|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ก.ล.ต.ยืนยันการกล่าวโทษอดีตบิ๊กเอ็นพาร์คไม่ได้เลือกปฎิบัติ ระบุไม่มีอคติหรือความขัดแย้งส่วนตัวกับผู้ถูกกล่าวโทษ เผยทุกอย่างทำตามขั้นตอน ภายหลัง"ทศพงศ์ จารุทวี" ฟ้องกับธีระชัย-เลขาฯก.ล.ต.พร้อมพวกรวม 5 คน
รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. แจ้งว่าจากการที่นายทศพงศ์ จารุทวี อดีตผู้บริหารบริษัท แนเชอรัลพาร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ N-PARK แถลงข่าวเมื่อวานนี้ (17 เมษายน 2549) โดยระบุว่า ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการ ก.ล.ต. และพวกรวม 5 คน ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบจากการดำเนินการตรวจสอบด้วยวิธีไม่ปกติและไม่เป็นธรรม จนทำให้เกิดความเสียหายต่อนายทศพงศ์ฯ และ N-PARK
ทั้งนี้ขั้นตอนในการดำเนินงานของสำนักงานก.ล.ต. ประกอบด้วย
1.การดำเนินการของ ก.ล.ต. ในการกล่าวโทษอดีตผู้บริหารของ N-PARK และบุคคลที่เกี่ยวข้องต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI เพื่อสอบสวนดำเนินคดีกรณีถ่ายเทผลประโยชน์จาก N-PARK ให้แก่บุคคลอื่น เป็นการปฏิบัติตามหน้าที่ซึ่งกำหนดในกฎหมายหลักทรัพย์ โดย ก.ล.ต. และผู้บริหารของ ก.ล.ต. มิได้มีอคติหรือความขัดแย้งส่วนตัวกับผู้ถูกกล่าวโทษแต่อย่างใด การดำเนินการดังกล่าวจึงมิได้เป็นการเลือกปฏิบัติหรือเป็นการกลั่นแกล้งบุคคลใดบุคคลหนึ่ง
2. ในการพิจารณาข้อเท็จจริงเพื่อสรุปสำนวนการสอบสวนเสนอต่ออัยการเพื่อพิจารณาดำเนินคดีนั้น ก็ดำเนินการอย่างรอบคอบ โดยเป็นการพิจารณาร่วมกันระหว่าง DSI และคณะทำงานสอบสวนคดีพิเศษตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนจากกระทรวงยุติธรรม ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พนักงานอัยการ และ ก.ล.ต. โดยได้มีความเห็นพ้องกันว่า สำนวนคดีนี้มีหลักฐานเพียงพอในการสั่งฟ้องผู้ถูกกล่าวโทษ
และ3.สำหรับการร้องทุกข์กล่าวโทษของนายทศพงศ์ฯ ต่อพนักงานสอบสวน หากพนักงานสอบสวนประสงค์จะขอข้อมูลที่เกี่ยวข้องในกรณีดังกล่าว ก.ล.ต. พร้อมที่จะชี้แจงข้อเท็จจริงและให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่
อนึ่ง เมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมานายทศพงศ์ จารุทวี อดีตผู้บริหารระดับสูง บมจ.แนเชอรัล พาร์ค หรือ N-PARK ได้แถลงข่าวว่า เมื่อวันที่ 12 เมษายนที่ผ่านมา ด้ดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสืบสวนสอบสวนของสน.เตาปูน เพื่อดำเนินการทางคดีกับผู้กระทำผิดทางอาญา กับนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และผู้บริหารก.ล.ต.รวม 5 คน ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และมีพฤติกรรมการใช้อำนาจหน้าที่ที่ไม่ให้ความเป็นธรรม และยังมีการดำเนินการที่ส่อในทางที่ไม่โปร่งใส
เนื่องจากตั้งแต่สำนักงานก.ล.ต.ได้กล่าวโทษเมื่อสิงหาคม 2547 ได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตเป็นอย่างมาก ต้องลาออกจากการเป็นกรรมการของบริษัท ตลอดจนฐานะทางสังคมก็ได้รับความเสียหายอย่างมาก แต่เมื่อประมาณต้นเดือนเมษายนนี้อัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้องทุกกรณีก็ถือว่าเป็นการพิสูจน์แล้วว่าตนไม่ได้เป็นผู้กระทำผิด
สำหรับการกล่าวโทษของสำนักงานก.ล.ต.เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2547 สำนักงานก.ล.ต. ได้ดำเนินการกล่าวโทษ นายทศพงศ์ กรรมการบมจ.แนเชอรัล พาร์ค ในฐานะอดีตกรรมการผู้จัดการผู้รับผิดชอบการดำเนินงานของ N-PARK ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อสอบสวนดำเนินคดีกรณีถ่ายเทผลประโยชน์จาก N-PARK ให้แก่นางสว่าง มั่นคงเจริญ รวมทั้งได้กล่าวโทษนางสว่าง กรณีให้ความช่วยเหลือนายทศพงศ์และเป็นผู้รับประโยชน์จากการกระทำของนายทศพงศ์
ทั้งนี้สืบเนื่องจากสำนักงาน ก.ล.ต. ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ลงทุนผ่านหลังการตรวจสอบพบว่าในช่วงปี 2542 N-PARK นายทศพงศ์ ในฐานะกรรมการผู้จัดการและผู้รับผิดชอบการปรับโครงสร้างหนี้ ได้เจรจาประนอมหนี้กับบรรษัทบริหารสินทรัพย์สถาบันการเงิน (บบส.) เป็นผลสำเร็จ ซึ่งตามเกณฑ์ของ บบส. จะให้สิทธิแก่บริษัทในฐานะลูกหนี้ที่จะซื้อทรัพย์สินคืนเป็นจำนวนเงิน 876 ล้านบาทบวกดอกเบี้ย จากราคาตลาดประมาณ 1,400 ล้านบาท แต่แทนที่จะรักษาสิทธินั้นไว้เป็นประโยชน์ของบริษัทนายทศพงศ์ได้มอบสิทธิซื้อคืนดังกล่าวให้แก่ บริษัท ดี ซี เอช จำกัด ซึ่งจัดตั้งโดยนางสว่าง
ภายหลังสำนักงานก.ล.ต. ตรวจสอบพบว่าเข้าลักษณะเป็นการกระทำความผิดตามมาตรา 315 แห่ง พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯก.ล.ต. จึงได้กล่าวโทษผู้เข้าข่ายกระทำความผิดทั้ง 2 ราย ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษเพื่อสอบสวนดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป
|
|
|
|
|