|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
พลโทบัญชร ชวาลศิลป์ หนึ่งในคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ บริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TPI เปิดเผยว่า ในวันที่ 26 เมษายน 2549 นี้ คาดว่าศาลล้มละลายกลางจะมีคำสั่งให้บริษัทออกจากแผนฟื้นฟูกิจการ เนื่องจากคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูฯ ได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้และทุนตามที่ระบุไว้ในแผนฟื้นฟูกิจการครบถ้วนแล้ว แต่ทั้งนี้จะต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลล้มละลายกลาง
สำหรับกรณีที่นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารทีพีไอ ยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาลฎีกาที่ยังค้างอยู่อีกกว่า 10 คดี จะมีผลกระทบต่อการพิจารณาของศาลล้มละลายกลางหรือไม่นั้น จะต้องขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของศาล ขณะที่คณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูฯ ได้มีการเตรียมพร้อมด้วยการเรียกประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้นประจำปีไว้เรียบร้อยในวันถัดไป
ทั้งนี้ ทีพีไอ ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า จะมีการประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้นประจำปี ในวันที่ 27 เมษายน 2549 โดยมีวาระที่สำคัญคือ การเสนอให้ผู้ถือหุ้นอนุมัติแต่งตั้งกรรมการเพิ่มเติมอีก 15 คน ประกอบด้วย ทีมคณะผู้บริหารแผนชุดเดิม 5 คน ส่วนที่เหลืออีก 10 คนจะเป็นตัวแทนจากพันธมิตรร่วมทุนตามสัดส่วนการถือหุ้น คือ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT กองทุนวายุภักษ์ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) และธนาคารออมสิน
พลโทบัญชร กล่าวว่า ขณะนี้ทีพีไอมีฐานะการเงินและสภาพคล่องค่อนข้างแข็งแกร่งหลังจากผ่านกระบวนการฟื้นฟูกิจการ รวมทั้งยังมีศักยภาพพอที่จะจ่ายเงินปันผลระหว่างการได้ แต่จะมีการจ่ายปันผลหรือไม่นั้นต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการชุดใหม่ โดยปัจจุบันทีพีไอมีกำไรสะสม และมีกระแสเงินสดถึง 13,000 ล้านบาท
ส่วนกรณีที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้มีคำสั่งให้ปลดนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ออกจากกรรมการทีพีไอนั้น พลโทบัญชร กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นหน้าที่กรรมการชุดใหม่ที่จะเข้ามารับผิดชอบ หรือผู้ถือหุ้นอาจจะเสนอให้ถอดถอนในการประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 27 เม.ย. นี้
"การปลดนายประชัย ออกจากกรรมการตามคำสั่งของตลาดหลักทรัพย์ฯ นั้น ตลาดหลักทรัพย์ฯไม่ได้กำหนดกรอบระยะเวลาว่าจะต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในเมื่อใด แต่จะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของคณะกรรมการชุดใหม่"
ด้านนายวิชิต นิตยานนท์ ประธานสหภาพแรงงานเครือทีพีไอ กล่าวให้ความมั่นใจว่า ทีพีไอน่าจะออกจากแผนฟื้นฟูกิจการได้ในวันที่ 26 เม.ย.นี้ เนื่องจากได้ดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการสำเร็จแล้ว คือ การปรับโครงสร้างหนี้ทุน การเพิ่มทุนจดทะเบียน การจัดสรรหุ้นให้กับกรรมการและพนักงาน รวมทั้งการประมูลขายหุ้นบริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPL จำนวน 250 ล้านหุ้น
สำหรับแผนการดำเนินงานภายหลังออกจากแผนฟื้นฟูกิจการแล้วนั้น นายวิชิต กล่าวว่า นายปิติ ลิ้มประเสริญ ตัวแทนจากปตท.ที่ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นกรรมการคนใหม่ได้ให้วิสัยทัศน์ว่า พันธมิตรร่วมทุนเตรียมเงินทุนไว้ 10,000 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงและขยายโรงกลั่น การลงทุนขยายท่าเรือเชิงพาณิชย์ รวมถึงก่อสร้างโรงไฟฟ้าอีก 1 แห่ง
"ขณะนี้ทีพีไอมีโรงไฟฟ้าอยู่แล้ว 1 แห่ง แต่ยังไม่เพียงพอสำหรับกระบวนการผลิตปิโตรเคมี ทำให้ต้องซื้อไฟฟ้าจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ถึงวันละ 120 เมกะวัตต์ ดังนั้นการก่อสร้างโรงไฟฟ้าอีก 1 แห่งจะเป็นการเพิ่มศักยภาพและลดต้นทุนการผลิตของทีพีไอ"
ส่วนขั้นตอนการดำเนินการนั้น หลังจากทีพีไอออกจากแผนฟื้นฟูฯ แล้ว คาดว่ากลุ่มพันธมิตรร่วมทุนใหม่น่าจะเริ่มดำเนินการลงทุนก่อสร้างโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ได้ทันที เนื่องจากบริษัทได้ทำการศึกษาแผนการก่อสร้างโรงไฟฟ้ามาก่อนหน้านี้แล้ว โดยเบื้องต้นคาดว่าโรงไฟฟ้าแห่งใหม่จะมีกำลังการผลิต 120 เมกะวัตต์ต่อวัน
ด้านความเคลื่อนไหวราคาหุ้น TPI วานนี้ (20 เม.ย.) ได้มีแรงซื้อเข้ามาเก็งกำไรหุ้นทีพีไอเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงเช้า และขึ้นไปทำราคาสูงสุดที่ 8.20 บาท ต่ำสุด 7.80 บาท ก่อนจะปิดการซื้อขายที่ 8.15 บาท เพิ่มขึ้นจากวันก่อน 0.35 บาท หรือ 4.49% มูลค่าซื้อขายรวม 3,017.90 ล้านบาท ซึ่งเป็นมูลค่าการซื้อขายสูงสุดประจำวัน
|
|
|
|
|