|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
บ้านหรู-บ้านระดับกลางในภูเก็ตผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด ร่วม 100 กว่าโครงการต่อไป รับกลุ่มลูกค้าทั้งชาวไทยที่เข้ามาทำงานในภูเก็ตและคนต่างชาติ ที่ต้องการบ้านหรูไว้พักผ่อนหนีหนาวและอยู่ในช่วงเกษียณอายุ ส่งผลตลาดโตต่อเนื่อง ในราคาตั้งแต่ 1-4 ล้านบาท และราคาตั้งแต่ 20 ล้านบาทขึ้นไป
โครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ต เกิดขึ้นเป็นจำนวนมากในขณะนี้ ทั้งบ้านระดับกลางจนถึงบ้านระดับสูง ราคาตั้งแต่ 1 ล้านบทขึ้นไปเกิดขึ้นเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ทั้ งที่เปิดโครงการใหม่ภายในปีนี้ และโครงการที่เปิดขายต่อเนื่องมาจากปีที่แล้วไม่ต่ำกว่า 100 โครงการ
ร.ท.ภูมิศักดิ์ หงษ์หยก ประธานชมรมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตเติบโตดีมาก และเชื่อว่าการเติบโตของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง ทั้งตลาดในระดับกลางจนถึงตลาดระดับบน โดยในส่วนของตลาดระดับกลางนั้น มีการเติบโตในอัตราที่สูงในบ้านระดับราคาที่ 1-4 ล้านบาท ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด บ้านทาวน์เฮาส์ และอาคารพาณิชย์
ทั้งนี้ จากข้อมูลของศูนย์อสังหาริมทรัพย์ ระบุชัดเจนว่า ในแต่ละปี จะมีคนย้ายถิ่นเข้ามาทำงานในภูเก็ตปีละ 2.5% ทำให้ความต้องการบ้าน เพื่อเป็นที่อยู่อาศัยสูงตามไปด้วย
ส่วนตลาดระดับบนราคาตั้งแต่ 20 ล้านบาทขึ้นไป ขณะนี้เติบโตสูงมาก เนื่องจากธนาคารต่างชาติสามารถปล่อยเงินกู้ให้คนต่างชาติเข้ามาซื้อบ้านและเช่าบ้านในระยะยาวอยู่ในภูเก็ตได้ เช่น ธนาคารกรุงเทพ สาขาสิงคโปร์ ธนาคารฮ่องกง และดอยแบงก์ รวมทั้งกองทุนบำเน็จบำนาญของประเทศอังกฤษ อนุญาตให้คนอังกฤษที่เกษียณอายุสามารถนำเงินกู้เงินมาลงทุนซื้อบ้านในต่างประเทศได้ด้วย
จากปัจจัยดังกล่าวทำให้ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นบ้านหรู ที่ตรงกับความต้องการของคนต่างชาติในการทำเป็นบ้านพักเพื่อหนีหนาว และบ้านเพื่ออยู่ในช่วงทีเกษียณอายุ มีการเคลื่อนไหวอย่างเห็นได้ชัดทั้งในเรื่องของการซื้อขายและการลงทุนโครงการบ้านหรู โดยเฉพาะโครงการบ้านหรูของในกลุ่มลากูน่า มีการเติบโตสูงมากในช่วง 2 ปีนี้
โดยกลุ่มคนต่างชาติที่เข้ามาซื้อบ้านหรูอยู่ในภูเก็ต จะเป็นกลุ่มคนต่างชาติที่เข้าไปทำงานในฮ่องกง สิงคโปร์ รวมทั้งกลุ่มจากสแกนดิเนเวีย ซึ่งเป็นกลุ่มที่นิยมเดินทางมาท่องเที่ยว และพักผ่อนหนีหนาวที่ภูเก็ตอยู่แล้ว
ร.ท.ภูมิศักดิ์ ยังกล่าวถึงปริมาณบ้านจัดสรรและบ้านหรูที่อยู่ในตลาดในภูเก็ต ว่า ขณะนี้มีประมาณ 100โครงการ โดยที่มีการขออนุญาตจัดสรรประมาณ 50 โครงการ ซึ่งในแต่ละปีจะมีการขออนุญาตลงทุนบ้านจัดสรรในภูเก็ต ไม่ต่ำกว่า 50 โครงการ และทีเหลืออีกประมาณ 50 โครงการ จะเป็นโครงการที่ไม่ได้ขออนุญาตเพราะเป็นบ้านที่สร้างเพื่อให้เช่าต่างชาติเช่าในระยะยาวไม่ต่ำกว่า 30 ปี แต่บ้านเหล่านี้ได้ขออนุญาตในเรื่องของการก่อสร้างถูกต้องตามกฎหมาย
นักลงทุนผุดบ้าน-คอนโดหรู
ด้านนางสาวสุบุลภรณ์ เรืองเงิน ฝ่ายขายโครงการ ลีลาวดี รีสอร์ท แอนด์ สปา ซึ่งเป็นอีกหนึ่งโครงการบ้านหรูที่กำลังเปิดขายในขณะนี้ เปิดเผยว่า โครงการลีลาวดี รีสอร์ท แอนด์ สปา เป็นโครงการที่ตั้งอยู่บนเนินเขา ต.เกาะแก้ว อ.เมืองภูเก็ต บนเนื้อที่ 138 ไร่ พื้นที่สวยงามมากสามารถมองเห็นวิวทะเลได้ด้วยในบางโซน ขณะนี้ได้เปิดขายแล้ว มีทั้งหมด 92 แปลง ที่ขายพร้อมที่ดินและสร้างบ้านที่เป็นสไตล์บาหลี 5 แบบราคาจะอยู่ที่แปลงละ 6-28 ล้านบาท และยังมีที่ดินแปลงใหญ่อีก 4 แปลงที่โครงการต้องการขายให้ลงทุนในการทำรีสอร์ต ซึ่งแต่ละแปลงจะมีพื้นที่ตั้งแต่ 250 ตารางวาไปจนถึง 2 ไร่
สำหรับกลุ่มลูกค้าที่วางไว้นั้น ตอนแรกเป็นกลุ่มชาวต่างชาติทั้งหมด แต่ขณะนี้ได้ปรับแผนการตลาดใหม่ เป็นกลุ่มคนไทย 50% กลุ่มชาวต่างชาติ 50% ซึ่งขณะนี้มีลูกค้าจองไปแล้วจำนวนหนึ่ง
ด้านนายธนันท์ ตัณฑ์ไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะเฮริเทจ จำกัด เจ้าของโครงการเดอะ เฮริเทจ บริเวณถนนพระเก็ตแก้ว ทางไปกะทู้ กล่าวว่า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตเติบโตสูงมากทั้งในส่วนของบ้านระดับกลางถึงบ้านระดับบน
ที่ผ่านมา บริษัทได้ลงทุนโครงการเดอะเฮริเทจ ซึ่งเป็นโครงการบ้านระดับกลางขึ้น มีทั้งหมด 60 ยูนิต ขณะนี้ขายไปแล้วประมาณ 70% ซึ่งทางบริษัทกำลังที่จะขึ้นโครงการใหม่เป็นคอนโดมิเนียม "เดอะเฮริเทจ สวีท" อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับบ้านจัดสรร มีทั้งหมด 2 ตึกๆละ 24 ยูนิต ราคายูนิตละ 3.5-4.5 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการออกแบบคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะเปิดขายโครงการได้
กลุ่มลูกค้าที่วางไว้จะเป็นกลุ่มคนต่างชาติและคนไทย ที่เข้ามาทำงานในภูเก็ต เพราะโครงการตั้งอยู่ในทำเลที่เหมาะสม อยู่ระหว่างกลางเมืองและหาดป่าตอง
ศรีสุชาติเตรียมผุดอีก500ยูนิต
นายบุ่นเก้ง ศรีแสนสุชาติ กรรมการผู้จัดการ โครงการบ้านจัดสรรศรีสุชาติแกรนด์ วิว กล่าวว่า ขณะนี้ธุรกิจบ้านจัดสรรในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ยังมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งตลาดระดับกลางและระดับบน
สำหรับในส่วนของศรีสุชาติแกรนด์วิว ที่ดำเนินการมาแล้วมีจำนวน 3 โครงการ ซึ่งตั้งอยู่ที่บริเวณถนนบายพาส ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ประมาณ 1,000 ยูนิต โดยขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการโครงการศรีสุชาติแกรนด์วิว 3 ซึ่งขายไปได้แล้วประมาณ 90% สำหรับโครงการที่ดำเนินการมาแล้ว ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี โดยโครงการที่3นี้จะปิดการขายได้ภายในสิ้นปีนี้
สำหรับในปี2550 จะเปิดโครงการใหม่อีก1โครงการ ในพื้นที่บริเวณเดียวกัน คือ ที่ซอยประชาสามัคคี ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ตโดยจะใช้ชื่อโครงการ "ศรีสุชาติแกรนด์วิว 4"จำนวน 400-500 ยูนิต รับกลุ่มลูกค้าชั้นกลาง ที่ย้ายถิ่นเข้ามา และคนรุ่นใหม่ที่เริ่มทำงาน ราคาตั้งแต่ 1 ล้านกว่าบาทขึ้น รูปแบบบ้านจะมีทั้งบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด
นายบุ่นเก้ง กล่าวต่อไปว่า จากการปรับราคาวัสดุก่อสร้างนั้น ส่งผลกระทบต่อการจัดสรรบ้างเหมือนกันโดยเฉพาะโครงการที่ขายไปแล้ว และกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ทำให้ผู้ประกอบการต้องมารับภาระในจุดนี้ ส่วนโครงการใหม่ที่จะเกิดขึ้นก็ต้องปรับราคาขึ้นด้วย โดยส่วนใหญ่จะปรับเพิ่มประมาณ 10%
การ์เด้นเพลสฯเตรียมขึ้นเฟส2
ขณะที่นายพิริยะ ตันติพิริยะกิจ กรรมการผู้จัดการบริษัท ทีเพลสเซส จำกัด เจ้าของโครงการการ์เด้นเพลส เมืองใหม่ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต กล่าวว่า บ้านระดับกลางยังไปได้ดี แต่จะต้องเน้นในเรื่องของคุณภาพและทำเล รวมทั้งจะต้องสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า เพราะบ้านระดับกลาง มีทั้งที่ซื้อเป็นบ้านหลักแรก และซื้อเป็นหลังที่ 2 ดังนั้นจะต้องคำนึงเรื่องดังกล่าวให้มากที่สุด
สำหรับโครงการการ์เด้นเพลส เมืองใหม่ หลังจากที่เปิดตัวโครงการไปเมื่อเดือนมิถุนายน 2548 ในส่วนของเฟสที่ 1 ซึ่งทำการพัฒนาที่ดินประมาณ 15-19 ไร่ มีการสร้างบ้านจำนวน 62 ยูนิต มูลค่าโครงการ 140 ล้านบาท ปรากฏว่าขณะนี้โครงการในเฟสที่ 1 ขายไปได้แล้วประมาณ 95 และสร้างไปแล้วประมาณ 30-40% ซึ่งเป็นโครงการที่ได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าเป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นโครงการที่อยู่ติดถนนใหญ่ การสัญจรไปมาสะดวกและอยู่ไม่ไกลจากเมืองมากนัก โดยและกลุ่มลูกค้าเป็นกลุ่มที่มีความหลากหลาย
อย่างไรก็ตาม ประมาณเดือน พ.ค.ปีนี้ โครงการจะขึ้นเฟสที่ 2 ต่อไป ซึ่งในเฟสที่ 2 จะสร้างบ้านแบบเดิม จำนวน 68 ยูนิต แต่จะเพิ่มในส่วนของอาคารพาณิชย์เข้าไปอีกจำนวน 32 ยูนิต ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการสรุปแบบและเปิดให้จองได้ภายในเดือน พ.ค. นี้ ส่วนเฟสที่ 3 และเฟสที่ 4 ยังไม่ได้ตัดสินใจว่า จะดำเนินการได้เมื่อไหร่ ซึ่งจะต้องดูความต้องการของลูกค้าก่อนว่ามีความต้องการบ้านรูปแบบใด
|
|
|
|
|