กระทรวงการคลังรายงานยอดหนี้สาธารณะเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ลดลงกว่า 1,900 ล้านบาท โดยลดลงเหลือ 3,241,466 ล้านบาท หรือร้อยละ 41.68 ของจีดีพี
นางพรรณี สถาวโรดม ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ สรุปผลการบริหารจัดการหนี้ของภาครัฐประจำเดือนมีนาคม 2549 และสถานะหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2549 โดยระบุว่าในเดือนมีนาคม 2549 กระทรวงการคลังได้ปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ต่างประเทศ ซึ่งสามารถลดยอดหนี้คงค้างได้รวม 7,675 ล้านบาท และลดภาระดอกเบี้ยได้ 1,083 ล้านบาท ขณะเดียวกันกระทรวงการคลังได้ออกพันธบัตรเพื่อชดใช้ความเสียหายให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF3) ซึ่งได้รับเงินจากการประมูลพันธบัตรในเดือนนี้ 11,885 ล้านบาท โดยเป็นพันธบัตรออมทรัพย์ 1,385 ล้านบาท และพันธบัตรรัฐบาลกรณีพิเศษ 10,500 ล้านบาท
ในช่วง 6 เดือนของปีงบประมาณ 2549 ภาครัฐได้กู้เงินรวม 78,908 ล้านบาท เป็นการกู้ของรัฐวิสาหกิจตามแผนก่อหนี้จากต่างประเทศ 4,955 ล้านบาท และการกู้เงินในประเทศ 73,953 ล้านบาท ซึ่งเป็นการกู้ของกระทรวงการคลัง 41,039 ล้านบาท และรัฐวิสาหกิจ 32,914 ล้านบาท ขณะที่ได้ชำระหนี้เงินกู้และดอกเบี้ยจากงบประมาณรวม 65,829 ล้านบาท และกองทุนชำระคืนพันธบัตรที่ครบกำหนดไถ่ถอน 20,000 ล้านบาท
กระทรวงการคลังยังรายงานยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2549 ว่ามีจำนวน 3,241,466 ล้านบาท หรือร้อยละ 41.68 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) เป็นหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง 1,903,435 ล้านบาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 1,004,945 ล้านบาท และหนี้สินของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน 333,085 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหนี้สาธารณะลดลง 1,937 ล้านบาท โดยหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรงเพิ่มขึ้น 19,990 ล้านบาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงินลดลง 2,474 ล้านบาท และหนี้สินของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ลดลง 19,453 ล้านบาท หนี้สาธารณะจำแนกได้เป็นหนี้ต่างประเทศ 565,051 ล้านบาท หรือร้อยละ 17.43 และหนี้ในประเทศ 2,676,415 ล้านบาท หรือร้อยละ 82.57 และเป็นหนี้ระยะยาว 2,658,879 ล้านบาท หรือร้อยละ 82.03 และหนี้ระยะสั้น 582,587 ล้านบาท หรือร้อยละ 17.97 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง
|