นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงแนวโน้มตลาดวันนี้(17 เม.ย.)ว่าแม้ว่าตลาดในวันนี้จะถูกผลลบของราคาน้ำมันที่ทะยานใกล้ 70 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล และ ความแกว่งไกวของตลาดในภูมิภาคในระหว่างช่วงวันหยุดสงกรานต์ แต่ยังมองตลาดจะปรับตัวขึ้นไปทดสอบระดับ 765-770 อีกครั้งในช่วงสัปดาห์นี้ โดยปัจจัยผลักดันที่สำคัญคือ ความมีเสถียรภาพของเศรษฐกิจไทย และ กำไรของบริษัท แม้จะอยู่ในภาวะที่ถูกกดดันจากความร้อนแรงทางการเมือง ราคาน้ำมันที่สูงมาก และ แนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้นก็ตาม
ในเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ ดัชนีการผลิตอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 13% บนการใช้กำลังการผลิต 72% การส่งออกเติบโต 23% ดีกว่าคาด ในขณะที่ดุลการชำระเงินเกินดุล 1.6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี นอกจากนั้นกระทรวงพาณิชย์ยังมั่นใจว่าปีนี้การส่งออกน่าจะโตได้สูงถึง 17.5% ด้วย
ส่วนประมาณการงบไตรมาส 1/49 ของกลุ่มธนาคาร และ SCC คาดว่าจะอยู่ในเกณฑ์ดี กำไรจากหุ้นพลังงานยังเติบโตเพราะราคาน้ำมันสูงขึ้น กำไรของหุ้นวัฎจักร (เหล็ก ปิโตรเคมี และ เกษตร ) คาดว่าจะฟื้นตัวจากครึ่งหลังปี 48 แม้แต่ศักยภาพกำไรของหุ้นอสังหาริมทรัพย์ และ ก่อสร้างก็ยังดูใช้ได้ เพราะมียอดขายล่วงหน้า หรือ งานประมูลเก่าจำนวนมาก
ดังนั้น ข่าวดีประการใดก็จะทำให้นักลงทุนภายในมีความมั่นใจเข้ามาลงทุนมากขึ้น ผลักดันดัชนีให้ปรับตัวขึ้นไปได้ ด้านเม็ดเงินจากต่างชาติก็ยังคงทยอยเข้ามาในตลาดหุ้นไทยเพราะราคาถูกเมื่อเทียบกับตลาดในภูมิภาค ส่วนหุ้นที่แนะนำมีดังต่อไปนี้คือ
-หุ้นตลาดขนาดใหญ่: KBANK, BBL, PTT, TOP และ ADVANC.
-หุ้นแกว่งไกวสูง: หุ้นหลักทรัพย์ , TRUE, TMB และ ITD.
-หุ้นราคาต่ำกว่าที่ควรจะเป็น: TTA และ MK
-หุ้นเล็กอื่นๆ : NSM, SPACK และ PTL
สำหรับหุ้นที่น่าจับตาคือหุ้นTTA ควรจะมีผลงานโดดเด่นด้วยเหตุดังต่อไปนี้
1) ดัชนีค่าระวางเรือเทกองต่ำสุดราว 2,500 ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาก เราคาดว่ามีโอกาสที่จะไต่ระดับไปที่ 2,600 ได้ 2) การขนส่งเหล็กก็ดีขึ้นตามราคาเหล็ก 3) แนวโน้มการสร้างเรือใหม่ชะลอตัว แต่การปลดระวางเรือมีสูงขึ้น 4) ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขาย PE 3.5 เท่า เทียบกับค่าเฉลี่ยในภูมิภาคราว 5 เท่า ยังมีส่วนต่างจากราคาเหมาะสมถึง 55%
ทั้งนี้หุ้นพลังงาน จะยังเป็นตัวนำตลาดเพราะราคาน้ำมันที่ยังพุ่งทำลายสถิติสูงกว่า 70 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรลในขณะนี้ เรายังคงแนะนำ “ซื้อ” หุ้น PTT และ TOP แต่ให้นักลงทุนหาจังหวะขาย PTTEP และ BANPU ถ้าหุ้นขึ้นต่อ
ด้านหุ้น TRUE ร่วงลง 5% เหลือ 9.5 บาทเมื่อวันศุกร์ (ต่ำสุดในช่วงเทรดถึง 8.7 บาท หรือ ลดลง 13%) เนื่องจากข่าวลือเรื่องการเพิ่มทุนที่ดูยังคลุมเครือ จะเห็นว่าหากหุ้นตกลงไปต่ำกว่าราคาเป้าหมายที่ 10.6 บาทมากก็นับเป็นโอกาสเข้าซื้อ เพราะบริษัทยังมีความยึดหยุ่นเรื่องการเพิ่มทุนพอสมควร และ มีโอกาสได้ลาภลอยหากมีการยกเลิกค่าเชื่อมโยงโครงข่าย
ตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ หุ้น KBANK ขึ้นน้อยกว่า SCB ถึง 12% แต่เมื่อดูลึกลงไป เห็นว่านักลงทุนน่าจะเปลี่ยนตัวลงทุนจาก SCB เป็น KBANK เพราะตอนนี้หุ้นเทรดเพียง 1.7 เท่าของมูลค่าทุน (PB) ต่ำกว่า SCB ที่ 2.1 เท่า โดยยังมีโอกาสที่จะขึ้นไปที่ราคาเป้าหมายที่ 74 บาทได้อีก 12%
จังหวะที่งบไตรมาส 1/49 จะออกมาไม่ดี น่าจะเก็บหุ้น MK เพราะงบที่จะประกาศเป็นผลของไตรมาส 2/48-3/48 แต่ถ้าดูยอดขายล่วงหน้าในปัจจุบันของไตมาส 1/49 สูงถึง 600 ล้านบาท ดันยอดขายรอโอนรวมเป็น 2.6 พันล้านบาท เกือบเท่าคาดการณ์ทั้งปีของบริษัทที่ 3 พันล้านบาท จะเห็นว่า MK เป็นบริษัทเล็กที่มีการจับตลาดดี ให้ PER 5 เท่าดึงดูดมากเมื่อเทียบกับหุ้นอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ที่เทรดในช่วง 7-9 เท่า
จากข่าวในหนังสือพิมพ์หลายฉบับวันนี้ที่อ้างถึงเจ้าพ่อน้ำเมา คุณเจริญ สิริวัฒนภักดี ที่แสดงเจตนาจะเข้าซื้อกิจการ ITV ซึ่งคาดว่าจากข่าวนี้จะมีแรงเก็งกำไรระยะสั้นเข้ามาในหุ้น ITV โดยเฉพาะราคาหุ้นได้ร่วงลงมาถึง 26% ในช่วง 3 วันที่ผ่านมา ตลาดยังมีความกังวลเกี่ยวกับที่ศาลจะมีคำพิพากษาในวันที่ 9 พ.ค. ในกรณีพิพาทระหว่าง ITV กับคู่สัญญาสัมปทาน คือ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ว่าจะออกมาเป็นลบ ซึ่งยังคงเห็นว่านักลงทุนควร หลีกเลี่ยง การลงทุนในหุ้น ITV
|