|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
“อลงกรณ์” เปิดตัวนอมินีเจ๊แดง พบเป็นน้องสาว "ภูมิธรรม เวชยชัย" มั่นใจเจ๊แดงซุกหมู่บ้านชินณิชาฯโดยใช้นอมินี ยันข้อมูลพร้อมเตรียมยื่น ปปช.ภายใน10วัน พร้อมมอบหมายให้ "กรณ์ จาติกวณิช" ตรวจสอบการซื้อขายหุ้นของบริษัททั้งในและนอกตลาดหลักทรัพย์ของครอบครัววงศ์สวัสดิ์รวม 7 บริษัท ด้านผลสอบนอมินีชินคอร์ปไม่คืบ “พาณิชย์” อ้างเหตุผลเดิมรอข้อมูลแบงก์ไทยพาณิชย์ ลั่นขีดเส้นตาย 21 เม.ย.นี้
นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะทำงานตรวจสอบทุจริตของพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบความเป็นเจ้าของหมู่บ้านชินณิชา วิลล์ ของนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ อดีต ส.ส.เชียงใหม่ พรรคไทยรักไทย ว่า ได้มอบหมายให้นายกรณ์ จาติกวณิช รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ดำเนินการตรวจสอบการซื้อขายหุ้นของบริษัททั้งในและนอกตลาดหลักทรัพย์ของครอบครัววงศ์สวัสดิ์รวม 7 บริษัท
ประกอบด้วยบริษัทเอ็มลิงค์,บริษัททราฟฟิก คอนเนอร์ โฮลดิ้ง,บริษัทแอสคอน คอนสตรัคชั่น,บริษัทจีสตีล,บริษัทวินโคสท์ อินดัสเทรียล พาร์ค จำกัด (มหาชน),บริษัทสร้างสินพร็อพเพอร์ตี้ และบริษัทพอร์ทัล เน็ต จำกัด (มหาชน)
ทั้งนี้ ยังให้นายกรณ์ประสานในการตรวจสอบกับบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) กรณีซื้อโครงการการ์เด้น ซิตี้ ลากูน ก่อนจะมาก่อตั้งเป็นชินณิชา วิลล์ ว่ามีความโปร่งใสหรือไม่ และให้ทำหนังสือถึงผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เกี่ยวกับการให้สินเชื่อโดยธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง ในการสนับสนุนเงินทุนเพื่อซื้อโครงการนี้ว่ามีความโปร่งใสหรือไม่ด้วย
นายอลงกรณ์กล่าวว่า ยังได้พบหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่ามีเส้นทางโยงใยว่านางเยาวภาเป็นเจ้าของหมู่บ้านชินณิชา วิลล์ โดยผ่านทางนางสุนิสา ปฐมพฤกษ์ ซึ่งมีนามสกุลเดิมว่า เวชยชัย ซึ่งเป็นน้องสาวของแกนนำในพรรคไทยรักไทย โดยจากหลักฐานพบว่านางสุนิสา เป็นเจ้าของบริษัทสินมหัต ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ ในบริษัทสร้างสิน พร็อพเพอร์ตี้ โดยมีความสนิมสนมกับนางเยาวภาทำหน้าที่เสมือนเป็นเลขานุการและยังเป็นกรรมการบริษัทเอ็มลิงค์ และถือหุ้นหลายบริษัทอาทิบริษัทเอ็ม แอสเสท ที่เจ้าของคือนางมณฑาทิพย์ และนายสมชาย โกวิทย์เจริญกุล บริษัทวาย ชินวัตร ซึ่งมีลูกทั้ง3คนของนางเยาวภาถือหุ้นอยู่ บริษัทเอ็ม ช็อป โมบาย ที่มีกรรมการบริหารคือนางมณฑาทิพย์ และน.ส.ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ และบริษัทแซนด์ ฮอด พร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งน.ส.ชินณิชาเป็นกรรมการบริหารฉะนั้นจึงยืนยันให้เห็นว่าหมู่บ้านชินณิชา วิลล มีความเกี่ยวโยงอย่างไรกับครอบครัววงศ์สวัสดิ์ ทั้งในนิตินัยและพฤตินัย
“สิ่งที่นางเยาวภาจะต้องตอบคำถามคือการถือครองความเป็นเจ้าของโครงการชินณิชา วิลล์ โดยผ่านนางสุนิสาใช่หรือไม่ และขณะเดียวกันนางเยาวภาได้แจ้งทรัพย์สินที่ดิน 8 ไร่ในหมู่บ้านชินณิชา วิลล์ มูลค่า 256 ล้านหรือไม่ และนำเงินที่ไหนมาซื้อที่ดิน ยังไม่รวมตัวบ้านและอาคาร" รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวและว่า สำหรับนางวัสสา จีนะวิจารณะ ภรรยาของนายเฉลิมชัย จีนะวิจารณะ อดีตส.ส.กทม. พรรคไทยรักไทย เป็นกรรมการบริหารบริษัทสร้างสินพร็อพเพอร์ตี้ ขณะที่นายเฉลิมชัย เป็นผู้อำนวยการ ซึ่งทั้งสองคนให้สัมภาษณ์ว่าเป็นผู้เข้าไปบริหารไม่ใช่เป็นเจ้าของ แต่เป็นเพียงผู้บริหารเท่านั้น ดังนั้นตอนนี้จึงได้เบาะแสความคืบหน้ามากขึ้น ที่จะพิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นการซุกหมู่บ้านของนางเยาวภาโดยใช้นอมินี ที่ผ่านนางสุนิสาหรือไม่ และนำเงินมาจากไหนจำนวน 256 ล้านบาท มาซื้อที่ดินในการทำโครงการดังกล่าว รวมทั้งนำเงินจากไหนไปซื้อโครงการนี้จากบสท.จำนวน 800 ล้านบาท
“ผมคิดว่าจากความเชื่อมโยงทั้งหมด เชื่อได้ว่า เจ๊แดงซุกหมู่บ้านโดยใช้นางสุนิสาเป็นนอมินี ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการทำงานของป.ป.ช.ที่จะใช้กฎหมายพิเศษเข้าไปตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินตรวจต่างๆ โดยขณะนี้ได้รวบรวมหลักฐานทั้งหมดได้เกือบครบถ้วนแล้วคาดว่าจะสามารถยื่นให้ตรวจสอบได้ภายใน 10 วัน” นายอลงกรณ์กล่าว
**สอบนอมินีชินคอร์ปไม่คืบ
นางสาวอรจิต สิงคาลวานิช อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยถึงความคืบหน้าการตรวจสอบข้อมูลของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการขายหุ้นชินคอร์ปว่า ได้ขอความร่วมมือไปยังธนาคารไทยพาณิชย์ เพื่อขอให้ส่งเอกสารธุรกรรมทางการเงินภายหลังการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นของบริษัท ซีด้า โฮลดิ้ง จำกัด และบริษัท กุหลาบแก้ว จำกัด มาให้อีกครั้งภายในวันที่ 21 เม.ย.นี้ ภายหลังจากได้ตรวจสอบเอกสารที่ทั้งสองบริษัทได้ยื่นมายังกรมฯ แล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา อีกทั้งจากการรับฟังคำชี้แจงของตัวแทนจากธนาคาร ยังไม่สามารถตอบข้อสงสัยในประเด็นการพิจารณากรณีการซื้อหุ้นชินคอร์ปว่ามีพฤติกรรมถือหุ้นแทนต่างชาติ (นอมินี) ตามพ.ร.บ. การประกอบธุรกิจคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 ได้อย่างสมบูรณ์
“หลังจากได้รับเอกสารตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา กรมฯ ได้ตรวจสอบเบื้องต้น และได้รับฟังคำชี้แจงจากตัวแทนของธนาคารไทยพาณิชย์ พบว่า เอกสารที่ได้รับยังไม่ครอบคลุม และไม่สามารถตอบข้องสงสัยบางประเด็นเกี่ยวกับกรณีนอมินีได้ จึงได้ทำหนังสือขอความร่วมมือไปยังธนาคารให้ส่งเอกสารเพิ่มเติมอีกครั้งในส่วนของการเปลี่ยนโครงสร้างผู้ถือหุ้น ที่ต้องเข้าไปตรวจสอบให้ได้ ภายในวันที่ 21 เม.ย.นี้ และหลังจากนั้นจึงจะทราบว่าจะต้องเชิญผู้ถือหุ้นที่มีความเกี่ยวข้องรายใด มาชี้แจงข้อเท็จจริงบ้าง ก่อนที่จะสรุปผลออกมาภายในเดือนเม.ย.นี้” นางสาวอรจิตกล่าว
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า บริษัทลูกในเครือชินคอร์ปบางแห่งจะมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นนั้น กรมฯ ยังไม่มีการตรวจสอบเพิ่มเติมในขณะนี้ เนื่องจากการตรวจสอบความเป็นนอมินีของบริษัท กุหลาบแก้ว และบริษัท ซีด้า โฮลดิ้งจะมีผลต่อสถานะของบริษัทลูกภายใต้เครือชินคอร์ปทั้งหมด 5 บริษัทอยู่แล้ว ดังนั้นขณะนี้จะต้องตรวจสอบจุดเริ่มต้นก่อน
อย่างไรก็ตาม หากตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นการถือหุ้นแทนต่างชาติจริงจะมีความผิดตามพ.ร.บ.ประกอบธุรกิจคนต่างด้าว พ.ศ.2542 มาตรา 36 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาทถึง 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งให้เลิกการถือหุ้น
|
|
|
|
|