|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
เยอรมันสปอร์ตฯ เปิดเกมรุก ทำตลาด พูม่า เต็มสปีด หลังปูฐานมาแล้ว 3 ปี วางแผนเปิด พูม่าสโตร์ 3 สาขาในปีนี้ ประเดิมที่สยามดิสคัฟเวอร์รี่เซ็นเตอร์ ลงทุน 20 ล้านบาท แพงสุด เล็งต่อที่เซ็นทรัลเวิลด์พลาซ่า และสยามพารากอน ขยายจุดจำหน่ายอีก 15% พร้อมอัดงบตลาดเพิ่ม 10% ทำตลาดหลากรูปแบบ ลุยเป็นสปอนเซอร์รายการกีฬา มั่นใจปีนี้ยอดขายเติบโต 20%
นางสาวนุสารี แฝงทอง ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท เยอรมันสปอร์ต แอนด์ ไลฟ์สไตล์ ผู้ซึ่งได้รับสิทธิ์ในการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ พูม่า รายเดียวในไทยและเวียดนาม กล่าวว่า หลังจากที่บริษัทฯได้บริหารสิทธิ์นี้มาประมาณ 3 ปีแล้วนั้นยังถือว่าอยู่ในช่วงของการเริ่มต้นและการวางรากฐาน ซึ่งในปีนี้บริษัทฯวางแผนที่จะเริ่มทำตลาดอย่างจริงจัง รวมทั้งการลงทุนขยายช่องทางจำหน่ายเพิ่มขึ้นด้วยเพื่อรองรับการขยายตัวในอนาคต
โดยแผนการขยายจุดจำหน่ายนั้น ล่าสุดได้ลงทุนไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาทในการเปิด พูม่าสโตร์ สาขาที่ 3 บนชั้น 3 ที่สยามดิสคัฟเวอร์รี่เซ็นเตอร์ พื้นที่ประมาณ 150 ตารางเมตร ซึ่งใหญ่ที่สุดและลงทุนสูงที่สุด เนื่องจากใช้วัสดุตกแต่งนำเข้าจากเบอรมัน ภายใต้คอนเซ็ปท์ พูม่า รีเทล ซิสเต็ม ( Puma Retail System) ไม่ว่าจะเป็นกล่องโชว์ ชั้นวางสินค้า เบาะที่นั่ง ชั้นวางรองเท้า เป็นต้น เพื่อให้เป็นมาตรฐานของ พูม่า อินเตอร์เนชั่นแนล
สินค้าในร้านพูม่าสโตร์จะเป็นรุ่นใหม่สุด ไม่ว่าจะเป็น Ferrari, Motor Sport, Mahanuala, Swim wear เป็นต้น โดยเฉพาะ Golf Collection ได้ทำการเปิดตัวอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกพร้อมกันทั่วโลก ขณะนี้สินค้าได้ทยอยนำเข้ามาเรื่อยๆโดยทางพูม่าได้จัดจำหน่ายตามศูนย์การค้าขั้นนำเพียง 11 แห่งทั่วประเทศเท่านั้น
ก่อนหน้านี้บริษัทฯได้เปิดไปแล้ว 2 สาขาคือ พูม่าสโตร์ที่เซ็นทรัลลาดพร้าว พูม่าสโตร์ที่ศูนย์การค้ารอยัลการ์เด้นพลาซ่าพัทยา และมีเป้าหมายที่จะขยายอีกอย่างต่ำ 2 สาขาเน้นทำเลใจกลางเมือง เช่นที่เซ็นทรัลเวิลด์พลาซ่าได้พื้นที่แล้ว และมองที่สยามพารากอนด้วย
สำหรับสาขาที่สยามดิสคัฟเวอร์รี่เซ็นเตอร์นี้จะจับตลาดทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติและคนไทยใกล้เคียงกัน ส่วน 2 สาขาแรกนั้นเน้นจับกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างประเทศเป็นหลัก นอกจากนั้นยังมีแผนขยายจุดจำหน่ายที่เป็นเคาน์เตอร์ในห้างสรรพสินค้าต่างๆให้มากขึ้นทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด โดยจะเพิ่มประมาณ 15% จากจำนวนที่มีอยู่ในปัจจุบันประมาณ 70 กว่าจุด
ส่วนแผนการตลาดนั้นปีนี้จะบุกเต็มที่โดยตั้งงบประมาณด้านการตลาดและส่งเสริมการขายรวมทั้งกิจกรรมต่างๆ เพิ่มจากปีที่แล้วอีกไม่ต่ำกว่า 10% จากปีที่แล้วที่ใช้ประมาณ 10 กว่าล้านบาท อย่างไรก็ตาม แต่จะเน้นการเป็นสปอนเซอร์ในรายการต่างๆเช่น อินทูเดอะเอ็นโซนทางยูบีซี รายากรทันโลกกีฬาทางช่อง 3 เป็นต้น รวมทั้งการเป็นสปอนเซอร์การแข่งขันกีฬาต่างๆที่มีความเหมาะสม
ด้านการโฆษณานั้นจะไม่เน้นการโฆษณาผ่านสื่อทีวีหรือสื่อสิ่งพิมพ์ แต่จะเน้นในสื่อต่างๆเช่น สื่อโฆษณาบนตัวรถไฟฟ้าบีทีเอสซึ่งเริ่มแล้ว สื่อบัสบอดี้ที่เชียงใมหม่ สื่อโรงหนัง เป็นต้น
“บริษัทฯจะใช้แผนการตลาดที่ต่างจากแบรนด์อื่น โดยจะขายสินค้าแต่ละรุ่นแต่ะละแบบในปริมาณจำกัด ซึ่งมากที่สุดคือ 500 ชิ้นต่อแบบเท่านั้น เพื่อสร้างความรู้สึกให้กับผู้บริโภคที่เป็นลูกค้าให้มีความเป็นพิเศษ ไม่ใช่มีมากมายเหมือนแบรนด์อื่น”
ทั้งนี้สินค้าทั้งหมดจะเป็นการนำเข้ามาจากต่างประเทศ โดยบริษัทฯจะทำการสั่งซื้อไปยังศูนย์กลางของเอเชียซึ่งตั้งอยู่ที่ฮ่องกง ส่วนยุโรปนั้นศูนย์การรับคำสั่งซื้อจะอยู่ที่เยอรมัน หลังจากนั้นศูนย์รับคำสั่งซื้อจะจัดการส่งสินค้าเข้ามายังประเทศไทยตามออร์เดอร์ จึงยอมรับว่าทำให้สินค้ามีราคาค่อนข้างสูงกว่าแบรนด์อื่น
โดยสินค้าพูม่านั้นมีราคาสูง เช่น รองเท้า ราคาตั้งแต่ 2,000 บาทขึ้นไป เสื้อผ้าราคาตั้งแต่ 700 บาทขึ้นไป ซึ่งกลุ่มสินค้าที่มียอดขายดีที่สุดของพูม่าคือ รองเท้า สัดส่วนประมาณ 50% เสื้อผ้าประมาณ 20% และอื่นๆเช่น หมวก อุปกรณ์ต่างๆ 30%
นอกจากแบรนด์พูม่าแล้วบริษัทฯยังมีแบรนด์ของบริษัทฯเองคือ HUSTAR หรือ ฮูสตาร์ ทำตลาดมาประมาณ 3 ปีแล้ว โดยมีจุดจำหน่ายของตัวเองแยกต่างหากจากพูม่า คือ ร้านจีเอส และร้านจีเอสเอฟ จำนวน 26 สาขา เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยว ส่วนใหญ่ตั้งกระจายอยู่ตามสถานที่ท่องเที่ยวเช่น พัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่ หัวหิน และสุขุมวิท เป็นต้น
จากการรุกตลาดอย่างเต็มที่ในปีนี้ บริษัทฯมั่นใจว่า จะมียอดขายที่เติบโตขึ้นจากปีที่แล้วไม่ต่ำกว่า 20% แน่นอน
|
|
|
|
|