สมรภูมิตลาดผงซักฟอก 1.1 หมื่นล้านระอุ “แอทแทค” ชูมีสินค้าครบทุกเซกเมนต์เขย่าบัลลังก์บรีส ปล่อยทีเด็ดซุ่มเปิดตัวผงซักฟอกสูตรน้ำรับตลาดโตพรวด 13% หวังเจาะกลุ่มคนเมืองเสียบแทนบรีส เอกเซล ลิควิด หลังเปิดตัว 4 ปี มีส่วนแบ่ง 0.5% สิ้นปีคอปอร์เรตแชร์ขยับมากกว่า 20%

แหล่งข่าวบริษัท คาโอ คอมเมอร์เชียล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทฯได้เปิดตัวผงซักฟอกสูตรมาตราฐาน "แอทแทค อีซี่" ลงสู่ตลาดผงซักฟอกที่ใหญ่ที่สุดเมื่อปลายปีที่ผ่านมา โดยมีมูลค่าตลาด 5,980 ล้านบาท หรือคิดเป็น 52% ของตลาดรวม 11,500 ล้านบาท ล่าสุดแอทแทคเปิดแนวรบอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยการเปิดตัวผงซักฟอกสูตรน้ำลงสู่ตลาด ส่งผลให้ขณะนี้แอทแทคเป็นค่ายผงซักฟอกที่มีสินค้าครบทุกเซกเมนต์ คือ สูตรมาตรฐาน สูตรเข้มข้น และสูตรน้ำ เทียบเท่ากับผงซักฟอก ”บรีส” ของค่ายยูนิลีเวอร์

ทั้งนี้เหตุผลที่แอทแทคเปิดตัวผงซักฟอกสูตรน้ำ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะรองรับกับแนวโน้มตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูงถึง 13% จากมูลค่าตลาด 920 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 8% รองจากตลาดผงซักฟอกสูตรเข้มข้นมูลค่า 4,600 ล้านบาท หรือคิดเป็น 40% ของตลาดรวม มีอัตราการเติบโตสูงสุด คือ 39.3% ส่วนตลาดผงซักฟอกสูตรมาตรฐานมีอัตราการเติบโตเพียง 4.6% และคาดว่าอีก 1 ปี ตลาดผงซักฟอกสูตรเข้มข้นจะกลายเป็นตลาดใหญ่แทนที่ตลาดผงซักฟอกสูตรมาตรฐาน เนื่องจากผู้บริโภคไทยหันมาซักด้วยเครื่องซักผ้ามากขึ้น

ด้านการแข่งขันในปัจจุบันตลาดผงซักฟอกสูตรน้ำ มีผู้เล่นรายหลักเพียงรายเดียว คือ “บรีส เอกเซล ลิควิด” ของค่ายยูนิลีเวอร์ ซึ่งได้เปิดตัวลงสู่ตลาดเมื่อปี 2545 หรือเมื่อ 4ปีที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันมีส่วนแบ่ง 0.5% สำหรับแอทแทคสูตรน้ำเมื่อเปรียบเทียบกับบรีส เอกเซล ลิควิด วางราคาสูงกว่า คือ ขนาด 1,000 มล. ราคา 109 บาท ส่วนบรีส เอกเซล ลิควิด ราคา 72 บาท นอกจากนี้แอทแทคชนิดน้ำยังได้วางบรรจุภัณฑ์แบบรีฟิลหรือชนิดเติมขนาด 800 มล.ราคา 76 บาท สำหรับจุดแตกต่างที่แอทแทควางไว้ คือ ใช้สำหรับซักเครื่องฝาหน้า ส่วนบรีส เอกเซล ลิควิด จะใช้สำหรับซักเครื่องฝาบน

สำหรับแอทแทคสูตรน้ำ ถือว่าเป็นทางเลือกใหม่ของผู้บริโภคที่ชอบความทันสมัยและสะดวกสบาย โดยเฉพาะกลุ่มคนเมืองซึ่งบริษัทได้วางไว้เป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีกำลังการซื้อที่ดี โดยปัจจุบันผงซักฟอกสูตรน้ำเป็นตลาดใหญ่อยู่ที่สหรัฐอเมริกา ส่วนในเอเชีย มาเลเซียและไต้หวันถือว่าเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุด สำหรับในประเทศไทยคงต้องใช้เวลาในการสร้างตลาด เนื่องจากผงซักฟอกสูตรน้ำมีราคาที่แพง อย่างไรก็ตามภายหลังจากที่แอทแทคเปิดตัวสูตรน้ำลงสู่ตลาด คาดว่าจะผลักดันให้ตลาดผงซักฟอกโดยรวมมูลค่า 11,500 ล้านบาท การเติบโตในเชิงมูลค่า 17% ส่วนในเชิงปริมาณโต 8%

ปัจจุบันผู้นำตลาดผงซักฟอกโดยรวม คือ ค่ายยูนิลีเวอร์ โดยครองส่วนแบ่งรอบล่าสุดเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 65.6% แบ่งเป็น โอโม 18% เซิฟ 0.3% และบรีส 47.3% ประกอบด้วย บรีส เอกเซล 23.1% บรีสคัลเลอร์ 10.9% บรีสเพาเวอร์ 9.9%บรีสเอกเซลโกลด์ 2.2% บรีสเมติก 0.8% และบรีสเอกเซลลิควิด 0.5% ส่วนไลอ้อนภายใต้แบรนด์เปา และโปร 14% คาโอภายใต้แบรนด์แอทแทค 9.8 % และพีแอนด์จีภายใต้ 2 แบรนด์หลัก คือ แฟ้บ และเพค 6% ทั้งนี้บริษัทได้วางเป้าหมายหลังจากแอทแทคมีผงซักฟอกครบทุกเซกเมนต์ คาดว่าจะมีส่วนแบ่งเพิ่มขึ้นมากกว่า 20%