Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน20 เมษายน 2549
หุ้นเหล็กพุ่งรับราคาขาขึ้น             
 


   
search resources

Metal and Steel
Stock Exchange




จากกรณีที่สถานการณ์ราคาเหล็กได้ส่งสัญญาณปรับเพิ่มขึ้นตั้งแต่ในช่วงปลายปี 2548 ที่ผ่านมา ได้ส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมและผู้ประกอบการในธุรกิจเหล็ก ทำให้มีการคาดการณ์ว่าผลการดำเนินของกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็กดีขึ้นในช่วงไตรมาสแรกปี 2549 นี้ ขณะเดียวกับ บรรดานักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ได้แนะนำให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนซื้อหุ้นในกลุ่มเหล็ก จนเป็นแรงผลักดันให้ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา

ผู้จัดการรายวัน ได้ทำการสำรวจราคาหุ้นของกลุ่มบริษัทที่ประกอบการอุตสาหกรรมเหล็ก ด้วยการเปรียบเทียบราคาหุ้นในช่วงต้นปี (3 ม.ค. 49) กับราคาหุ้นล่าสุด (18 เม.ย.) พบว่าราคาหุ้นของกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็กปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมาก มีเพียงบางบริษัทเท่านั้นที่มีราคาหุ้นปรับตัวลดลง (ตารางประกอบข่าว)

โดยบริษัทที่มีราคาหุ้นปรับตัวลดลงมี 2 บริษัท คือ บริษัท เพิ่มสินสตีลเวิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PERM และบริษัท สามชัย สตีล อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ SAM ที่ราคาหุ้นปรับตัวลดลงจากตันปี 14.01% และ 8.00% ตามลำดับ

ขณะที่ ราคาหลักทรัพย์ที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ บริษัท บางสะพานบาร์มิล จำกัด (มหาชน) หรือ BSBM ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นจากต้นปี 53.64% บริษัท นครไทยสตริปมิล จำกัด (มหาชน) หรือ NSM ราคาเพิ่มขึ้น 40.00% และบริษัท ซีเอสพี สตีลเซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CSP ราคาเพิ่มขึ้น 26.09%

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ประเมินว่า แนวโน้มแนวโน้มผลการดำเนินงานครึ่งแรกปี 2549 ผู้ประกอบการกลุ่มเหล็กจะมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นกว่าสิ้นปี 2548 แต่ยังคงต่ำกว่าเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/48 ที่ผ่านมา หลังจากสินค้าคงคลังที่มีต้นทุนสูงได้บันทึกขาดทุนไปหมดแล้ว บวกกับราคาเหล็กในตลาดโลกยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวเพิ่ม แม้ว่าจะยังมีความเสี่ยงว่าจะสามารถทรงตัวอยู่ในระดับสูงได้ต่อไปหรือไม่

ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปี 2549 โรงงานผลิตเหล็กในประเทศจีนได้ปรับราคา Billet ขึ้นประมาณ 3-5 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน และมีแนวโน้มที่จะปรับสูงขึ้นอีก เนื่องจากโรงเหล็กและผู้ค้าต่างมีสินค้าคงคลังลดลง บวกกับราคาต้นทุน(สินแร่เหล็ก) ขยับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ราคาเหล็กรีดร้อนเพิ่มขึ้นจากที่เคยต่ำสุดในเดือนธันวาคม 2548 ที่ 400 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน ขยับเป็น 410 ดอลลาร์สหรัฐ/ตันในเดือนมกราคม 2549 ก่อนจะขยับขึ้นเป็น 440 ดอลลาร์สหรัฐ/ตันในเดือนมีนาคม 2549

ส่วนเหล็กเส้นราคาได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน หลังจากปรับลดลงไปต่ำสุดในเดือนมกราคม 2549 ที่ 16.20 บาท/กก. จากเดือนธันวาคม 2548 อยู่ที่ 16.40 บาท/กก. ก่อนที่ราคาจะปรับตัวพุ่งไปที่ 16.80 บาท/กก. แต่ยังคงเป็นราคาที่ต่ำกว่าในอดีตที่อยู่ในระดับ 20 บาท/กก.

"การที่ราคาเหล็กฟื้นตัว จะส่งผลดีต่อราคากลุ่มเหล็ก เช่น บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) หรือ SSI บริษัท จี สตีล จำกัด (มหาชน) หรือ GSTEEL , NSM และ BSBM เป็นต้น"

**BSBM มั่นใจปีนี้พลิกฟื้นทำกำไรได้**

นายวีระวิทย์ ดุละลัมพะ รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.บางสะพานบาร์มิล หรือ BSBM กล่าวว่า ราคาหุ้น BSBM ปรับตัวเพิ่มขึ้นน่าจะเกิดจากการที่นักลงทุนคาดการณ์ว่าราคาเหล็กที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจะส่งผลดีต่อผลประกอบการของบริษัท จึงทำให้มีแรงซื้อเข้ามา ซึ่งบริษัทเองคาดว่าผลประกอบการในปีนี้จะสามารถพลิกฟื้นมามีกำไรสุทธิได้ จากปีก่อนที่ขาดทุนอยู่ประมาณ 167 ล้านบาท โดยตั้งเป้าปริมาณการขายเหล็กเส้นในปีนี่ไว้ที่ประมาณ 3.6 แสนตัน

สำหรับราคาเหล็กในปีนี้ประเมินว่าจะเฉลี่ยอยู่ที่ 1.75 หมื่นบาทต่อตัน โดยปัจจุบันราคาเหล็กอยู่ที่ระดับ 1.8 หมื่นบาทต่อตัน ทั้งนี้ไม่สามารถประเมินได้ว่าสถานการณ์เหล็กจะเป็นไปในทิศทางใดเนื่องจากราคาเหล็กจะมีความผันผวนตามราคาตลาดโลก

**CSP คาดกำไรขั้นต้นปีปีแตะ 12%**

นายวีรศักดิ์ ชัยสุพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ซีเอสพี สตีลเซ็นเตอร์ หรือ CSP กล่าวว่า ในปี 2549 ตั้งเป้าอัตรากำไรขั้นต้น (gross margin) ไว้ที่ 10-12% เพิ่มขึ้นจากปี 2548 ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 7.86% จากการที่ราคาเหล็กในตลาดโลกเริ่มปรับตัวดีขึ้น บวกกับปริมาณการต้องการใช้เหล็กในอุตสาหกรรมดีขึ้นอีกด้วย

ขณะเดียวกัน ในช่วงปลายปี 2548 บริษัทมีการขยายงานสร้างโรงงานและติดตั้งเครื่องจักรผลิตท่อเหล็กและเหล็กแผ่นแถบเพิ่มเติม โดยจะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตเหล็กทั้ง 2 ประเภทประมาณ 30,000 ตันต่อปี ส่งผลให้มีกำลังการผลิตตัดเหล็กแผ่นได้ 193,800 ตันต่อปี และกำลังการผลิตท่อเหล็กทั้งสิ้น 30,000 ตันต่อปี

สำหรับแนวโน้มราคาเหล็กในตลาดโลกปีนี้ คาดว่าจะเฉลี่ยอยู่ที่ 600 เหรียญสหรัฐต่อตัน สูงกว่าที่ผ่านมาที่ราคาเหล็กเฉลี่ยอยู่ที่ 500 เหรียญต่อตัน ซึ่งพิ่มขึ้นตามภาวะตลาดและความต้องการใช้เหล็ก โดยราคาเหล็กน่าจะทรงตัวอยู่ในระดับสูงจนถึงไตรมาสที่ 3 ปีนี้ และอาจมีความผันผวนบ้างในช่วงปลายปี 2549

**PERM มั่นใจรายได้ครึ่งปีแรกโดดเด่น**

นายชูเกียรติ ยงวงศ์ไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บมจ. เพิ่มสิน สตีลเวิคส์ (PERM) กล่าวว่า บริษัทมั่นใจรายได้ไตรมาส 1 ปีนี้จะสูวกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากอุตสาหกรรมรถยนต์ที่ใช้เหล็กรีดเย็นเป็นวัตถุดิบมีการขยายตัวกว่า 10% ประกอบกับภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ ยังมีการขยายตัวต่อเนื่องโดยยังมีการก่อสร้างโรงงานในหลายแห่ง ขณะเดียวกันทิศทางราคาเหล็กรีดเย็นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากเกือบแตะที่ระดับ 700 เหรียญสหรัฐ/ตัน จะส่งผลดีต่อรายได้ไตรมาส 2 ด้วย

**SAM เป้ารายได้ปีนี้ทะลุ 5 พันล.**

นายพัชวัฏ คุณชยางกูร รักษาการประธานกรรมการบริหาร บมจ. สามชัย สตีล อินดัสทรี (SAM) กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 5,000-5,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 3,900 ล้านบาท โดยรายได้ส่วนใหญ่ยังคงมาจากธุรกิจท่อเหล็ก ขณะที่ไตรมาส 1 รายได้จะต่ำกว่าประมาณการที่ตั้งไว้ประมาณ 10% หรืออยู่ 1,200 ล้านบาท

สำหรับแนวโน้มของราคาเหล็กรีดร้อนในปี 2549 นี้ น่าจะทรงตัวอยู่ในระดับสูงจนถึงปลายปี เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาราคาเหล็กได้ปรับลดลงค่อนข้างมาก รวมทั้งสต็อกสินค้ายังมีมากเกินกว่าความต้องการของตลาดอีกด้วย โดยในปีนี้คาดว่าราคาเหล็กรีดร้อนน่าจะอยู่ที่ 20บาท/กิโลกรัม

"ราคาหุ้นที่ปรับเพิ่มขึ้นในระยะนี้ เป็นไปตามภาวะตลาด รวมทั้งเป็นไปตามราคาเหล็กในตลาดโลกที่ปรับเพิ่มขึ้น ดังนั้นจึงทำให้นักลงทุนเข้ามา เก็งกำไร และส่งผลให้ราคาหุ้นในกลุ่มเหล็กได้รับความสนใจจากนักลงทุน"   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us