เมื่อตอนต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาได้มีโอกาสโทรศัพท์คุยกับเอกชัย อธิคมนันทะ
อดีตผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การ (บีบีซี) ก็ให้แปลกใจเป็นกำลัง
เพราะลำพังการปฏิเสธที่จะพูดคุยด้วยนั้นพอเข้าใจอยู่เนื่องจากข่าวคราวของธนาคารแห่งนี้กำลังอยู่ในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวาน
แต่ที่ไม่เข้าใจจนต้องมาบ่นสนทนากับเพื่อนร่วมงานก็คือ เหตุใดน้ำเสียงที่พูดจึงละล่ำละลักเหมือนปลาสำลักน้ำ
คุยกันกว่าสิบนาทีจับใจความได้แต่เพียงว่าไม่อยากพูด จรุง หนูขวัญผู้ช่วยผู้ว่าการอาวุโสธนาคารแห่งประเทศไทยให้เงียบเอาไว้
"เห็นมั้ยตอนนี้ไม่มีใครพูด เรื่องก็เลยเงียบแล้วก็จะดีเอง"
ใช่..แล้วก็มีข่าวว่าเกริกเกียรติ ชาลีจันทร์ กรรมการผู้จัดการใหญ่บีบีซีควงแขนราเกซ
สักเสนา ท่านราชครูประจำตัวเดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว
เช้าตรู่วันที่ 7 มิถุนายน 2539 เอกชัย อธิคมนันทะนักเรียนทุนแบงก์ชาติที่จบ
MBA จากฮาร์วาร์ดก็ถูกจับกุมในหลายข้อหาที่เกี่ยวพันกับการทุจริตในบีบีซี
อีกไม่กี่วันต่อมาเกริกเกียรติ ชาลีจันทร์เดินทางกลับประเทศไทย และเข้ามอบตัวกับตำรวจกองบังคับการสืบสวน
และสอบสวนคดีเศรษฐกิจ (สศก.) โดยแถลงข่าวกับสื่อมวลชนว่าจะให้ความร่วมมือทุกประการในการแก้ไขปัญหาของบีบีซี
เหตุการณ์ในบีบีซีตอนนี้ถือว่าเดินทางมาถึงจุดจบของภาคแรกเปรียบไปก็เหมือนเรือสินค้าที่ล่มแล้ว
ภาคต่อไปก็เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการควบคุมธนาคารแห่งนี้ ว่าจะทำการนำสินค้าที่ยังไม่เสียหายออกจากเรือได้เท่าไหร่
จากนั้นคงเป็นงานของผู้รับผิดชอบประเทศว่าจะระเบิดซากเรือลำนี้ทิ้งหรือกู้ขึ้นมาซ่อมแซมใหม่..ซึ่งก็ยากพอ
ๆ กัน
ข้อสังเกตหนึ่งที่อยากให้มองกันมากกว่านี้ก็คือ การเติบใหญ่ของทุนนิยมที่ไม่อยากเรียกว่าเป็นการพัฒนา
ที่แปรเปลี่ยนไปตลอดเวลาในการใช้เงินเพื่อจะได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.
จากสมัยเมื่อ 30-40 ปีก่อนแจกข้าวสาร ปลาทูเค็ม รองเท้าฟองน้ำ สัญญาจิปาถะฯลฯ
มาเป็นซองเงินเย็บติดชื่อ หมายเลขผู้สมัครรับเลือกตั้งใจกว้างคนนั้น
ที่น่าสนใจแกมสะพรึงกลัวก็คือแหล่งที่มาของเงินที่ใช้ซื้อสิทธิ์ ซื้อเสียง
จากเดิมยังพอมีคุณธรรมอยู่บ้างรู้ว่าเล่นการเมืองต้องใช้เงินก็ขายที่ขายทาง
ขายสมบัติเก่ามาใช้ในการซื้อเสียงรูปแบบต่าง ๆ
เมื่อ 10 ก่อนยังมีนักการเมืองบางคนกล้าออกมาพูดว่าไหน..ใครบอกว่าเล่นการเมืองแล้วรวย?
ดูอย่างผมนี่ไงเล่นการเมืองไม่กี่ปีจนเสียกระทั่งบ้านจะไม่มีอยู่
เดี๋ยวนี้หรือครับ ส.ส. หน้าใหม่ได้รับเลือกตั้งไม่กี่ครั้ง อาศัยเวลาเพียงแค่ปีกว่า
ๆ ในตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการบางกระทรวงถอยเบนซ์ 2-3 คันมาขับเล่น ไม่นับบ้านและที่ดินอีกทั้งเงินในบัญชีเลข
7 หลักขึ้นไปอีกต่างหาก
และท้ายสุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทยหน้าปัจจุบัน ส.ส. ต้องสังกัดพรรคการเมือง
ซึ่งนำไปสู่ความจำเป็นต้องมีถุงเงินประจำพรรค และใช้อำนาจเงินอันนั้นบงการให้
ส.ส. ในสังกัดพุ่งตะลุยไปข้างหน้าเหมือนรถแบ็คโฮ ขุด ตักตวงผลประโยชน์ใส่ตัวให้มากเท่าที่โอกาสอำนวย
เรื่องราวเหล่านี้เป็นเรื่องที่คนไทยส่วนใหญ่รู้กัน ที่ทำใจได้ก็เงียบไปที่ยังทำใจลำบากก็ทำได้แต่เพียงก่นโคตรเง่าด่าในวงเหล้าแล้วลืมกันไปปล่อยให้พวกทากของประเทศชูคอกันสลอนในรัฐสภา
เพราะจะอย่างไรเสียก็เถียงพวกมันไม่ได้ว่ามันมาจากการเลือกตั้ง
แต่ในกรณีบีบีซีนี้ดูให้ดีจะเห็นเงาแห่งความหายนะ ที่เกิดจากระบบการเมืองแบบทุนนิยมน้ำเน่าคืบคลานเข้าสู่ทั้งระบบตลาดเงินและตลาดทุนของประเทศอย่างชัดเจน
ในอดีตมีข่าวกระเส็นกระสายออกมาบ้างว่าแบงก์พาณิชย์บางแห่งฟ้องนักการเมืองที่มากู้เงินแบงก์ไปทำธุรกิจ
หรือเอาไปหาเสียงก็ไม่รู้ แต่ที่แน่ ๆ เป็นการกู้แบบ CLEAN LOAN ที่ไม่จำเป็นต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกันแค่เซ็นรับสภาพหนี้ก็หอบเงินไปเลย
ซึ่งเป็นเงินไม่กี่สิบล้านบาท…นี่คือเรื่องราวในอดีต
ปัจจุบันข่าวที่ทางการแถลงมาเกี่ยวกับบีบีซีอันเป็นสถาบันในตลาดเงินโยงไปถึงตลาดทุนหรือตลาดหุ้น
โดยนักการเมืองกลุ่มหนึ่งและผู้บริหารธนาคารบางคน
นักการเมืองกลุ่มนี้ถูกเรียกขานว่ากลุ่ม 16 ทั้งหมดเป็นนักการเมืองจากภูมิภาค
มีความรู้ด้านธุรกิจอยู่บ้างจากธุรกิจที่ตัวเองทำอยู่และธุรกิจของครอบครัว
เผลอ ๆ เมื่อสองสามปีก่อนไม่รู้เสียด้วยซ้ำว่าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยคืออะไร
วันร้ายคืนร้ายก็พากันตบเท้าไปกู้เงินจากบีบีซีรวมกันแล้วเป็นหมื่นล้านโดยกู้แบบ
CLEAN LOAN บ้าง กู้โดยมีที่ดินหรือหุ้นค้ำบ้าง เพื่อนำไปซื้อกิจการในตลาดหุ้นเพื่อทำกำไรเข้ากระเป๋าตัวเอง
เท่าที่ทางการเข้าไปตรวจสอบหลักประกันไม่ว่าที่ดินหรือหุ้นนั้นต่ำกว่ามูลหนี้ที่แท้จริง
และแน่นอนเมื่อมีการจัดชั้นหนี้เหล่านี้ เกรดดีที่สุดที่กล้ำกลืนให้ได้ก็คือหนี้สงสัยว่าจะสูญ
และส่วนใหญ่ก็จะกลายเป็นหนี้สูญในบั้นปลาย
ตอนนี้อย่าไปลุ้นกันเลยว่าราเกซ สักเสนาจะกลับเมืองไทยหรือไม่ อย่าไปใส่ใจว่าเกริกเกียรติ
ชาลีจันทร์ เอกชัย อธิคมนันทะ ฯลฯ จะติดคุกหรือไม่ เพราะต่อให้ติดเป็นร้อยปีก็ไม่ได้ช่วยสถานการณ์ในบีบีซีเลยแม้แต่น้อย
มาคอยดูว่าทางการจะแก้ปัญหาบีบีซีอย่างไร
ที่สำคัญที่สุดก็คือจำกัดวงความเสียหายไม่ให้ลุกลามไปมากกว่านี้ได้อย่างไร
เพราะใครหน้าไหนจะรับประกันว่าเหตุการณ์อย่างที่เกิดขึ้นในบีบีซีจะไม่มีในแบงก์พาณิชย์อื่น
พักหลังนี้คนไทยจำนวนมากฝันไม่ค่อยดีและฝันตรงกันโดยไม่ได้นัดหมาย ฝันว่ากำลังโดยสารเครื่องบินขนาดใหญ่อยู่ท่ามกลางลมฟ้าแปรปรวน
จู่ ๆ ก็มีเสียงดังมาจากลำโพงว่า
"ท่านผู้โดยสารโปรดทราบ ผมกัปตันบรรหารพูด ขณะนี้เครื่องบินเจอกับสภาพอากาศเลวร้ายจนเครื่องยนต์บางส่วนขัดข้อง
กรุณารัดเข็มขัดและพูดตามผม…อิติปิโสภควา……."