Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน12 เมษายน 2549
กองทุนรวมตราสารหนี้ยังขายได้ ยูโอบีดูดเงินเข้าพอร์ต1.5พันล้าน             
 


   
search resources

Funds
ยูโอบี (ไทย), บลจ.




บลจ.4 ค่ายร่วมแชร์ส่วนแบ่งตลาดกองทุนตราสารหนี้เดือนเมษายน เผยหลังปิดไอพีโอเงินยังไหลเข้าต่อเนื่อง "ยูโอบี" ส่งกอง 6 เดือนดูดเงินเข้าพอร์ตอีก 1,500 ล้านบาท พร้อมส่งกองใหม่อายุ 1 ปี ลุยตลาดต่อทันที ด้านค่าย "บัวหลวง" แผ่ว ลูกค้าแบงก์แม่โยกเงินรับดอกเบี้ยเงินฝากขยับ ส่วน 2 ค่ายเล็ก "พรีมาเวสท์-เอเจเอฟ" ยังฟืด

จากการสำรวจตลาดกองทุนรวมตราสารหนี้ในช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งมีกองทุนรวมเปิดขายหน่วยลงทุนเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่จะเป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้นๆ เช่น อายุ 3 เดือนและ 6 เดือน ที่ยังได้รับประโยชน์จากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยช่วงขาขึ้น และให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝากโดยไม่ต้องเสียภาษี

โดยรายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ยูโอบี (ไทย) จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากปิดการเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (ไอพีโอ) ของกองทุนเปิด ยูโอบี ชัวร์ 6/6 เมื่อวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา ปรากฏว่ากองทุนดังกล่าวสามารถระดมทุนได้ประมาณ 1,500 ล้านบาท จากมูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท โดยลูกค้าที่ซื้อกองทุนส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าประจำของบริษัทที่ไม่ต้องการเสียโอกาสจากอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในช่วงขาขึ้น และต้องการได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร

ทั้งนี้ กองทุนเปิด ยูโอบี ชัวร์ 6/6 เป็นกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นอายุประมาณ 6 เดือน เน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ ได้แก่ ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล ตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย และรัฐวิสาหกิจที่กระทรวงการคลังค้ำประกัน ที่มีวันครบกำหนดอายุตราสารภายในหรือใกล้เคียงกับวันครบอายุของกองทุน โดยจะลงทุนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน และมีนโยบายที่จะถือครองตราสารจนครบกำหนดอายุกองทุน ส่วนที่เหลือจะนำไปลงทุนในเงินฝากธนาคาร

อย่างไรก็ตาม หลังจากเปิดขายกองทุนเปิด ยูโอบี ชัวร์ 6/6 แล้ว บริษัทได้เปิดขายไอพีโอสำหรับกองทุนเปิด ยูโอบี ชัวร์ 12/4 ต่อทันที ซึ่งกองทุนดังกล่าว เป็นกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นอายุ 1 ปี โดยมีมูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท เน้นลงทุนในตราสารภาครัฐบาล ได้แก่ ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล ตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย โดยกองทุนเปิด ยูโอบี ชัวร์ 12/4 จะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติทุกเดือนในอัตราไม่ต่ำกว่า 4.20% ต่อปี ของเงินลงทุนเริ่มแรกและไม่ต้องเสียภาษีจากผลตอบแทนที่ได้รับ และจะครบกำหนดอายุกองทุนในวันที่ 23 เมษยน 2550 ซึ่งกองทุนจะเปิดขายไปถึงวันที่ 17 เมษายน 2549 โดยหลังจากนั้นก็จะเปิดขายกองทุนเปิด ยูโอบี ชัวร์ 12/5 กองทุนตราสารหนี้ 1 ปีต่อทันทีในระหว่างวันที่ 17-24 เมษายน 2549

ด้านบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บัวหลวง จำกัด เปิดเผยว่า กองทุนรวมบัวหลวงธนรัฐ 6/49 ที่ปิดขายไอพีโอไปเมื่อวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา สามารถระดมทุนได้ประมาณ 1,000 ล้านบาทจากมูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท โดยกองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนตราสารหนี้ที่ลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ มีอายุประมาณ 5 เดือน ซึ่งหากกองทุนครบอายุกองทุนผู้ลงทุนก็จะได้รับเงินลงทุนและเงินจ่ายคืนอัตโนมัติคืนทั้งหมด โดยกองทุนคาดการณ์ผลตอบแทน 4.10% ต่อปี

ส่วนบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) พรีมาเวสท์ จำกัด เปิดเผยว่า กองทุนปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์ คุ้มครองเงินต้น 7 (KPC7) ที่เน้นลงทุนในตราสารการเงินภาครัฐ พร้อมคุ้มครองเงินลงทุน และมีอายุการลงทุนสั้นประมาณ 3 เดือนซึ่งปิดขายกองทุนไปเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2549 สามารถระดมทุนได้ประมาณ 665 ล้านบาท จากมูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท โดยกองทุนดังกล่าวมีนโยบายลงทุนทั้งหมดในพันธบัตรรัฐบาล เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย พันธบัตรหรือตราสารแห่งหนี้ที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเป็นผู้ออก ผู้รับรอง ผู้ค้ำประกัน พันธบัตรหรือตราสารแห่งหนี้ที่กระทรวงการคลังเป็นผู้ออก ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกัน

นายเพิ่มพล ประเสริฐล้ำ กรรมการผู้จัดการ บลจ.พรีมาเวสท์ กล่าวว่า การที่กองทุนระดมทุนได้ค่อนข้างน้อย สาเหตุหนึ่งอาจจะมาจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งทำให้ผลตอบแทนขยับขึ้นมาใกล้กองทุนรวมมากขึ้น นอกจากนั้นยังเป็นทางเลือกในการออมทางหนึ่งของผู้ลงทุน อย่างไรก็ตาม กองทุนรวมยังได้เปรียบเงินฝากตรงที่ได้รับสิทธิประโยชน์ภาษี 15%

ทั้งนี้ สำหรับกองทุนกองต่อไปที่จะเปิดขายภายใต้สภาวะการณ์ดังกล่าว เชื่อว่ากองทุนระยะสั้นยังน่าสนใจอยู่ เช่น 3 เดือนและ 6 เดือน และถึงแม้ธนาคารพาณิชย์จะปรับดอกเบี้ยตามดอกเบี้ยอาร์/พี ในส่วนของดอกเบี้ยตราสารหนี้ก็ปรับขึ้นตามไปด้วย ซึ่งสำหรับบลจ.พรีมาเวสท์ คงจะเน้นกองทุนที่อายุสั้นๆ เช่น 3 เดือน แล้วโรลไปเรื่อยๆ เพื่อเพิ่มโอกาสให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนทุกๆ 3 เดือนที่เปลี่ยนแปลงไป เพราะเชื่อว่าอัตราดอกเบี้ยยังมีแนวโน้มปรับขึ้นไปอีก

ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อยุธยาเจเอฟ จำกัด (เอเจเอฟ) เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทได้ปิดขายหน่วยลงทุนสำหรับกองทุนเปิดอยุธยาพันธบัตรรัฐบาล 3 เอ็ม กองทุนตราสารหนี้ที่เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน โดยมีมูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท สามารถระดมทุนได้ประมาณ 651.51 ล้านบาท

ทั้งนี้ กองทุนเปิดอยุธยาพันธบัตรรัฐบาล 3 เอ็ม มีนโยบายการลงทุนทั้งหมดไปลงทุนในตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย หรือพันธบัตรหรือตราสารแห่งหนี้ที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเป็นผู้ออก ผู้รับรอง ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกัน หรือพันธบัตรตราสารแห่งหนี้ที่กระทรวงการคลังเป็นผู้ออก ผู้รับอาวัลหรือผู้ค้ำประกัน ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีของกองทุน   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us