื่องจากบริษัทมีงานในมือแล้วกว่า 955 ล้านบาทซึ่งเป็นงานที่จะส่งไปขายต่างประเทศ จำนวน 400 ล้านบาทและ 555 ล้านบาทขายในประเทศซึ่งคิดเป็นสัดส่วนการส่งออกไปต่างประเทศ 70%ขายในประเทศ 30% ของรายได้รวม จากปี ที่ผ่านมา 90 %เป็นการขายในประเทศ ส่งออกเพียง 10% ”นายสัมพันธ์กล่าวว่า

ทั้งนี้บริษัทมีแผนที่จะขยายตลาดไปยังต่างประเทศมากขึ้นโดยจะเน้นตลาดในแถบเอเซียน เอเชียใต้ เช่น เวียดนาม บูรไน ศรีลังกา อินเดีย มาเลเซีย ฯลฯเนื่องจากประเทศในแถบดังกล่าวมีความต้องการใช้หม้อสูงถึง7-8% เพราะ มีจำนวนประชากรที่มากและเศรษฐกิจมีการขยายตัวที่ดีจึงทำให้ต้องการใช้ไฟฟ้ามากขึ้นดังนั้นจึงทำให้มีความต้องการหม้อแปลงไฟฟ้ามากขึ้นเช่นกัน

สำหรับภาพรวมตลาดหม้อแปลงไฟฟ้าภายในประเทศปี 49 คาดว่าจะมูลค่าตลาดรวมประมาณ 5,300 ล้านบาท แบ่งเป็นตลาดหม้อแปลงกำลัง 1,300 ล้านบาทและตลาดหม้อแปลงระบบจำหน่าย 4,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดภายในประเทศ 20%ถือว่าเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดหม้อแปลงไฟฟ้าภายในประเทศ

นางสาวพัชพร สรรคบุรานุรักษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KGIในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่าบริษัทกำหนดราคาหุ้นละ 5.75 บาท ซึ่งมีค่า P/E ที่ 6เท่า ซึ่งมีส่วนลดจำนวนมากพอสมควรให้กับนักลงทุน เพราะหุ้นกลุ่มพลังงานมีการเทรดที่ P/E ที่ 10 เท่าซึ่งคาดว่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนและในช่วงดังกล่าวเชื่อว่าภาวะจะมีการปรับตัวดีขึ้นจากปัจจัยทางการเมือง และการตั้งราคาหุ้นก็มีความเหมาะสม   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us