Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์17 เมษายน 2549
“โกลเด้นฯ”ลุยต่อสุวรรณภูมิฯเปิดทางไทย-ต่างชาติร่วมทุน             
 


   
search resources

Real Estate




“โกลเด้น เทคโนโลยี่” ไม่สนรัฐบาลเลือกที่ดินผืนงานบริเวณถนนบางนา-ตราด กม.23 เป็นที่ตั้งรัฐสภาแห่งใหม่หรือไม่ เดินหน้าเจรจานักลงทุนไทย-ต่างชาติ ร่วมทุนโครงการยักษ์ สุวรรณภูมิ เซ็นเตอร์ มูลค่า 100,000 ล้านบาท คาดสรุปผลใน 1-2 เดือนนี้

ท่ามกลางบรรยากาศทางการเมืองที่ยังอึมครึม ส่งผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะ เรื่องการตัดสินใจของรัฐบาลว่าจะเลือกใช้พื้นที่แปลงใดเป็นที่ตั้งของรัฐสภาแห่งใหม่

และท่ามกลางความไม่แน่นอนว่ารัฐบาลจะตัดสินใจเลือกที่ดินแปลงใด ในส่วนของ บริษัทโกลเด้น เทคโนโลยี่ กลับมีความมั่นใจมากว่า ที่ดิน จำนวน 4,600 ไร่ ของบริษัทที่ตั้งอยู่บริเวณถนนบางนา-ตราด กม.32.5 อาจจะได้รับการคัดเลือกให้เป็นที่ตั้งรัฐสภาแห่งใหม่ และจะทำให้ที่ดินในบริเวณดังกล่าวมีมูลค่าเพิ่มขึ้นทันที รวมถึงมีศักยภาพในการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ได้ นั่นคือโครงการ“สุวรรณภูมิ เซ็นเตอร์”

ภายในโครงการสุวรรณภูมิ เซ็นเตอร์ ประกอบด้วย ที่พักอาศัย เอนเตอร์เทนเมนท์ โรงแรม พลาซ่า และสวนสนุกขนาดใหญ่ ซึ่งก่อนหน้านี้ ณัฐสิทธิ์ อิทธิถาวร ผู้อำนวยการโครงการสุวรรณภูมิเซ็นเตอร์ บริษัท กฤษดานคร กรุ๊ป กล่าวว่า ที่ดินในโครงการมีจำนวน 4,600 ไร่ วางแผนพัฒนาโครงการ(มาสเตอร์แพลน)ไว้ว่า ประกอบด้วยโครงการ 7 รูปแบบด้วยกัน ได้แก่ 1.ที่ตั้งรัฐสภาแห่งใหม่ ซึ่งบริษัทเสนอมอบที่ดินให้สร้างรัฐสภาแห่งใหม่จำนวนกว่า 400 ไร่ และถนนภายในโครงการอีก 300 ไร่ รวมเป็น 700 ไร่นั้น ซึ่งยังไม่รู้ว่ารัฐสภาจะเลือกที่ดินแปลงใด เพราะมีผู้เสนอตัวเข้ามามาก แต่ถ้ารัฐบาลไม่เลือกที่ดินของบริษัทก็ไม่มีผลต่อการพัฒนาโครงการ

บัญชา ยินดี กรรมการ บริษัท โกลเด้นฯ กล่าวว่า บริษัทเตรียมความพร้อมที่จะเดินหน้าพัฒนาโครงการดังกล่าว โดยจะเจรจากับนักลงทุนที่สนใจเข้าร่วมทุนในรายละเอียดของการร่วมทุน และรูปแบบโครงการ ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมา มีกลุ่มทุนสนใจติดต่อขอเข้ามาร่วมทุนกับบริษัทหลายราย แต่บริษัทยังไม่พร้อมจึงยังไม่ได้เจรจาอย่างเป็นทางการ

คาดสรุปผลร่วมทุนใน1-2 ด.

ปัจจุบันบริษัทเตรียมพร้อมทั้งข้อมูลและรูปแบบของโครงการ ซึ่งมีการวางแผนอย่างชัดเจนมากขึ้น ตลอดจนประเมินราคาที่ดินเสร็จเรียบร้อยแล้ว และพร้อมที่จะเปิดโอกาสให้กลุ่มทุนจากต่างประเทศ อาทิ สิงคโปร์ ฮ่องกง จีน รวมถึงบริษัท กฤษดามหานคร เข้ามาเจรจาเงื่อนไขการร่วมทุน คาดว่าจะสามารถจะตกลงเงื่อนไขและข้อตกลงเบื้องต้นได้ภายใน 1-2 เดือนนี้

“บมจ.กฤษดาฯจะเข้าร่วมลงทุนกับบริษัทหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคณะกรรมการ และเข้าที่ประชุมผู้ถือหุ้นต่อไป แต่ทั้งนี้ ไม่ว่ากฤษดาฯจะร่วมทุนหรือไม่ก็ตาม ทางบริษัทคงจะให้ กฤษดาฯเป็นผู้บริหารโครงการนี้อย่างแน่นอน เพราะเป็นผู้ได้รับสิทธิพัฒนาที่ดินแปลงดังกล่าว ”

บัญชา กล่าวว่า หากกฤษดาฯรับบริหารโครงการสุวรรณภูมิเซ็นเตอร์ ในอนาคตกฤษดาฯจะมีรายได้จากการบริหารโครงการประมาณ3-5% ของมูลค่าขายที่ดิน โดยมูลค่าขายที่ดินมีมูลค่าประมาณ 35,000 ล้านบาท เท่ากับว่ากฤษดาฯจะมีรายได้ประมาณ 1,000-1,500 ล้านบาท และสามารถได้รับงานเพิ่มเติมจากการเป็นผู้รับก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคทั้งโครงการอีกด้วย โดยการประเมินเบื้องต้นมูลค่าโครงการดังกล่าว น่าจะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 50,000 ล้านบาท

“สำหรับผู้ร่วมทุนส่วนใหญ่สนใจที่ดินของบริษัทมาก เนื่องจากหากที่ดินของบริษัทได้รับเลือกให้เป็นที่ตั้งของรัฐสภาใหม่แล้ว จะทำให้ผู้ร่วมทุนเกิดความมั่นใจมากยิ่งขึ้น เพราะจะทำให้มั่นใจในศักยภาพของโครงการ ซึ่งคาดว่าจะมีการประกาศข่าวเรื่องที่ตั้งรัฐสภาแห่งใหม่ในไม่ช้านี้”

“ในส่วนข่าวการชำระหนี้ธนาคารกรุงไทยของกฤษดาฯ ก็คงเป็นไปได้ที่ทางบริษัทเตรียมความพร้อมเรื่องการไถ่ถอนที่ดินเพื่อยกให้กับรัฐสภา และเพื่อให้บริษัทกลับเป็นลูกหนี้ปกติ ซึ่งหากต้องใช้วงเงินกู้กับสถาบันการเงินเพื่อใช้ในการร่วมทุนในโครงการก็สามารถดำเนินการได้ง่ายขึ้น ซึ่งในการไถ่ถอนที่ดินเพื่อยกให้รัฐสภานั้น ธนาคารกรุงไทยก็พร้อมที่จะให้ทำการไถ่ถอนที่ดินได้อยู่แล้ว” บัญชา กล่าว

สำหรับรายละเอียดของโครงการดังกล่าว เมื่อวันที่ 16 ส.ค.ปีก่อน ทางกฤษดานคร กรุ๊ป ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ(MOU)เป็นครั้งแรกในเมืองไทย กับต้วน เซียน เหนียน ผู้แทนเขตปกครองใหม่ ซิวเจียง ซีอาน เพื่อร่วมทุนพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ในที่ดินดังกล่าว ซึ่งบริษัท โกลเด้นฯ เป็นเจ้าของที่ดินและทางกฤษดาฯเป็นผู้ได้รับสิทธิพัฒนาที่ดิน

เนรมิตเมืองคู่แฝด

ในครั้งนั้น วิชัย กฤษดาธานนท์ ประธานที่ปรึกษากลุ่มกฤษดานคร กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้ เป็นความร่วมมือในการพัฒนาโครงการระหว่างเอกชนกับรัฐบาลของทางซีอาน บนเนื้อที่ประมาณ 1,000 ไร่ มูลค่าโครงการเฉพาะส่วนนี้ประมาณ 20,000 ล้านบาท ซึ่งรูปแบบจะแยกเป็น การจำลอง โรงละครที่ใหญ่ที่สุดของเมืองนครซีอาน ในสมัยราชวงศ์ทังต์มาตั้งอยู่ในที่นี้ มีสินค้าจากจีนมาร่วมแสดง และอื่นๆ

ส่วนรายละเอียดคณะทำงานจะหารือร่วมกัน แต่มีการกำหนดเวลาที่ชัดเจน เพื่อให้โครงการเดินตามแผนที่วางไว้ ทั้งนี้ความร่วมมือกับซีอาน จะส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวจากประเทศจีนและร่วมถึงประเทศอื่นๆเดินทางมาท่องเที่ยวในเมืองไทย จากความยิ่งใหญ่ของโรงละครและโครงการอื่นๆที่จะเกิดขึ้น โดยต้วน เซียน เหนียน ระบุว่าแนวโน้มนักท่องเที่ยวจากจีนจะเข้ามาในไทยไม่ต่ำกว่า 10 ล้านคนต่อปี และเมื่อพัฒนาโครงการแล้วเสร็จจะทำเมืองแห่งนี้เป็นเมืองคู่แฝดที่รองรับการเติบโตของสนามบินสุวรรณภูมิ   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us