|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ทีโอที โหนกระแสบอลโลก ภายใต้แคมเปญ TOT Football On Fire 2006 ขยายฐานลูกค้าใหม่ กระตุ้นฐานลูกค้าเก่า หวังเบียดทรูขึ้นเป็นผู้นำตลาดบรอดแบนด์ภายใน 3 ปี และเดินตามนโยบายสร้างรายได้จากนอนวอยซ์แทนบริการสื่อสารทางเสียง ส่วนยอดผู้ใช้บริการสิ้นปีนี้ตั้งเป้าไว้ที่ 3 แสนราย
นายอดิศร์ หะรินสุต ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักการตลาด บริษัท ทีโอที กล่าวว่า หลังจากที่ ทีโอที ได้จัดกิจกรรมทางการตลาด เพื่อสร้างจำนวนผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (บรอดแบนด์) ภายใต้แคมเปญ TOT Football On Fire 2006 ได้มีผลตอบรับและการให้ความสนใจอย่างมากจากลูกค้า โดยขณะนี้ได้มีผู้ที่สมัครเลือกใช้บริการแล้วกว่า 5 พันราย และคาดว่าภายในสิ้นเดือนนี้จะมีผู้สมัครใช้บริการไม่ต่ำกว่าหมื่นราย
กิจกรรมดังกล่าว ทีโอที ต้องการแข่งขันในตลาดผู้ให้บริการบรอดแบนด์อย่างเต็มรูปแบบแล้ว ตามกลยุทธ์และเป้าหมายของบริษัทที่วางไว้ เพื่อเข้ามาทดแทนบริการด้านเสียงที่ในปัจจุบันจำนวนรายได้ไม่เติบโตสูงมาก อีกทั้งบริการบรอดแบนด์ ยังได้เปรียบคู่แข่งเรื่องการให้บริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ทั้งโครงข่ายโทรศัพท์พื้นฐาน และบริการผ่านดาวเทียม ไอพีสตาร์
ทีโอที ตั้งเป้าหมายมีลูกค้าใหม่เข้าใช้บริการประมาณ 2 แสนรายภายในสิ้นปีนี้ หรือมีผู้ใช้บริการรวม 3 แสนราย โดย ทีโอที ได้เตรียมงบประมาณเพื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ ผ่านสื่อ ทีวี วิทยุ และหนังสือพิมพ์ รวมทั้งสิ้นกว่า 60 ล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมมูลค่ารางวัลอีกจำนวน25 ล้านบาท
“ตอนนี้ ทีโอที มีลูกค้าบรอดแบนด์ประมาณ 1 แสนราย และจะพยายามทำตลาดให้มีลูกค้าเข้าใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าตอนนี้เราจะมาเริ่มเข้ามาแข่งขันอย่างเต็มรูปแบบ แต่ผมเชื่อว่า ตอนนี้ยังไม่สายเกินไป และยังมั่นใจว่า ใน 3 ปี ทีโอที จะพลิกสถานการณ์ก้าวขึ้นสู่ความเป็นผู้นำได้อย่างเต็มรูปแบบ”
สำหรับอัตราค่าบริการ ทีโอที ให้เลือกหลายรูปแบบ ตั้งแต่ถูกที่สุด คือประมาณ 500 บาท/เดือน และแพงที่สุด คือประมาณ 1,500 บาท/เดือน โดยเริ่มจากที่ระดับความเร็ว 128 Kb-256 Kb-512 Kb -1 Mb และ 2 Mb ผู้ที่สนใจสามารถสมัครใช้บริการก่อนสิ้นเดือนนี้ ยังสามารถเข้าร่วมแคมเปญ ทีโอที ฟุตบอล ออนไฟร์ 2006 ได้ด้วย
นายอดิศร์กล่าวถึงภาพรวมของตลาดบรอดแบนด์ว่า ปัจจุบันมีจำนวนผู้ใช้บริการเกือบ 6 แสนราย โดย ทรู มีส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุด กว่า 80% และอยู่ในเขตกทม. โดยมีจำนวนผู้ใช้กว่า 3 แสนราย ส่วน ทีโอที อยู่ที่ อันดับ 2 แต่ ทีโอที มีความได้เปรียบกว่าในด้านพื้นที่ให้บริการ โดยเฉพาะในเขตต่างจังหวัดและบริการผ่านดาวเทียมไอพีสตาร์ ส่วนทีทีแอนด์ทีมีสัดส่วนผู้ใช้บริการใกล้เคียงกับ ทีโอที ประมาณ 1 แสนกว่าราย ส่วนที่เหลือจะเป็นของไอเอสพี
สำหรับกิจกรรมที่จัดขึ้นในครั้งนี้ ทีโอที ไม่ได้มุ่งแต่การสร้างลูกค้าใหม่เพียงอย่างเดียวแต่ยังเป็นกิจกรรมให้กับกลุ่มลูกค้าเก่า ให้สามารถเข้าร่วมสนุกได้อีกด้วย ที่ลูกค้าทั้งหมดสามารถเข้าร่วมกิจกรรม ทีโอที ฟุตบอล ออนไฟร์ 2006 ผ่านเว็บไซต์ www. tdetonline.com เพื่อชิงรางวัลแพกเกจทัวร์ กรุงเทพฯ-สวิสเซอร์แลนด์ พร้อมบัตรเข้าชมฟุตบอลนัดพิเศษระหว่างทีมชาติบราซิลและสวิสเซอร์แลนด์ 40 รางวัล , กรุงเทพฯ-เยอรมนี พร้อมบัตรเข้าชมฟุตบอลนัดพิเศษระหว่างทีมชาติอังกฤษ-สวีเดน 5 รางวัล และทีมชาติบราซิล-โครเอเซีย อีก 5 รางวัล
เขากล่าวอีกว่า เพื่อรองรับการเติบโตของผู้ใช้บริการบรอดแบนด์มากยิ่งขึ้น ทีโอที ยังได้เจรจากับผู้ผลิตข้อมูล (คอนเทนต์) หลายราย อาทิ แกรมมี่, อิเมจิแม็กซ์ รวมถึงการหาลิขสิทธิ์คอนเทนต์จากต่างประเทศ ในการนำข้อมูลต่างๆ มาเปิดให้บริการด้วย เพื่อรองรับการใช้งาน ซึ่ง ทีโอที จะนำมาให้บริการหลากหลาย ทั้งกลุ่มการศึกษา บันเทิง เกม โดยคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ภายในไตรมาส 2 ของปีนี้
นอกจากนี้ ในเรื่องของความรวดเร็วในการติดตั้งอุปกรณ์หรือเลขหมายรองรับ ทีโอที ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบบริการให้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยในพื้นที่ซึ่งมีเครือข่ายบรอดแบนด์อยู่แล้ว สามารถติดตั้งให้แล้วเสร็จภายใน 5-7 วัน ขณะที่กรุงเทพฯ ได้ขยายเครือข่ายรองรับบริการได้ครอบคลุมหมดแล้ว ส่วนในต่างจังหวัดจะเน้นขยายไปยังพื้นที่ที่มีความต้องการใช้งานเป็นหลัก ซึ่งจะมีให้เลือกทั้งในรูปผ่านข่ายสาย และ ผ่านดาวเทียมไอพีสตาร์
ส่วนทิศทางการดำเนินงานด้านการตลาดในปีนี้ ทีโอที ได้จัดกลุ่มสินค้าที่มีอยู่ประมาณ 60-100 ผลิตภัณฑ์ ให้เข้าไปอยู่ใน 5 หมวดหมู่ คือ บริการด้านเสียง (วอยซ์), บรอดแบนด์, คอนเทนต์และเซอร์วิส, โทรศัพท์มือถือ และโฮเซลส์ ที่เป็นการขายแบบยกล็อต ขณะเดียวกันก็เตรียมที่จะตั้งทีมงานเพื่อเข้ามาศึกษาตลาด เพื่อนำข้อมูลของคู่แข่งมาปรับใช้ให้ทันกับการแข่งขันที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน โดยคาดว่าจะใช้เวลาในการจัดตั้งประมาณ 9 เดือน
|
|
|
|
|