บลจ.ทหารไทย เตรียมเพิ่มทุนกองเปิด JUMBO 25 เป็น 5,000 ล้านหลังผลตอบแทนกระฉูดจากหุ้นกลุ่มพลังงาน รองรับกระแสนักลงทุนแห่เข้าซื้อหน่วยลงทุนเพิ่ม เผยตั้งแต่จัดตั้งกองทุนให้ผลตอบแทนกว่า 31%พร้อมขายกองพันธบัตร 3,6,12 เดือน รุ่นสี่ 21-28 เม.ย.นี้ คาดผลตอบแทน 4.3-4.8 %

นางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด เปิดเผยว่า ในเดือนเมษายนนี้ บริษัทได้เตรียมเพิ่มขนาดกองทุนเปิด JUMBO 25 อีก 2,000 ล้านบาท รวมเป็นมูลค่ากองทุน 5,000 ล้านบาท เพื่อเป็นการรองรับการเติบโตของกองทุน ซึ่งขณะนี้มีผู้ที่สนใจลงทุนในกองทุนเปิด JUMBO 25 เพิ่มมากขึ้น เนื่องจาก กองทุนดังกล่าวมีผลตอบแทนที่ดีอย่างต่อเนื่อง หากนับจากวันจัดตั้งกองทุนในวันที่ 9 กันยายน 2547จนถึงปัจจุบันให้ผลตอบแทนแล้วกว่า 31%

กองทุนเปิด JUMBO 25 เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในหุ้น 100% โดยจะเน้นที่หุ้นสามัญบริษัทจดทะเบียน 25 หลักทรัพย์แรกที่เข้าหลักเกณฑ์ ซึ่งจะพิจารณาถึงมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization) สภาพคล่อง ผลประกอบการ และ การจ่ายปันผล โดยในปีที่ผ่านมากองทุนเปิด JUMBO 25 มีผลตอบแทนสูงถึง 16.30% ซึ่งเป็นผลมาจากการลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงานในสัดส่วนที่สูงถึง 37% ทำให้กองทุนได้รับผลตอบแทนสูงมากจากหุ้นกลุ่มดังกล่าวด้วย และในขณะที่ปัจจุบันภาวะน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจึงทำให้นักลงทุนเกิดความสนใจและต้องการลงทุนเพิ่มจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้ทาง บริษัทได้ทำการขออนุมัติการเพิ่มทุนจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และไดรับความเห็นชอบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมเปิดขายกองทุนพันธบัตรทหารไทย 6 เดือน และ 1 ปี รุ่นที่ 4 ในระหว่างวันที่ 21-28 เมษายนศกนี้ มูลค่ากองทุนละ 5,000 ล้านบาท โดยคาดอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลหลังจากหักค่าใช้จ่ายของกองทุน พันธบัตรอายุ 6 เดือน หักค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ประมาณ 4.5% และพันธบัตรรัฐบาลอายุ 1 ปี หักค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ประมาณ 4.8% (ข้อมูลจากผลประมูลพันธบัตรรัฐบาลอายุ 6 เดือน และ 1 ปี ณ วันที่ 17 เมษายน 2549 จาก www.bot.or.th)

สำหรับกองทุนเปิดทหารไทยพันธบัตร 3 เดือนนั้น จะเป็นการเสนอขายของกองทุนเปิดทหารไทยพันธบัตร 3 เดือน รุ่นที่ 1 ซึ่งจะถึงกำหนดการเสนอขายและรับซื้อคืน ในวันที่ 21-28 เมษายน 2549 กล่าวคือ กองทุนจะเปิดโอกาสให้ผู้ถือหน่วยลงทุนเดิมที่ต้องการขายคืนหน่วยลงทุนสามารถทำได้ในวันที่ 21 – 26 เมษายน 2549 แต่หากผู้ถือหน่วยลงทุนเดิมที่สนใจซื้อหน่วยลงทุนเพิ่มหรือลูกค้าใหม่ที่สนใจลงทุนในกองทุนดังกล่าวสามารถซื้อกองทุนได้ในวันที่ 21-28 เมษายน 2549นี้

ทั้งนี้ หากผู้ลงทุนเดิมที่ไม่ได้แจ้งความจำนงที่จะขายคืนหน่วยลงทุนดังกล่าวบริษัทจะถือว่าลูกค้ามีความประสงค์ที่จะลงทุนในกองทุนเปิดทหารไทยพันธบัตร 3 เดือนรุ่นที่ 1 ต่อไป ซึ่งคาดว่าผลตอบแทนของกองทุนดังกล่าวหลังหักค่าใช้จ่ายของกองทุนจะอยู่ที่ประมาณ 4.3%” (ข้อมูลจากผลประมูลพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ณ วันที่ 17 เมษายน 2549 จาก www.bot.or.th)

สำหรับยอดขายกองทุนพันธบัตร 3 เดือน 6 เดือน และ 1 ปี รุ่นที่ 3 มียอดขายรวม 4,558 ล้านบาท มาจากยอดขายกองทุนพันธบัตร 3 เดือนถึง 4,222 ล้านบาท พันธบัตร 6 เดือน 127 ล้านบาท และพันธบัตร 1 ปี 209 ล้านบาท โดยนักลงทุนให้ความสนใจกับกองระยะสั้น 3 เดือนมากที่สุดซึ่งให้ผลตอบแทน 4.1 % ต่อปี และถึงแม้ว่าอัตราดอกเบี้ยธนาคารพาณิชย์ในปัจจุบันได้ปรับเพิ่มขึ้นจะใกล้เคียงกับอัตราผลตอบแทนจากพันธบัตร แต่เมื่อเทียบกับการลงทุนตราสารหนี้ระยะสั้นที่สามารถต่ออายุไปได้เรื่อยๆทั้งปี รวมทั้งผลตอบแทนกองทุนรวมที่ไม่ต้องเสียภาษีแล้วนักลงทุนก็จะได้รับผลตอบแทนสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยที่ปรับขึ้นมาอยู่ดี