ถิรไทย เคาะราคาหุ้น 5.75 บาท พร้อมเล็งขยายตลาดต่างประเทศ ดันสัดส่วนรายได้ปีนี้เพิ่มเป็น 30% จากปีที่ผ่านมา เพียง 10% มั่นใจรายได้ปีนี้โตกว่า 30% จากปีที่ผ่านมามีรายได้ 1,090 ล้านบาท เหตุมีงานในมือแล้ว 955 ล้านบาท ด้านที่ปรึกษาฟุ้ง เหนือจองจากภาวะตลาดหุ้นปรับตัวดีขึ้น ขณะที่ราคาหุ้นมีส่วนลดให้กับนักลงทุนสูง
นายสัมพันธ์ วงษ์ปาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ถิรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TRT ผู้ประกอบธุรกิจออกแบบและผลิตหม้อแปลงไฟฟ้า เปิดเผยว่า บริษัทได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไป(IPO) หุ้นละ 5.75 บาท โดยจะเปิดให้มีการจองซื้อหุ้นจำนวน 30 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์)หุ้นละ 2 บาท ในวันที่ 26-28 เมษายนและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ (mai)ในวันที่ 10 พฤษภาคม นี้
ทั้งนี้มั่นใจว่าราคาหุ้นของบริษัทจะสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่าราคาจองได้เนื่องจาก บริษัทมีปัจจัยพื้นฐานที่ดีและภาวะตลาดในช่วงที่บริษัทเข้าจดทะเบียนนั้นคาดว่าจะมีการปรับตัวที่ดีจากปัจจัยทางการเมืองคลี่คลายและการเสนอขายหุ้นครั้งนี้บริษัทได้มีการจัดสรรหุ้นแก่นักลงทุนสถาบันจำนวน20% นักลงทุนทั่วไป 80% นั้นบริษัทไม่มีความกังวลว่านักลงทุนจะมีการขายหุ้นออกมาในวันแรกเพราะมองว่าจากศักยภาพของบริษัททำให้นักลงทุนหันมาสนใจ
สำหรับเงินที่ได้จากการะดมทุนครั้งนี้จำนวน 172.50 ล้านบาท จะนำไป เพิ่มศักยภาพการผลิตหม้อแปลง ไฟฟ้ากำลัง30 ล้านบาท และนำไปลดภาระหนี้ระยะสั้นและยาวของบริษัทจำนวน 85 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้บริษัทมีหนี้สินต่อทุน(D/E) 2 เท่า จากขณะนี้ที่มี D/E 4 เท่า และทีเหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
นายสัมพันธ์ กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 49 เติบโตเพิ่มขึ้นมากว่า 30% จากปี 48 ที่มีรายได้รวม 1,090.93 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 77.34 ล้านบาท เนื่องจากขณะนี้บริษัทมีงานมือแล้ว 955 ล้านบาทซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 80% ของรายได้ และบริษัทเตรียมที่จะเข้าประมูลงานเพิ่มอีก 1,000ล้านบาท ซึ่งเป็นงานของการไฟฟ้านครหลวงโดยมีโอกาสที่จะได้งานประมูลประมาณ 20%และบริษัทมีงานที่อยู่ระหว่างการประมูลประมาณ 250ล้านล้านบาท
“บริษัทมั่นใจว่ารายได้ปีนี้จะเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 30%เนื่องจากบริษัทมีงานในมือแล้วกว่า 955 ล้านบาทซึ่งเป็นงานที่จะส่งไปขายต่างประเทศ จำนวน 400 ล้านบาทและ 555 ล้านบาทขายในประเทศซึ่งคิดเป็นสัดส่วนการส่งออกไปต่างประเทศ 70%ขายในประเทศ 30% ของรายได้รวม จากปี ที่ผ่านมา 90 %เป็นการขายในประเทศ ส่งออกเพียง 10% ”นายสัมพันธ์กล่าวว่า
ทั้งนี้บริษัทมีแผนที่จะขยายตลาดไปยังต่างประเทศมากขึ้นโดยจะเน้นตลาดในแถบเอเซียน เอเชียใต้ เช่น เวียดนาม บูรไน ศรีลังกา อินเดีย มาเลเซีย ฯลฯเนื่องจากประเทศในแถบดังกล่าวมีความต้องการใช้หม้อสูงถึง7-8% เพราะ มีจำนวนประชากรที่มากและเศรษฐกิจมีการขยายตัวที่ดีจึงทำให้ต้องการใช้ไฟฟ้ามากขึ้นดังนั้นจึงทำให้มีความต้องการหม้อแปลงไฟฟ้ามากขึ้นเช่นกัน
สำหรับภาพรวมตลาดหม้อแปลงไฟฟ้าภายในประเทศปี 49 คาดว่าจะมูลค่าตลาดรวมประมาณ 5,300 ล้านบาท แบ่งเป็นตลาดหม้อแปลงกำลัง 1,300 ล้านบาทและตลาดหม้อแปลงระบบจำหน่าย 4,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดภายในประเทศ 20%ถือว่าเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดหม้อแปลงไฟฟ้าภายในประเทศ
นางสาวพัชพร สรรคบุรานุรักษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KGIในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่าบริษัทกำหนดราคาหุ้นละ 5.75 บาท ซึ่งมีค่า P/E ที่ 6เท่า ซึ่งมีส่วนลดจำนวนมากพอสมควรให้กับนักลงทุน เพราะหุ้นกลุ่มพลังงานมีการเทรดที่ P/E ที่ 10 เท่าซึ่งคาดว่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนและในช่วงดังกล่าวเชื่อว่าภาวะจะมีการปรับตัวดีขึ้นจากปัจจัยทางการเมือง และการตั้งราคาหุ้นก็มีความเหมาะสม
|