Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน17 เมษายน 2549
ตลท.ชี้ปี48บจ.จ่ายภาษีกว่า7หมื่นล.             
 


   
www resources

โฮมเพจ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

   
search resources

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
โสภาวดี เลิศมนัสชัย
Stock Exchange




ตลาดหลักทรัพย์ฯ เผยปี 48 บริษัทจดทะเบียนจำนวน 504 บริษัทจ่ายภาษีสูงกว่า 7 หมื่นล้านบาท "โสภาวดี"เผยต้นทุนการระดมทุนเพื่อเข้าจดทะเบียนตั้งแต่ปี 47 ถึงส.ค.48 เฉลี่ยประมาณ 26 ล้านบาท ระบุมีบริษัทที่มีสิทธิได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี อีก 33 บริษัท แบ่งเป็นตลาดหลักทรัพย์ฯ 21 บริษัท และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ จำนวน 12 บริษัท

นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย ประธานศูนย์ระดมทุนตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในปี 2548 ภาครัฐสามารถจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลจากบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯหรือ SETและตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอหรือ mai รวมมูลค่า 71,082 ล้านบาทหรือเฉลี่ย 140 ล้านบาทต่อบริษัท โดยบริษัทจดทะเบียน 504 บริษัท เสียภาษีคิดเป็นสัดส่วนสูงถึงประมาณ 20% ของภาษีเงินได้นิติบุคคลทั้งระบบซึ่งมีจำนวนนิติบุคคลรวมประมาณ 260,000 บริษัท

ทั้งนี้บริษัทที่เข้าจดทะเบียนระหว่างปี 2544 – 2548 เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตั้งแต่เข้าจดทะเบียนถึงปี 2548 รวมมูลค่า 55,152 ล้านบาท

โดยหากเปรียบเทียบจำนวนภาษีเงินได้นิติบุคคลของบริษัทจดทะเบียนกับจำนวนภาษีเงินได้นิติบุคคลของนิติบุคคลทั้งระบบในช่วงปี 2544 – 2547 แล้วพบว่าบริษัทจดทะเบียนเสียภาษีโดยมีอัตราการเติบโตเพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ย 45% ในขณะที่นิติบุคคลทั่วไปมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยเพียง 16%

อย่างไรก็ตามภาครัฐสามารถเก็บภาษีได้ในอัตราที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นผลมาจากมาตรการสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ภาครัฐมอบให้แก่บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯและตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เสียภาษีในอัตรา 25% และ 20% ตามลำดับ ในขณะที่บริษัทนอกตลาดเสียภาษีในอัตรา 30%

จากมาตรการดังกล่าวส่งผลให้บริษัทสนใจเข้าจดทะเบียนทั้งในตลาดหลักทรัพย์ฯและตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เพิ่มมากขึ้น โดยในช่วงตั้งแต่เดือนกันยายน 2544 ถึง ไตรมาสแรก ปี 2549 มีบริษัทเข้าจดทะเบียนได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีรวมทั้งสิ้น 160 บริษัท แบ่งเป็นตลาดหลักทรัพย์ฯ 117 บริษัท และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ 43 บริษัท

ในส่วนของบริษัทที่มีสิทธิได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี เนื่องจากได้ยื่นคำขอเข้าจดทะเบียนภายในปี 2548 จำนวน 33 บริษัทแบ่งเป็นตลาดหลักทรัพย์ฯ 21 บริษัท และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอจำนวน 12 บริษัท อย่างไรก็ตามบริษัทเหล่านี้จะต้องดำเนินการเข้าซื้อขายให้ทันในปี 2549 ซึ่งในจำนวนนี้มีบริษัทที่ได้รับอนุมัติคำขอแล้วจำนวน 11 บริษัท แบ่งเป็นตลาดหลักทรัพย์ฯ 7 บริษัท และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอจำนวน 4 บริษัท

ประธานศูนย์ระดมทุนกล่าวต่อว่า ยังมีบริษัทซึ่งแสดงความสนใจจะเข้าจดทะเบียน เนื่องจากต้องการรับสิทธิประโยชน์ทางภาษี แต่ไม่สามารถดำเนินการได้ทันในปี 2549 อีกจำนวน 120 บริษัท เนื่องจากสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ได้รับมีส่วนช่วยชดเชยภาระค่าใช้จ่ายในการเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียน

ทั้งนี้จากการรวบรวมต้นทุนในการระดมทุนของบริษัทที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ปี 2547 ถึง เดือนสิงหาคม 2548 จำนวน 74 บริษัท พบว่าบริษัทมีต้นทุนในการระดมทุนเฉลี่ยประมาณ 26 ล้านบาทต่อบริษัท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us