Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน21 เมษายน 2549
ATCแจงมูลค่าผลิตภัณฑ์พุ่งหลังซ่อมบำรุงตัวเลขสูงถึงปีละกว่า390ดอลลาร์สหรัฐฯ             
 


   
www resources

โฮมเพจ อะโรเมติกส์ (ประเทศไทย)

   
search resources

อะโรเมติกส์ (ประเทศไทย), บมจ.
Energy
เพิ่มศักดิ์ ชีวาวัฒนานนท์




ATc เพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์กว่า 390 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯต่อปี หลังหยุดซ่อมบำรุง 30 วัน ขณะที่การผลิตสารไซโคลเฮกเซนจะเริ่มเดินเครื่องผลิตพฤษภาคมนี้ ส่วนการสร้างโรงงานอะโรเมติกส์หน่วยที่ 2 จะสามารถผลิตในเชิงพานิชย์ได้เดือนสิงหาคม 51 ส่งผลให้กำลังการผลิตของผลิตภัณฑ์พาราไซลีนและเบนซีนเพิ่มเป็น 1,111,000 และ 831,000 เมตริกตันต่อปีตามลำดับ

นายเพิ่มศักดิ์ ชีวาวัฒนานนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อะโรเมติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (ATC)กล่าวว่าตามที่ บริษัทฯ ได้หยุดการผลิตเพื่อซ่อมบำรุงและปรับปรุงอุปกรณ์ (Turnaround) ตามแผนงาน ตั้งแต่วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2549 เป็นระยะเวลา 30 วัน นั้น ขณะนี้บริษัทฯ ได้ดำเนินการแล้วเสร็จตามแผน สามารถผลิตผลิตภัณฑ์ ได้ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม 2549 เป็นต้นมาและผลิตได้เต็มกำลังการผลิตเมื่อวันที่ 13 เมษายน 2549 ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และลดการสูญเสียพลังงานในกระบวนการผลิต คิดเป็นมูลค่ารวม ทั้งสิ้น 1.5 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อปี

นอกเหนือจากการซ่อมบำรุงปกติแล้ว บริษัทฯ ยังได้ดำเนินการขยายกำลังการผลิตหน่วยกลั่นแยกวัตถุดิบคอนเดนเสท (Feed Fractionation Revamp Project) แล้วเสร็จ โดยสามารถกลั่นวัตถุดิบคอนเดนเสทได้เพิ่มขึ้นจากเดิม 50,000 บาร์เรลต่อวัน เป็นประมาณ 70,000 บาร์เรลต่อวัน ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถผลิตผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม เช่น ก๊าซแอลพีจี (ก๊าซหุงต้ม) ผลิตภัณฑ์แนฟทาชนิดเบาเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในโรงงานโอเลฟินส์ภายในประเทศ และคอนเดนเสทเรซิดิว ซึ่งเป็นวัตถุดิบในการผลิตน้ำมันดีเซลของโรงกลั่นในประเทศ ได้เพิ่มขึ้นจากเดิมประมาณร้อยละ 40 คิดเป็นมูลค่าเพิ่มขึ้นปีละประมาณ 179 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และยังสามารถผลิตแนฟทาชนิดหนักซึ่งนำไปใช้ประโยชน์เป็นวัตถุดิบสำหรับโรงกลั่นน้ำมันในประเทศและส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศได้ในปริมาณรวม 360,000 เมตริกตันต่อปี คิดเป็นมูลค่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

สำหรับโครงการผลิตสารไซโคลเฮกเซน (Cyclohexane Project) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทฯ จากการเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์เบนซีน ได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนกันยายน 2547 ขณะนี้การก่อสร้างแล้วเสร็จและอยู่ในระหว่างเตรียมการเดินเครื่อง (Commissioning) โดยจะสามารถผลิตเชิงพาณิชย์ ด้วยกำลังการผลิต 150,000 เมตริกตันต่อปี ได้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2549 เป็นต้นไป คิดเป็นมูลค่าเพิ่มประมาณ 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 400 ล้านบาทต่อปี

หลังจากการหยุดซ่อมบำรุงในครั้งนี้แล้ว บริษัทฯ จะเดินเครื่องจักรการผลิตเต็มที่ เนื่องจากผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์พาราไซลีนในประเทศอยู่ในภาวะขาดแคลน ดังนั้น ตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ปี 2549 เป็นต้นไป โรงงานอะโรเมติกส์หน่วยที่ 1 ของบริษัทฯ จะมีกำลังการผลิตผลิตภัณฑ์ ดังนี้ คือ ผลิตภัณฑ์พาราไซลีน 500,000 เมตริกตันต่อปี ผลิตภัณฑ์เบนซีน 320,000 เมตริกตันต่อปี ไซโคลเฮกเซน 150,000 เมตริกตันต่อปี และผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมอื่นๆ รวมกันประมาณ 2,150,000 เมตริกตันต่อปี ปัจจุบันสถานการณ์ราคาผลิตภัณฑ์พาราไซลีน ทรงตัวอยู่ที่ระดับราคาประมาณ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเมตริกตัน และราคาผลิตภัณฑ์เบนซีนอยู่ที่ระดับราคาประมาณ 800 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเมตริกตัน ซึ่งสูงกว่าราคาเฉลี่ยจากไตรมาสที่ 1 ประมาณ 50 และ 55 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเมตริกตัน ตามลำดับ

สำหรับความคืบหน้าโครงการก่อสร้างโรงงานอะโรเมติกส์หน่วยที่ 2 ซึ่งเริ่มดำเนินโครงการเมื่อเดือนสิงหาคม 2548 นั้น ปัจจุบันการปรับพื้นที่แล้วเสร็จและกำลังเริ่มงานก่อสร้างฐานราก ทั้งนี้โรงงานกำหนดจะแล้วเสร็จ สามารถดำเนินการผลิตในเชิงพาณิชย์ได้ในเดือนสิงหาคม 2551 และจะทำให้กำลังการผลิตของผลิตภัณฑ์พาราไซลีนและเบนซีนรวมทั้ง 2 โรงงาน เป็น 1,111,000 และ 831,000 เมตริกตันต่อปี ตามลำดับ   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us