สถิติการเก็บข้อมูลเรตติ้งผู้ชมรายการทีวีของสถานีโทรทัศน์ 5 ช่องช่วงเวลาไพร์มไทม์คือ
18.00-22.00 น. ของบริษัท ดีมาร์ จำกัดระหว่างวันจันทร์-อาทิตย์ เปรียบเทียบก่อนมีการปรับผังรายการของช่อง
5 และช่อง 3 กับเรตติ้งล่าสุด เห็นได้ว่าในช่วงเวลาดัง 19.00-20.00 น. อัตราส่วนเรตติ้งผู้ชมของสถานีฯ
ทั้ง 2 ช่องมีเปอร์เซนต์เพิ่มขึ้นสูงอย่างเห็นได้ชัด
แต่ในขณะเดียวกันเมื่อเปรียบเทียบในช่วงหลังเวลา 20.00 น. กลับพบว่าอัตราส่วนเรตติ้งผู้ชมของช่อง
5 กลับมีเปอร์เซนต์ลดลงอย่างเห็นได้ชัด
ขณะที่ พล. ท. แป้ง มาลากุล ณ อยุธยา ผู้อำนวยการช่อง 5 แสดงท่าทีไม่เห็นด้วยอย่างชัดเจน
และระบุว่าการสำรวจของดีมาร์เป็นเพียงการสำรวจเฉพาะพื้นที่ โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ
และปริมณฑล ขณะที่ช่อง 5 นั้นแพร่ภาพทั่วประเทศและกลุ่มผู้ชมส่วนใหญ่อยู่ในต่างจังหวัด
เขาจึงมอบหมายให้สถาบันราชภัฎทำการสำรวจเรตติ้งผู้ชม ซึ่งยืนยันว่าในช่วงเวลา
19.00-21.00 น. จำนวนเรตติ้งผู้ชมช่อง 5 เพิ่มขึ้น 40%
นับเป็นตัวเลขอัตราเรตติ้งที่สวนทางกันอย่างสิ้นเชิงโดยเฉพาะในช่วงหลังเวลา
20.00 น.
"อาจจะเป็นการสุ่มเก็บข้อมูลที่มีกลุ่มตัวอย่างและวิธีการที่แตกต่างกันสำหรับมีเดีย
แพลนเนอร์ เราอาจจะต้องดูทั้ง 2 ส่วนประกอบกัน แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับสินค้าด้วยว่ามีกลุ่มเป้าหมายอยู่ในพื้นไหน
แต่หลักใหญ่แล้วเราถือว่าดีมาร์มีระบบเก็บสถิติที่ได้มาตรฐานมากและมีประสบการณ์ด้านสถิติข้อมูลในเชิงพาณิชย์โดยตรง"
แหล่งข่าวบริษัทเอเยนซี่รายหนึ่งกล่าว
สำหรับวิธีการเก็บข้อมูลดีมาร์เป็นระบบคอมพิวเตอร์ที่เรียกว่า PEOPLE METER
จะประกอบด้วยอุปกรณ์ที่มีลักษณะเหมือนเทปนำไปติดไว้ข้างหลังเครื่องทีวี และกล่องตั้งอยู่บนทีวี
ซึ่งทางดีมาร์จะนำไปติดตั้งไว้ที่บ้านของครอบครัวซึ่งเป็นกลุ่มตัวอย่าง โดยจะมีการกำหนดหมายเลขสมาชิกในครอบครัวนั้น
เมื่อสมาชิกในบ้านเปิดทีวีด้วยกำลังส่งกล่องนี้จะทำการบันทึกช่วงเวลาช่องทีวีที่เปิดชม
ซึ่งสมาชิกในครอบครัวจะกดหมายเลขของตนเองไปในรีโมทซึ่งอุปกรณ์จะบันทึกโดยอัตโนมัติว่าใครเป็นคนดูรายการ
ทางดีมาร์จะเก็บเทปทุกสัปดาห์เพื่อนำข้อมูลนั้นมาเก็บสถิติทุกๆ นาที ภายใต้เงื่อนไขคือจะนำมาบันทึกเป็นสถิติเฉพาะสมาชิกที่ดูรายการไม่ต่ำกว่า
15 นาทีเท่านั้น