|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
 |
“ไทยธนาคาร” ขายหุ้นคืนตามเกณฑ์ที่ครบ 26 พ.ค. จำนวน 93.36 ล้านหุ้น พร้อมขายราคาต่ำกว่าทุน ที่ซื้อมาประมาณ 8 บาทต่อหุ้น เพราะปัจจุบันอยู่ที่ระดับราคาหุ้นละ 7 บาทกว่า ระบุผลประกอบการแบงก์ดีต่อเนื่อง มั่นใจไตรมาส 2 ยังคงกำไรสูง เป็นที่สนใจของนักลงทุน รอจังหวะออกหุ้นกู้ 2 พันล้าน หวังเพิ่มเงินกองทุน
นายพีรศิลป์ ศุภผลศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยธนาคาร จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารมีนโยบายที่จะขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์เพิ่มเติมประมาณ 93.36 ล้านหุ้น ซึ่งเป็นหุ้นที่ธนาคารได้รับซื้อจากผู้ถือหุ้นรายย่อยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เพราะมองว่าราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ขนาดนั้นต่ำเกินไป จึงได้รับซื้อไว้ และในขณะนี้จะครบกำหนดที่ธนาคารจะต้องจำหน่วยหุ้นออกไปในวันที่ 2-26 พฤษภาคม 2549 นี้ตามที่กฎหมายกำหนด
ทั้งนี้ ในการจำหน่ายหุ้นดังกล่าว เพื่อให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ธนาคารจะต้องขายออกภายใน 3 ปีหลังจากที่ธนาคารได้ซื้อหุ้นคืนมาตั้งแต่ปี 2546 โดยธนาคารได้ซื้อไว้ในราคาเฉลี่ยประมาณ 8 บาทต่อหุ้น ดังนั้นในการขายหุ้นของธนาคารครั้งนี้จะขึ้นอยู่กับราคาที่เหมาะสม ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาก็มีนักลงทุนให้ความสนใจที่จะเข้ามาซื้อ
อย่างไรก็ตาม หากราคาขายหุ้นของธนาคารต่ำกว่าต้นทุนที่ธนาคารซื้อหุ้นบ้างเล็กน้อย ก็ไม่ถือว่าเสียหาย เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาธนาคารได้ลงบัญชีเป็นค่าใช้จ่ายไปครบแล้ว โดยคาดว่าจะขายในราคาเฉลี่ยราคาปิด 5 วัน และหัก 15 % ของราคาปิดเฉลี่ย 5 วัน ซึ่งราคาจะออกมาสูงกว่าหรือต่ำกว่าต้นทุน ธนาคารก็พร้อมที่จะขายตามกฎหมาย ทั้งนี้หากหุ้นที่ธนาคารซื้อมาขายไม่หมด ธนาคารจะต้องตัดออกจากเงินกองทุน ซึ่งจะไม่กระทบกับผู้ถือหุ้น เพราะตัดบัญชีไปก่อนหน้าแล้ว
รอจังหวะออกหุ้นกู้ 2 พันล้าน
สำหรับการออกหุ้นกู้ 2,000 ล้านบาท ที่ธนาคารได้ขออนุมัติจากผู้ถือหุ้นไว้นั้น ขณะนี้กำลังรอดูจังหวะ ที่จะออก โยกำลังติดตามสถานกรณ์อย่างใกล้ชิด ทั้งเรื่องของการเมือง และภาพรวมของภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งภาวะการเมืองจะต้องอยู่ในภาวะปกติ มีการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีได้เสียก่อน เพราะการออกหุ้นกู้ดังกล่าวเป็นการออกขายสกุลเงินต่างประเทศให้กับนักลงทุนต่างประเทศ ซึ่งต้องนำปัจจัยการเมืองมาประกอบการตัดสินใจลงทุน และหลังจากออกขายหุ้นกู้
ส่งผลให้เงินกองทุนของธนาคารจะเพิ่มมาอยู่ที่ 9.6-9.7% จากปัจจุบันที่ธนาคารมีเงินกองทุน 8.7% โดยภาพรวมของธนาคารน่าจะเป็นที่สนใจของนักลงทุน เนื่องจากผลประกอบการของธนาคารในไตรมาส 2 คาดว่าน่าจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะมาจากแนวโน้มการปล่อยสินเชื่อของธนาคารที่ยังเติบโตได้ นอกจากนี้ผลประกอบการในไตรมาสที่ 1 สามารถสร้างกำไรได้มากกว่าเป้าหมาย
“โดยปกติผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 1 ของธนาคาร ส่วนใหญ่จะเติบโตขึ้น เพราะมีเงินปันผลเข้ามามาก จากการลงทุน ส่วนผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 2 เทียบกับปี 2548 ธนาคารเชื่อว่าจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มว่าจะดีไปถึงไตรมาสที่ 3 เนื่องจากธนาคารมีการขยายธุรกิจอย่างระมัดระวัง และสินเชื่อก็ยังเติบโตได้”กรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าว
ตั้งเป้าเอ็นพีแอลสิ้นปีเหลือ 2.5-3%
นายพีรศิลป์กล่าวอีกว่า ธนาคารมีเป้าหมายที่จะลดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้( เอ็นพีแอล ) โดยในสิ้นปีนี้มีเป้าหมายที่จะลดลง 2.5-3% จากไตรมาส 1 ที่อยู่ในระดับ 5-6% โดยในช่วงที่ผ่านมาธนาคารให้ความสำคัญกับการย้อนกลับของเอ็นพีแอล ซึ่งเท่าที่ธนาคารได้ติดตามดูก็พบว่ามีน้อยมากและส่วนใหญ่ก็สามารถแก้ไขได้ทำให้ธนาคารมั่นใจว่าในสิ้นปีเอ็นพีแอลของธนาคารจะลดลง โดยการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ การปล่อยสินเชื่ออย่างระมัดระวัง และการขายหนี้ออกเป็นล็อตใหญ่หากเงื่อนไขและราคาดี
|
|
 |
|
|