|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ไออีซียังรุกหนักธุรกิจมือถือต่อ เทงบกว่า 100 ล้านบาทปรับปรุงระบบไอที หวังดันยอดโต 50% ด้วยการมขยายช่องทางจำหน่ายมือถืออีก 200 แห่งทั่วประเทศ ปีนี้เน้นทำตลาดมือถือ "แอลจี" เพิ่ม ภายหลังจากได้รับแต่งตั้งให้เป็นช่องทางขายและศูนย์ซ่อม
บี เตชะอุบล กรรมการและกรรมการบริหาร บริษัท อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) หรือไออีซีกล่าวถึงแนวทางทำธุรกิจของไออีซีในปีนี้ว่า บริษัทยังเน้น 4 ธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจสื่อสาร ธุรกิจวิศวกรรม ธุรกิจไอซีทีและธุรกิจพลังงานไฟฟ้าซึ่งเป็นแผนในอนาคตที่ทางบริษัทฯ กำลังศึกษารายละเอียด แต่คาดว่าน่าจะเห็นความชัดเจนได้ภายในไตรมาส 2 ของปีนี้
ผลดำเนินงานของธุรกิจจำหน่ายโทรศัพท์มือถือในปีที่ผ่านมานั้น ไออีซี มีรายได้ในส่วนธุรกิจมือถือประมาณ 5,200 ล้านบาท คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดราว 10% จากยอดขายเครื่องลูกข่าย 6-7 แสนเครื่อง ขณะที่ปีนี้คาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้น 7 พันล้านบาท ด้วยเป้าหมายยอดขายเครื่องลูกข่ายประมาณ 1.1 ล้านเครื่องหรือมีอัตราเติบโตขึ้นประมาณกว่า 30%
"ปีนี้จะยังคงตั้งเป้าผลักดันธุรกิจสื่อสารให้เติบโตมากยิ่งขึ้น โดยเตรียมขยายช่องทางการจัดจำหน่ายธุรกิจค้าปลีกโทรศัพท์เคลื่อนที่อีก 200 แห่งทั่วประเทศ จากปัจจุบันมีอยู่ทั้งหมด 240 แห่ง เพื่อให้คลอบคลุมกลุ่มเป้าหมายได้อย่างทั่วถึง ส่วนธุรกิจค้าส่ง ปัจจุบันบริษัทเข้าถึงผู้ค้า หรือดีลเลอร์ทั่วประเทศคลอบคลุมแล้วกว่า 70%
อีกทั้งบริษัทจะทำการปรับปรุงร้านค้าต่างๆ ของ Mobile Easy ให้สามารถจำหน่ายสินค้าได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยแต่ละร้านจะสามารถรองรับการจัดจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกยี่ห้อ อาทิ โนเกีย ซัมซุง โมโตโรล่า โซนี่ อีริคสัน แอลจี เบนคิว ไอ-โมบาย
"ปัจจุบันบริษัทมียอดจำหน่ายมาจากโทรศัพท์เคลื่อนที่แบรนด์โนเกีย 40% โมโตโรล่า 30%,ไอ-โมบาย 18%,แอลจี 10%, และแบรนด์อื่นๆอีก 12%"
บี เตชะอุบลยังบอกอีกว่า ปีนี้เราจะโฟกัสแบรนด์แอลจีมากยิ่งขึ้น โดยทางบริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจในการเป็นตัวแทนจำหน่ายโทรศัพท์มือถือรุ่นต่างๆ ของแอลจีจากบริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด รวมถึงการเป็นจุดรับซ่อมมือถือของแอลจีอีกด้วย โดยในปีนี้ทางบริษัทได้ขยายจุด drop point ตามร้าน Mobile Easy ได้ทุกสาขาทั่วประเทศ โดยไม่จำเป็นที่จะต้องส่งเครื่องไปซ่อมที่ IEC Easy Fix อีกต่อไป
ซอง นัก กิล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แอลขี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัดได้กล่าวว่า การทำตลาดในแต่ละผลิตภัณฑ์ของแอลจีจะคำนึงถึงกลุ่มเป้าหมายเป็นหลักตามนโยบายของบริษัท
"กลยุทธ์ใดๆ ที่นำมาใช้ต้องมีจุดเชื่อมโยงระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภคเป็นหลัก โดยนำผู้บริโภคมาเป็นศูนย์กลางและมองถึงความต้องการเป็นที่ตั้งเพื่อเป้าหมายมุ่งสู่ความเป็นหนึ่งในระดับสากล"
ซอง นัก กิลยังบอกอีกว่า ในกลุ่มผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือนั้น ที่ผ่านมาแม้จะยังไม่ประสบความสำเร็จเหมือนในหลายๆ ประเทศ แต่ก็มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสำหรับตัวผลิตภัณฑ์แล้วถือว่าเป็นที่ยอมรับในระดับสากลในการคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่มาเพิ่มประสิทธิภาพของโทรศัพท์มือถือให้ทำงานได้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น รวมถึงความโดดเด่นในการออกแบบที่ล้ำสมัย
"นอกจากตัวผลิตภัณฑ์แล้ว ทางบริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการกระจายผลิตภัณฑ์สู่กลุ่มเป้าหมายอีกด้วย ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญปัจจัยหนึ่งที่ทำให้มือถือของแอลจีไปสู่ผู้บริโภคคนไทย ทางบริษัทฯ จึงได้มอบหมายให้ไออีซีเป็นตัวแทนจำหน่ายโทรศัพท์มือถือของแอลจีอีกรายและยังรวมถึงความร่วมมือในด้านบริการหลังการขายอีกด้วย
บี เตชะอุบลยังบอกอีกว่า ทางบริษัทฯ ได้มีการปรับปรุงธุรกิจสื่อสารอย่างต่อเนื่อง โดยได้มีการลงทุนปรับปรุงระบบไอทีของบริษัทให้เป็นโซลูชั่นเฉพาะของไออีซีขึ้นมาเพื่อช่วยในการลดค่าใช้จ่ายในงานโอเปอเรชั่นภายในของบริษัทให้ลดลง โดยเราได้ลงทุนในในส่วนไปแล้วประมาณ 100 ล้านบาท"
|
|
|
|
|