ความที่นิตยสารทั้งหัวนอก – หัวใน ค่ายเล็กทุนน้อย ค่ายใหญ่ทุนหนา วางขายอยู่บนแผงหนังสือบ้านเราทุกวันนี้จนล้นแผง มากที่สุดในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นเรื่องปกติสามัญที่หัวหนังสือเหล่านั้นจะต้อง แข่งขันกัน ทั้งในเรื่องของเนื้อหา รูปแบบ และที่น่าจับตามองซัมเมอร์นี้ก็คือการประกาศสงครามเย็น เพื่อแย่งชิงฐานผู้อ่าน ด้วยการนำแฟชั่นปก “ดารา – นางแบบ” ในชุดบิกินี่ ที่เกือบจะนุ่งลมห่มฟ้า มาเป็นจุดขาย

ร้อนนี้ดูเหมือนว่า นอกจากการชูกลยุทธ์หลักที่ทุกค่ายยึดถือ คือ เนื้อหาที่เข้มข้นครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายแล้ว สงคราม “ชุดบิกินี่” ก็มีแนวโน้มดุเด็ดเผ็ดร้อนกว่า 2 ปีที่ผ่านมา เท่าที่กวาดสายตามองตามแผงหนังสือ ก็มีนิตยสารแพรว ฉบับเดือนมีนาคม ที่หันกลับไปใช้บริการเรือนร่างของสาวฮอตรัก “มาช่า – วัฒนพานิช” FHM - เพิ่มความเร่าร้อนด้วยภาพหวือของนางร้ายเลือดใหม่ “ใหม่ – สุคนธวา นิมิตวานิช” madame FIGARO - อวดสัดส่วนสุดยอดนางแบบ” จากเวที “Elite Model Look Thailand” สุดสัปดาห์ – หวิววาบกับบิกีนี่สีชมพูของ “เทย่า โรเจ่อร์” inMAGAZINE - คลายร้อนให้หนุ่ม ๆ ด้วยปก “เจี๊ยบ – พิจิตตรา สิริเวชชพัน” WOMANPLUC ชุ่มฉ่ำกับปก “น้ำผึ้ง- ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์” mars MAGAZINE – ขยุ้มหัวใจชายหนุ่มด้วยสัดส่วนสาวอกดินระเบิด “กระแต – ศุภักษร ไชยมงคล” ฯลฯ จริงหรือไม่ใช่อย่างไร ไปฟังจากปากคนทำหนังสือพร้อม ๆ กันดีกว่า

“พี่ว่า เป็นเรื่องปกตินะที่ในช่วงฤดูร้อนของทุกปี หนังสือนิตยสารแต่ละฉบับจะต้องมีการถ่ายแบบชุดว่ายน้ำแข่งกัน เพราะเค้าก็จะต้องงัดกลยุทธ์เด็ดออกมาเรียกลูกค้ากันในช่วงนี้กันจริงไหม” ช่างภาพประจำนิตยสารดังฉบับหนึ่ง เผยให้ฟัง พร้อมกับกล่าวว่า

“ความจริงจะเรียกว่าเป็นสงครามก็คงไม่ผิดนะ เพราะมันเหมือนกับเป็นเรื่องของการ “แข่งขัน – การช่วงชิง ” เหมือนกัน เพราะดารา – นางแบบที่จะมาขึ้นสวมชุดบิกีนี่ขึ้นปกนั้น ทางทีมงานจะต้องจองตัวล่วงหน้ากันเป็นปี แถมบ่อยครั้งที่นางฟ้าเหล่านั้นยอมกลืนน้ำลายตัวเอง หันไปถ่ายให้หัวอื่นที่อัพราคาให้มากกว่าก็มี

นอกจากอุปสรรคดังกล่าวแล้ว ร้อยละ 70 ดารา-นางแบบ ตอบเซย์โนที่จะมาขึ้นปกในแฟชั่นชุดว่ายน้ำ เพราะกลัวว่าจะทำให้ “เสียชื่อเสียง” หรือ “ถูกผู้ใหญ่ในต้นสังกัดตำหนิ”

ช่างภาพรายเดิมระบุอีกว่า...พี่มองว่าไม่เพียงซัมเมอร์นี้นะ นับแต่นี้ไป แม็กกาซีนทั้งค่ายเล็กค่ายใหญ่ พร้อมจะประกาศศึกชิงพื้นที่บนแผงหนังสือด้วยการนำเสนอภาพหวิว ๆ ของเหล่าดารานางแบบ ที่ “สวย สด และซิง” เท่านั้น แต่อยากให้จับตาดูการโพสต์ท่าแปลกพิสดารของเจ้าของเรือนร่างกันอย่ากะพริบตา

madame FIGARO “บิกีนี่ แค่ปกที่ต้องทำ”

เกี่ยวกับปรากฏการณ์เดียวกันนั้น หนึ่งในกองบรรณาธิการของนิตยสารผู้หญิงหัวนอก “มาดาม ฟิกาโร” ที่เพิ่งหอบเอา“สุดยอดนางแบบ” จากเวที “Elite Model Look Thailand” มาขึ้นปกชุดว่ายน้ำ โชว์ความอะร้าอร่ามแข่งกับนิตยสารเล่มอื่น ๆฉบับเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มองว่า

“สำหรับปกหน้าของนิตยสาร “มาดาม ฟิกาโร” ส่วนใหญ่ หรือเกือบทั้งหมดจะเป็นธีม ของสาวแฟชั่น โดยเราจะเน้นดารา-นางแบบที่มีรูปร่างดี มีความเป็นผู้หญิงหรือเฟมินินมาก ต้องคัดและเลือกคนที่ดูมีความเป็นผู้หญิงจริง ๆ มาถ่ายทอดความงาม

แม้ว่าหัวนิตยสารเล่มอื่น ๆ จะมองว่าซัมเมอร์หน้าร้อนทุกปี คือโอกาสทอง แต่มาดาม ฟิกาโร เองมองว่าเป็นแค่ปกที่ต้องทำตามฤดูกาลมากกว่าค่ะ

ส่วนเรื่องค่าตอบแทนที่เหล่าบรรดาดารา-นางแบบมายืนจังก้าถ่ายปกให้ หากเป็นดารานางแบบระดับซูเปอร์สตาร์ หรือคนรู้จักดี ภาพลักษณ์ดี ค่าตัวจะอยู่ที่ 6 หลักปลาย ๆ จนเกือบจะถึง 7 หลัก ทั้งนี้ค่าตอบแทน ขึ้นอยู่กับความพอใจของทั้ง 2 ฝ่าย ดารา –นางแบบที่มีชื่อเสียงก็จะได้รับค่าตอบแทนมาก ลดหลั่นกันไปตามความนิยมค่ะ

Volume งัดไม้เด็ด ...ยิ่งยากยิ่งโดน...

เมื่อสอบถามไปยังหัวนิตยสารน้องใหม่ แม้จะเพิ่งฉลองครบรอบขวบปีมาไม่ได้นาน “วอลลุ่ม (Volume)” ภายใต้การคุมบังเหียนของสุคนธ์ สีมารัตนกุล, อนณ พวงทับทิม และ วีระพจน์ อัศวาจารย์ ที่ประเดิมร้อนด้วย ปกหวิว ๆ ให้แฟนหนังสือได้ครวญคราง ด้วยการคว้านางเอกหัวใจธรรมะ “น้ำผึ้ง-ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์” รวมถึงล่าสุดก็เร่งความดัง ด้วยการสำเร็จโทษนางเอกลูกหม้อวิก พระราม 4 “จอย-ศิริลักษณ์ ผ่องโชค” เป็นเล่มแรก เผยว่า

“ดารา -นางแบบ ที่จะมาถ่ายปกชุดว่ายน้ำกับนิตยสาร Volume ต้องไม่เคยถ่ายแฟชั่นชุดว่ายน้ำกับเล่มไหนมาก่อน ตรงนี้มันเลยกลายเป็นความยากของการทำงานสำหรับทีมวอลลุ่ม

เพราะรู้ ๆ กันอยู่ว่าการจะทาบทามดารา-นางแบบที่ดังคับฟ้าให้มาถ่ายชุดว่ายน้ำมันก็ยากอยู่แล้ว แต่การติดต่อ ดารา-นางแบบที่ไม่เคยถ่ายมาก่อนมันยากกว่านะ ซึ่งความยากดังกล่าวตรงกับคอนเซ็ปต์ของเรา”

หนึ่งในบรรณาธิการอำนวยการที่คร่ำหวอดทางวงการบันเทิงมาหลายสิบปี อย่างลูกน้ำ-สคุนธ์ ที่รู้จักดารา-นางแบบเป็นอย่างดี แย้มขั้นตอนในการเตรียมงาน ติดต่อ และเกลี้ยกล่อม เหล่าบรรดานางแบบ-ดาราซูเปอร์สตาร์ให้ฟังว่า

“อย่างกรณีของน้ำผึ้ง-ณัฐริกา และ จอย-ศิริลักษณ์ นั้น กว่าจะติดต่อให้มาร่วมงานกับเราต้องใช้ความพยายามประมาณ 5-6 ปี ซึ่งมันสะท้อนให้เห็นว่างานแต่ละชิ้นเราตั้งใจและเตรียมงานกันมานานพอสมควร ไม่ได้ทำแบบขอไปที

คนที่จะมาขึ้นปกวอลลุ่มต้องไม่ธรรมดา เพราะส่วนใหญ่ต้องเป็นดาราคุณภาพคับแก้ว ชื่อเสียงคับฟ้า ทำให้ผลงานของเราแต่ละเล่มกลายเป็น Talk of the town

Women Plus เน้นธีมเด็ด ๆ สร้างจุดขาย

ขณะที่ นิตยสารรายสัปดาห์น้องใหม่ Women Plus ที่เน้นความต่างของเนื้อหา ธีมเรื่อง และรูปแบบการนำเสนอ ขอเกาะเทรนด์ซัมเมอร์ ด้วยการคว้าเอา “น้ำผึ้ง-ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์” มาถ่ายแบบปกชุดว่ายน้ำ ชุด Beach Wear

แม้แมกกาซีนหลายค่าย อาศัยความเร็วในการวางแผนก่อนเพื่อช่วงชิงความได้เปรียบในการสร้างความแตกต่าง และเพิ่มยอดขายให้กับหัวหนังสือของตนเอง แต่ทว่า เรื่องความเร็วสำหรับ “วูแมนพลัส” แล้ว ไม่ใช่ประเด็นสำคัญในการแข่งขัน

“เรื่องความเร็วของการชิงวางแผงหนังสือก่อน ไม่ใช่ประเด็นหรือกลยุทธ์หลักของเรา ลองคิดดูว่า เร็วกว่าแต่ธีมของหนังสือไม่ตรงใจคนอ่าน คุณภาพของงานไม่ดี แล้วคุณจะชิงวางแผนเร็วกว่าไปเพื่ออะไร” เพ็ญประภา วัฒนรัตน์ บรรณาธิการบริหาร สาวเก่งแห่งค่ายจีเอ็มกล่าว

แฟชั่นปกชุดว่ายน้ำที่ได้น้ำผึ้ง-ณัฐริกา มาอวดความเซ็กซี่ในแบบฉบับของเธอเองนั้น ถือเป็นแฟชั่นชุดว่ายน้ำล่าสุดของวูแมน พลัส ซึ่งกว่าจะเลือกดารา-นางแบบแต่ละคนมาขึ้นปกได้ วูแมน พลัสมีเกณฑ์ที่ต่างไปจากที่อื่นเป็นอย่างมาก

“หลัก ๆ เราต้องดูธีมของหนังสือก่อนว่าจะเป็นในแบบไหน อย่างชุดว่ายน้ำที่ผ่านมา เราจะเป็นความเป็น Beach Wear ไม่ได้เน้นบิกินี่เพียงอย่างเดียว คือต้องทันกระแส และเป็นแฟชั่นที่สามารถใส่ได้จริง ๆ ในชีวิตประจำวัน จากนั้นก็จะมาดูว่าตัวดารา นางแบบเองเหมาะกับธีมไหม ก่อนจะช่วยกันขับ ช่วยกันดันตรงนั้นออกมา”

ในขณะที่แมกกาซีนหัวอื่น ๆ ใช้ความดัง ความสดของดารา-นางแบบที่ไม่เคยถ่ายแฟชั่นในชุดว่ายน้ำมาเป็นจุดขาย แต่ วูแมน พลัส กลับสร้างความต่างด้วยตัวเนื้อหา และแนวทางของการทำหนังสือ เห็นได้จากกรณีของ “น้ำผึ้ง-ณัฐริกา” ที่เคยถ่ายแฟชั่นชุดว่ายน้ำให้นิตยสารเล่มอื่นมาก่อนหน้า

“เราไม่ได้รู้สึกมายด์กับตรงนั้น แต่เราเห็นคุณค่าน้ำผึ้งมากกว่า เพราะน้องเขาหน้าหวาน และสวยมาก ซึ่งตรงกับธีมของเราที่ต้องการ คือมันเป็นทั้งศิลปะและแฟชั่นบวกกัน และหากดูทั้งเซ็ตของชุดว่ายน้ำแล้ว มันเหมาะกับคนไทยด้วย เพราะปกติคนไทยไม่ได้ใส่บิกินี่ว่ายน้ำ”

นอกจากนี้บรรณธิการบริหารนิตยสารชื่อดังย้ำอีกว่า ...การเอาชุดว่ายน้ำมาขึ้นปกของวูแมน พลัสนั้น ไม่ได้เป็นตัวกระตุ้นยอดขายหนังสือโดยตรง แต่มันเป็นแค่สีสันของซัมเมอร์นี้เท่านั้น เพราะนิยามของคำว่า “บิกีนี่” สำหรับวูแมน พลัสแล้วไม่จำเป็นต้องออกตอนซัมเมอร์เท่านั้น แต่ถ้าเรามีธีมดี เด่น เด็ด หน้าหนาวเราก็กล้าวางแผงเช่นกัน”

การทำสงครามเงียบของคนทำหนังสือซัมเมอร์นี้ หรือซัมเมอร์หน้า จะร้อนแค่ไหนก็คงต้องวัดกันที่จำนวนชิ้นอาภรณ์ที่เหล่า “ดารา – นางแบบ” มีไว้ติดกาย แต่หน้าปริทรรศน์ – บันเทิง หนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายสัปดาห์ รับประได้ว่า สงครามสมรภูมินี้หนุ่ม ๆมีแต่ความสุขแน่นอน”