Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กรกฎาคม 2539








 
นิตยสารผู้จัดการ กรกฎาคม 2539
"พัชนี เบญจอาธรศิริกุล กับเรื่องที่น่าจะตื่นเต้นกว่าขายข้าว"             
 


   
search resources

เวิลด์ ทาโก้
พัชนี เบญจอาธรศิริกุล
Fastfood




หากจะมองภาพรวมของธุรกิจด้านอาหารซึ่งเป็นตลาดที่มีมูลค่ามหาศาลแล้ว กล่าวได้ว่าตลอดระยะเวลา 3-5 ปีที่ผ่านมา "ฟาสต์ฟูด" จัดเป็นเค้กชิ้นใหญ่ที่ดึงดูดให้บรรดานักธุรกิจหลายแขนงต่างเสาะแสวงหาฟาสต์ฟูดอินเตอร์แบรนด์เข้ามาชิมลางกันอย่างต่อเนื่อง

โดมิโนพิซซ่า แฟรนไชส์ฟาสต์ฟูดประเภทพิซซ่าชื่อดังจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งนำเข้ามาเปิดตลาดในเมืองไทยโดยกลุ่มมอนเทอเรย์ หรือแม้แต่ป๊อปอายส์ ฟาสต์ฟูดประเภทไก่ทอดชื่อดังจากแหล่งเดียวกันที่ตระกูลหงษรานนท์นำเข้ามาชิมลาง นับเป็นภาพตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดของบรรดากลุ่มนักลงทุนหน้าใหม่ที่สบช่องในธุรกิจประเภทนี้

"ทาโก้ ไทม์" ฟาสต์ฟูดลูกผสมระหว่างอเมริกันสไตล์และเม็กซิกันจากเมืองลุงแซม ซึ่งเปิดตัวเข้าสู่เมืองไทยสาขาแรกที่สยามสแควร์ซอย 3 โดยบริษัทเบญจพืช 1 ใน 5 ผู้ดำเนินธุรกิจส่งออกข้าวรายใหญ่ของประเทศไทย ก็เป็นอีก 1 ในกลุ่มธุรกิจที่มองเห็นโอกาสแจ้งเกิดในธุรกิจนี้

"ตอนที่เราตัดสินใจเข้าสู่ธุรกิจนี้เพราะเราเห็นว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโต ก็เลยอยากจะทำ ซึ่งเป็นธุรกิจที่จะต้องลงทุนระยะยาว" พัชนี เบญจอาธรศิริกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท เวิลด์ ทาโก้ จำกัด เจ้าของลิขสิทธิ์ฟาสต์ฟูดทาโก้ ไทม์ กล่าวถึงเหตุผลการตัดสินใจเข้าร่วมแข่งขันในตลาดฟาสต์ฟูดกับ "ผู้จัดการ"

บริษัท เวิลด์ ทาโก้ ก่อตั้งขึ้นด้วยทุนจดทะเบียน 20 ล้านบาท โดยปัจจุบันแยกการทำงานออกมาจากบริษัทเบญจพืช ซึ่งทางวิชาญ บุศราวงศ์ บิ๊กบอสของตระกูลได้มอบหมายให้พัชนี ซึ่งเป็นบุตรสาวคนโตของตระกูลเข้ามาดูแล โดยก่อนหน้าการขยายเข้าสู่ธุรกิจฟาสต์ฟูด ทางเบญจพืชก็ขยายบทบาทธุรกิจในตระกูลด้วยการนำน้ำผลไม้ยี่ห้อเอลิซ่าเข้าสู่ตลาดน้ำผลไม้

พัชนีกล่าวถึงเบื้องหลังการตัดสินใจเลือกฟาสต์ฟูดประเภทนี้เข้าเปิดตัวในตลาดเมืองไทยเป็นเพราะเห็นว่า ไม่ว่าจะเป็นฟาสต์ฟูดประเภทไก่ทอด แฮมเบอร์เกอร์ พิซซ่าต่างมีผู้นำจับจองพื้นที่แล้วทั้งสิ้น แต่สำหรับทาโก้ ไทม์ ซึ่งเป็นอาหารในสไตล์อเมริกันผสมแม็กซิกันนั้น ในประเทศไทยแล้วยังไม่มีคู่แข่งในตลาดอย่างแท้จริง

"ตอนเลือกเราดูอยู่หลายตัว แต่ก็มาสรุปที่ทาโก้ ไทม์ กว่าจะลงตัวก็ใช้เวลาติดต่อเกือบ 2 ปี เพราะทางบริษัทเจ้าของลิขสิทธิ์จะใช้เวลาสกรีนค่อนข้างมากก่อนที่จะให้ลิขสิทธิ์มา" พัชนีกล่าว โดยนอกเหนือจากการได้ลิขสิทธิ์การทำตลาดทาโก้ ไทม์ในประเทศไทยแล้ว บริษัท เวิลด์ ทาโก้ จำกัดยังได้รับสิทธิ์ในการทำตลาดในประเทศสิงคโปร์และฮ่องกงอีกด้วย

วิธีการเลือกฟาสต์ฟูดเข้ามาเปิดตลาดของพัชนี เธอกล่าวว่าในช่วงนั้นคนในครอบครัวต่างเดินทางไปต่างประเทศเป็นว่าเล่นเพื่อไปชิมโดยเฉพาะ และสมาชิกในตระกูลต่างเห็นพ้องต้องกันว่าทาโก้ ไทม์เหมาะสมที่สุดที่จะเป็นฟาสต์ฟูดแบรนด์แรกของเบญจพืชในการเข้าสู่ตลาดนี้ ด้วยเหตุผล 2 ประการคือ 1. เป็นอาหารอินเตอร์แบรนด์ที่มีรสชาติใกล้เคียงกับลิ้นคน และ 2.ยังไม่มีคู่แข่งในตลาดโดยตรง

ทาโก้ ไทม์ นับเป็นฟาสต์ฟูดอินเตอร์แบรนด์ที่ประสบความสำเร็จในสหรัฐอเมริกา มีอายุในตลาดนานร่วม 40 ปี ขณะนี้มีสาขาอยู่ประมาณเกือบ 500 แห่ง โดยมีคู่ขับเคี่ยวที่สำคัญ คือทาโก้เบลล์ ปัจจุบันนอกจากญี่ปุ่นแล้วไทยจัดเป็นประเทศที่ 2 ในย่านเอเชียที่ทางทาโก้ ไทม์ขยายเครือข่ายเข้ามาเปิดตลาด

หากจะนับไปแล้วพัชนีนับเป็นมือใหม่ในวงการฟาสต์ฟูด ซึ่งประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมานั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับธุรกิจอาหารเลย กล่าวคือหลังจากจบการศึกษาที่คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยพัชนีเริ่มต้นทำงานที่โรงแรมโอเรียนเต็ลได้ระยะหนึ่ง เธอก็ตัดสินใจไปศึกษาปริญญาโทด้านบริหารต่อที่สหรัฐอเมริกาและกลับมาเริ่มงานที่เคหะแห่งชาติได้ปีกว่า จึงลาออกและไปทำงานอยู่ที่บริษัทอาซาฮีโดยใช้เวลาทำงานอยู่ที่นี่ถึง 12 ปีจึงตัดสินใจลาออกมาช่วยกิจการครอบครัวด้วยการเข้ารับหน้าที่ดูแล ทาโก้ ไทม์

"อยากทำอะไรที่ตื่นเต้น เราคลุกคลีอยู่ในวงการอาหารทำให้เราเห็นโอกาส เราคิดว่าเรามีประสบการณ์ มีสายป่านด้านการเงิน และที่สำคัญเรามีความสนใจก็เลยเข้ามาในธุรกิจนี้" พัชนีกล่าวอย่างมั่นใจ พร้อมกับยืนยันว่าผลการดำเนินงานของ ทาโก้ ไทม์ในช่วงที่ผ่านมานั้นเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ถึงแม้จะมีสาขาที่เปิดบริการในขณะนี้อยู่เพียง 2 แห่งก็ตาม

ปัจจุบันร้านทาโก้ ไทม์เปิดบริการ 2 สาขาคือที่สยามสแควร์และสาขาสุขุมวิท ที่บางกะปิพลาซ่า โรงแรมแอมบาสเดอร์ โดยมีแผนที่จะขยายสาขาให้ครบ 5 แห่งภายในเวลา 2-3 ปี ซึ่งโลเกชั่นที่ทางเวิลด์ ทาโก้ สนใจก็คือพื้นที่บริเวณสีลม พัทยา เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์และพื้นที่ในเขตใจกลางเมือง

สำหรับการเปิดตัวในตลาดเมืองไทยพัชนีวางกลุ่มเป้าหมาย คือคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มนักเรียน นักศึกษา ซึ่งในช่วงนี้เธอกล่าวว่าเนื่องจากทาโก้ ไทม์ ยังเปรียบเสมือนน้องใหม่ ดังนั้นแผนการตลาดจะเน้นหนักไปที่การสร้างชื่อเสียงให้เป็นที่รู้จักเสียก่อน

โดยวางแผนระยะยาวว่า หากทาโก้ ไทม์ขยายสาขาครบ 5 แห่งก็จะเน้นทำตลาดแบบแมสมาร์เกต ด้วยการตอกย้ำชื่อทาโก้ ไทม์ตามสื่อวิทยุและโทรทัศน์ ขณะเดียวกันก็จะเริ่มขายซัปแฟรนไชส์ให้กับผู้ที่สนใจทั่วไป

"หน้าที่หลักตอนนี้ก็คือเน้นสร้างชื่อให้ผู้บริโภครู้จัก และการมองหาโลเกชั่นดี ๆ เพื่อยึดพื้นที่ที่เราคิดว่าเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ให้ได้เสียก่อน โดยในปีหน้าเราจะเริ่มนำรูปแบบการขยายสาขาแบบคีออสและดิลิเวอรี่มาใช้ด้วย" พัชนีกล่าว

การเดินเกมโดยเน้นสร้างชื่อให้เป็นที่รู้จัก และเร่งขยายสาขาตามพื้นที่สำคัญนอกเหนือจากจะเป็นกลยุทธ์ที่ธุรกิจฟาสต์ฟูดทั่วไปใช้เป็นกลไกสำคัญแล้ว เบื้องลึกอีกเหตุผลก็คือการชิงลงหลักปักฐานเพื่อสร้างความได้เปรียบก่อนที่คู่แข่งรายสำคัญอย่างทาโกเบลล์ ซึ่งกล่าวกันว่ากำลังมีแผนที่จะเข้ามาเปิดตัวในไทยในปีหน้าอย่างแน่นอนนั่นเอง

แม้จะเป็นเพียงจุดเริ่มต้นในธุรกิจฟาสต์ฟูด แต่ในวันนี้ดูเหมือนคนในครอบครัวของเบญจพืช จะเริ่มหลงไหลกับธุรกิจนี้เสียแล้ว

เพราะในขณะที่พัชนีกำลังนั่งวางแผนสร้างความสำเร็จให้กับฟาสต์ฟูดสไตล์ลูกผสมระหว่างอเมริกันและเม็กซิกัน โดยมีเป้าหมายคือการผลักดันให้ก้าวขึ้นเป็น NUMBER ONE ในอนาคตให้จงได้แล้ว

เธอก็ยังแอบแย้มพรายให้ฟังว่า ขณะนี้กำลังเริ่มมองหาฟาสต์ฟูดตัวใหม่เข้ามาเปิดตลาดอีก เหตุผลก็เพราะยังมีฟาสต์ฟูดอีกมากที่ยังพอมีช่องว่างจะเข้ามาสร้างยอดขายในตลาดเมืองไทยได้ ส่วนจะเป็นอะไรนั้นคงต้องจับตาดูกันต่อไป

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us