โตชิบาเชื่อภาพรวมเครื่องใช้ไฟฟ้าปีนี้โตน้อย 5-7% เหตุหนี้เน่าจากการซื้อสินค้าเงินผ่อนในช่วงที่ผ่านมามีมาก เชื่อภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวไม่กระทบธุรกิจเพราะสินค้ามีความหลากหลาย ส่วนกำลังซื้อผู้บริโภคเชื่อว่ายังมีอยู่ โดยช่วงบอลโลกคาดว่ายอดขายเพิ่ม 20-30% เผยยอดขายไตรมาสแรกปีนี้โต 15% ส่วนยอดขายทั้งปีนี้คาดแตะ 4,400 ล้านบาท
นายณัฐพงษ์ อารีกุล รองประธานและกรรมการผู้จัดการ บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด เปิดเผยว่าภาพรวมอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าปีนี้คาดว่าจะมีการเติบโตไม่มากหรือประมาณ 5-7% เนื่องจากตลาดซบเซาลง จากปัญหาเรื่องเงินผ่อนที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่นิยมใช้ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดหนี้เน่าเสียในตลาดมาก โดยปัจจุบันลูกค้าที่ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าแบบเงินผ่อนมีสัดส่วนประมาณ 30-40% ขณะที่โตชิบาไม่ได้รับผลกระทบจากเรื่องดังกล่าวนี้ เพราะลูกค้าส่วนใหญ่นิยมซื้อเงินสด ส่วนลูกค้าที่ซื้อสินค้าเงินผ่อนมีสัดส่วนน้อย คิดเป็น10%
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ประธานกรรมการบริหาร บริษัทโตชิบาฯ เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและปัญหาการเมืองไม่ได้ส่งผลกระทบต่อภาพรวมธุรกิจของบริษัทฯมากนัก เนื่องจากตลาดยังมีความต้องการสินค้าอยู่และสินค้าของโตชิบาก็มีให้เลือกหลากหลายกลุ่ม ส่วนด้านกำลังซื้อของผู้บริโภคมองว่าไม่น่าเป็นห่วง คนอาจจะรู้สึกอยากประหยัดบ้างแต่ก็ยังมีความต้องการสินค้าอยู่ ซึ่งสินค้าบางกลุ่มก็รอไม่ได้ต้องซื้อทันที อาทิ ช่วงฟุตบอลโลก2006 เป็นมหกรรมที่ 4 ปีมี 1 ครั้ง สินค้ากลุ่มภาพและเสียงหรือเอวีไอทีจะขายดีมากในช่วงนี้ คาดว่าจะมียอดขายเพิ่มขึ้น 20-30%เป็นต้น
แผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้บริษัทฯเตรียมโฟกัสสินค้าทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นไอที, เอชวีและเอวี รวมถึงการเปิดตัวสินค้าใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง เช่น สินค้าไอที, ดีวีดี, โปรเจคเตอร์ และโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น ภายใต้งบการตลาดปีนี้ 400 ล้านบาท
"โตชิบาได้เป็นสปอนเซอร์หลักอย่างเป็นทางการในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2006 ในกลุ่มสินค้าไอที ดังนั้นเราจะมีการวางขายสินค้าหลายอย่างที่มีธีมบอลโลก เช่น เปิดตัวโปรเจคเตอร์และของพรีเมียม รวมถึงกลุ่มเอวีไอที ที่ทำงานเป็นแบบดูโอฟังก์ชั่น เป็นต้น”
ล่าสุดบริษัทฯเตรียมเข้าร่วมงานมหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าแห่งปี “เพาเวอร์บาย เอ็กซ์โป 2006” ที่เซ็นทรัล ลาดพร้าวในวันที่ 28 เมษายนถึง 7 พฤษภาคม 2549นี้ โดยวัตถุประสงค์ที่เข้าร่วมงานนี้ คือ ต้องการสร้างแบรนด์โตชิบาให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นและเพื่อให้ผู้บริโภคได้สัมผัสนวัตกรรมใหม่ๆของโตชิบา ซึ่งสินค้าที่จะนำมาแสดงในงานนี้มีหลายตัว อาทิ โน้ตบุ้ค, เครื่องโปรเจคเตอร์ ขนาดพกพา หนักเพียง 500 กรัม และเครื่องที่ช่วยให้คนหูหนวกสามารถดูทีวีได้ เป็นต้น
สำหรับยอดรายได้ไตรมาสแรกที่ผ่านมาพบว่ายอดขายเป็นไปตามเป้าเติบโตขึ้น 15% จากการที่โตชิบามีสินค้าที่หลากหลายกลุ่มและมีการเปิดตัวสินค้าใหม่หลายรายการ ขณะที่ผลประกอบการของโตชิบาทั้งปีนี้คาดการณ์ว่าจะมีรายได้ 4,400 ล้านบาทหรือเติบโต 10% จากปีที่แล้วที่มียอดรายได้ประมาณ 4,000 ล้านบาท ซึ่งสัดส่วนรายได้นั้นจะมาจาก สินค้ากลุ่มเอชเอ 40% สินค้ากลุ่มไอที 25-30% และกลุ่มเอวี 25-30%
|