เดอะพิซซ่าอินเทรนด์รับกระแส ส่งพิซซ่าหน้าสี่เหลี่ยมลงตลาด สร้างความคึกคัก หวังช่วยดันยอดขายให้เติบโต 18% ทุ่มงบ 100 ล้านบาทเปิดสาขาใหม่ พร้อมงบรีโนเวตอีก 100 ล้านบาท

นายวิชัย พรพระตั้ง รองประธานฝ่ายการตลาด บริษัท เดอะไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารร้านเดอะพิซซ่าคอมปะนี เปิดเผยว่า บริษัทฯมีเป้าหมายที่จะขยายฐานตลาดกลุ่มเป้าหมายของตลาดรวมพิซซ่ามากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มตลาดระดับกลางลงล่าง ด้วยการสร้างมูลค่าเพิ่มของตัวสินค้าและสร้างความคุ้มค่าทางด้านราคาจากการออกเมนูใหม่ๆ ให้กับผู้บริโภคเป็นหลัก

เนื่องจากมูลค่าตลาดรวมพิซซ่านั้นมีประมาณ 3-4,000 ล้านบาท แต่มีผู้ประกอบการรายใหญ่เพียง 2 รายเท่านั้น จึงต้องกระตุ้นตลาดเต็มที่ แต่ยังมั่นใจว่าตลาดพิซซ่ายังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจหรือจีดีพีมีการคาดการณ์กันว่าจะเติบโตเพียง 4-5% ก็ตาม โดยปีนี้บริษัทฯตั้งเป้าการเติบโตไว้ที่ 18% จากยอดขายปีที่แล้วประมาณ 2,400 ล้านบาท รวมทั้งจะมีการเพิ่มงบการตลาด 20% จากปีที่แล้ว ซึ่งปรกติจะใช้ประมาณ 10% จากยอดขายรวม

โดยสัดส่วนรายได้ของเดอะพิซซ่าจะมาจาก ช่องทางนั่งทานในร้าน 40% ดีลิเวอรี่ 40% และซื้อกลับบ้าน 20% ซึ่งขณะนี้มีจำนวนร้านที่เป็น นั่งทานและดีลิเวอรี่ด้วยประมาณ 40 สาขา ส่วนร้านที่เป็นดีลิเวอรี่อย่างเดียวมีประมาณ 70 สาขา นอกนั้นก็เป็นสาขาที่มีจัดส่งบ้างไม่มีบ้าง

สำหรับแผนการลงทุนนั้นปีนี้จะใช้ประมาณ 100 ล้านบาท ในการขยายสาขาใหม่ในไทยประมาณ 20 แห่ง รวมทั้งของแฟรนไชส์และบริษัทฯ โดยเฉลี่ยลงทุนประมาณ 10-15 ล้านบาทต่อสาขา ส่วนงบประมาณรีโนเวตจะมีประมาณ 100 ล้านบาทที่ใช้ในปีนี้เช่นกัน

ปัจจุบันบริษัทฯมีร้านเดอะพิซซ่าในไทยประมาณ 150 สาขา แบ่งเป็นของบริษัทฯประมาณ 121 สาขา และของแฟรนไชส์ประมาณ 29 สาขา ส่วนในต่างประเทศมีหลายแห่งซึ่งเป็นแฟรนไชส์ทั้งสิ้นคือ คูเวต 6 สาขา ดูไบ 5 สาขา ฟิลิปินส์ 1 สาขา เขมร 1 สาขา และซาอุดิอาระเบียใกล้เปิดเร็วๆนี้ ส่วนที่จีนนั้นเป็นการดำเนินงานโดยบริษัทลูกมี 6 สาขาแล้ว

ทั้งนี้ล่าสุดบริษัทฯได้เปิดตัว “เอ็กซ์-แพน พิซซ่า” ซึ่งเป็นพิซซ่าหน้าสี่เหลี่ยม ขนาด 8 คูณ 8 นิ้ว เข้าเป็นเมนูหลักถาวร แต่จะมีเฉพาะขนาดกลางเท่านั้น เพราะว่าขนาดกลางจะเป็นขนาดที่ตลาดมีการบริโภคมากที่สุด หลังจากที่ก่อนหน้านี้หลายปีมาแล้วเคยทำหน้าสี่เหลี่ยมมาบ้างแต่เป็นแค่โปรโมชั่นเท่านั้น ซึ่งราคาจะมีระดับเดียวคือ 199 บาท ซึ่งช่วงแนะนำตัวมีโปรโมชั่นเมื่อสั่ง 2 ถาดจะจ่ายในราคาเพียง 299 บาท

หากเปรียบเทียบกับพิซซ่าขนาดกลางเดิมที่เป็นวงกลม จะมีราคาตั้งแต่ 220 – 270 กว่าบาทขึ้นไป ขึ้นอยู่กับประเภทของหน้า กล่าวคือ ขนาดกลาง หน้าคลาสสิกประมาณ 220 บาท หน้ากูรเม่ต์ประมาณ 260 บาท และหน้าซีฟู้ดประมาณ 280 บาท

อย่างไรก็ตามพิซซ่าขนาดกลางแบบเดิมคือ แบบกลมยังมีจำหน่ายอยู่ตามปรกติ ซึ่งจะมีตลาดอยู่กลุ่มหนึ่งที่ชอบ ซึ่งจะทำให้เดอะพิซซ่ามีการนำเสนอให้กับลูกค้าที่หลากหลายมีให้เลือกมากขึ้น โดยมีหน้ามากกว่า 30 หน้าพิซซ่า

“กลยุทธ์หลักของเราคือพยายามมองกลับไปที่ผู้บริโภคก่อนว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้สินค้าดีที่สุดเหมาะสมกับผู้บริโภคมากที่สุด โดยต้องสร้างมูลค่าเพิ่มในตัวสินค้าให้ได้ เช่น ที่ผ่านมาคอนเซ็ปท์ของเราก็คือ หนักเครื่อง หนักชีส แต่ไม่ใช่ว่าทำถูกมากก็จะขายได้ เพราะที่ผ่านมาเคยทำแบบราคา 59 บาท แต่ก็ต้องเลิกไป”

การทำพิซซ่าหน้าสี่เหลี่ยมออกมาครั้งนี้ เป็นแผนที่บริษัทฯเตรียมการมานานกว่า 8 เดือนแล้ว ในการพัฒนาและเตรียมการทุกส่วนทั้งหน้าพิซซ่า อุปกรณ์ และการทำตลาด ซึ่งผลที่ได้ส่วนหนึ่งทำให้บริษัทฯสามารถลดต้นทุนการดำเนินงานลงได้ด้วย จึงสามารถที่จะจำหน่ายในราคาเพียง 199 บาทต่อถาดได้

ทั้งนี้หลังจากที่ได้นำพิซซ่าหน้าเหลี่ยมนี้ออกจำหน่ายเมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา ปรากฎว่า ลูกค้าที่เดินเข้าร้านสั่งพิซซ่าหน้าสี่เหลี่ยมนี้มีมากกว่า 50% ซึ่งถือว่าน่าพอใจ

สำหรับยอดขายในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมามีอัตราการเติบโต 16% ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะการฉลองเดือนเกิดของเดอะพิซซ่าในเดือนมีนาคมด้วยโปรโมชั่น ซื้อ 1 แถม 1 ด้วย ส่งผลให้เดอะพิซซ่ามียอดการจำหน่ายพิซซ่าในเดือนมีนาคมสูงที่สุดประมาณ 2 แสนถาดต่อสัปดาห์ จากทุกสาขารวมกัน จากเดิมที่ขายได้ประมาณ 80,000 ถาดต่อสัปดาห์เท่านั้น และการปรับระบบการทำงานใหม่ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น