|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
PICO มั่นใจปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 15% ชี้รายได้จากจัดงานบางกอกมอเตอร์โชว์พุ่ง แถมยังมีงาน เผยผลงานไตรมาส 2 สูงกว่าไตรมาสเดียวกันของปี 48 แจงการร่วมลงทุนกับพันธมิตรสองราย เพื่อหวังผลกำไรและหนุนประโยชน์ต่อการดำเนินงานในอนาคต และจะมีการเปิดแถลงข่าวเกี่ยวกับการร่วมลงทุนเร็ว ๆ นี้
นายพิเสฐ จึงแย้มปิ่น ประธานเจ้าหน้าบริหาร บริษัท ปิโก (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ PICO เปิดเผยว่าผลงานไตรมาส 2 ปีนี้ที่กำลังจะปิดงบลงนั้นแนวโน้มดีกว่าไตรมาส 2 ของปี 48 เนื่องจากผลดีจากการจัดงานมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมา จากก่อนหน้านี้ที่คาดว่าปีนี้ภาพรวมของเศรษฐกิจจะหนักกว่าปีที่ผ่านมา
“แต่ตัวเลขรายได้จากงานบางกอกมอร์เตอร์โชว์ของเราปีนี้สูงกว่าปีที่ผ่านมา 10-15% ถือว่าโชคดีมากเพราะเราเองก็หวั่นในตอนแรกเหมือนกัน เนื่องจากหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา แต่เมื่อถึงเวลาและงานจบลง กลับพบว่าดีกว่าที่เราคิด ซึ่งจะส่งผลดีต่อผลงานในไตรมาส 2 ของเราที่กำลังจะปิดงบตัวเลขที่ชัดเจนคงต้องรอสิ้นเดือนนี้ก่อน ” นายพิเสฐกล่าว
โดยปีนี้ PICO ยังมั่นใจว่าเป้าหมายการเติบโตของรายได้รวมจะเติบโตต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาทั้ตั้งไว้ไม่ต่ำกว่าปีละ 15% และในฐานะบริษัทดำเนินการธุรกิจด้านแบรนด์อิมเมจ ซึ่งจะส่งเสริมภาพลักษณ์ทางการตลาดของลูกค้า และงานบางกอกมอเตอร์โชว์ครั้งนี้ PICO เป็นผู้นำรายใหญ่ที่สุดในการสร้างแบรนด์อิมเมจการตลาดให้กับกลุ่มบริษัทยานยนต์ชั้นนำระดับโลกหลายราย อันแสดงให้เห็นถึงการได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าเหมือนที่ผ่านมาและต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อการดำเนินงานที่จะทำให้บริษัทสามารถเติบโตได้มากขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งจากงานบางกอกมอเตอร์โชว์ งานนิทรรศการกึ่งถาวรและพิพิธภัณฑ์ งานธุรกิจออกแบบและเช่าอุปกรณ์ส่งเสริมการตลาดอื่น ๆ เป็นต้น และในช่วงครึ่งปีหลังจะเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจนี้ ทำให้ PICO มั่นใจว่าผลงานน่าจะเติบโตได้ตามลำดับ
ปัจจุบัน สัดส่วนของรายได้ส่วนใหญ่ของ PICO มาจากลูกค้ากลุ่มรถยนต์ 50% รัฐบาล ,รัฐวิสาหกิจ และเอกชน 10% สื่อสาร การเงินและการธนาคาร 30% และอื่น ๆ อีก 10% ซึ่งบริษัทก็ยังจะพยายามรักษาอัตราการเติบโตเฉลี่ยให้ได้ในระดับที่เคยทำไว้ดังกล่าวด้วย นอกจากนี้บริษัทยังมีงานที่เข้าร่วมประมูลและรอผลการพิจารณาอีกด้วย
นายพิเสฐกล่าวถึงการเข้าลงทุนกับบริษัท บีอีซี-เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เพื่อก่อตั้ง บริษัท บีอีซี-เทโร เอ็กซ์ซิบิชั่น จำกัด โดยถือ 40% ซึ่งการจัดตั้งบริษัทนี้ เพื่อดำเนินธุรกิจให้บริการจัดการแสดงสินค้าและธุรกิจอื่นที่เกี่ยวเนื่อง โดยจะเป็นการนำประสบการณ์และความชำนาญของผู้ถือหุ้นทุกฝ่ายมารวมและเกื้อหนุนซึ่งกันและกันโดยเจาะกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ (Niche market)
ส่วนการลงทุนใน บริษัท ไอบริก จำกัด ซึ่งบริษัทนี้ดำเนินธุรกิจเพื่อดำเนินธุรกิจให้บริการจัดการแสดงสินค้าและธุรกิจอื่นที่เกี่ยวเนื่อง ด้วยสัดส่วนการลงทุน 39% ตามลำดับ ซึ่งการลงทุนดังกล่าวเป็นการสร้างพันธมิตรในการทำธุรกิจ หวังผลการกำไรและเงินปันผลจากการลงทุน ที่สำคัญจะทำให้บริษัทได้มีงานเข้ามาเพิ่มขึ้นจากการรับงานของพันธมิตรทั้งสองราย โดย PICO มีโอกาสที่จะทำหน้าที่ในการจัดบูธในงานของทั้งสองลักษณะคืองานนิทรรศการและงานแสดงต่าง ๆ ตลอดจนงานสาธารณะต่างๆ ตามแนวทางของสองบริษัทร่วมทุนดำเนินงานอยู่ในปัจจุบัน
โดยการร่วมลงทุนในบริษัททั้งสองแห่ง PICO หวังที่จะได้รับผลตอบแทนในเรื่องงานต่าง ๆ ในอนาคตระยะ 1-2 ปี จึงจะเห็นผลที่จะได้ทำงานต่อเนื่องร่วมกัน เป็นการซัพพอร์ตการดำเนินงานของบริษัทในอนาคตด้วย สำหรับผลการดำเนินงานตลอดทั้งปีนั้น ยังเปิดเผยตัวเลขที่แน่นอนไม่ได้ แต่เชื่อว่าน่าจะเติบโตได้ตามเป้าหมาย ซึ่งการร่วมลงทุนที่เกิดขึ้นพันธมิตรทั้งสองรายจะเปิดแถลงข่าวในเร็ว ๆ นี้
อย่างไรก็ตามผลงานงวดปี 48 PICO ได้ประกาศจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 31 สตางค์ ซึ่งได้จ่ายไปแล้วเมื่อ 28 กุมภาพันธ์ปีนี้ ขณะที่ผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาสที่ 1 ที่ผ่านมา บริษัทมีกำไรสุทธิ 15.02 ล้านบาทหรือ 0.13 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 13.50 ล้านบาทหรือ 0.12 บาทต่อหุ้น
|
|
|
|
|