Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ มิถุนายน 2539








 
นิตยสารผู้จัดการ มิถุนายน 2539
"ไปปลูกกล้วยในสวนของ 'ผู้ถือหุ้นใหญ่' กันเถอะ"             
 

   
related stories

"ตำนานของคน 7 คน กับ "แปลน" ที่เปลี่ยนไปแล้ว"
"บ้านสวนริมคลอง-บางปะอิน ความท้าทายครั้งใหญ่ของแปลน"

   
search resources

แปลนกรุ๊ป
ธีรพล นิยม
Real Estate




บทเพลงเพื่อชีวิต "คนสร้างบ้าน" ดังกระหึ่มขึ้นในองค์กรของแปลนมาตั้งแต่ประมาณปลายปี 2531 พร้อม ๆ กับการเกิดกิจกรรมค่ายอาสาสมัครขึ้น ภายใต้ชื่อโครงการ "แปลนอาสา"

โครงการนี้เกิดขึ้นหลังจากเกิดเหตุอุทกภัยครั้งใหญ่ที่ภาคใต้ กิจกรรมค่ายที่เกิดขึ้นในช่วงนั้นคือ การไปออกค่ายสร้างโรงเรียนวัดจันทร์ ที่อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช ไปสร้างโรงเรียนวัดดอนกุฎี ที่อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร

เป็นเรื่องธรรมดาที่ไม่ธรรมดาแน่นอนที่องค์กรธุรกิจเอกชนองค์กรหนึ่งที่ต้องต่อสู้เพื่อความอยู่รอดในวงการธุรกิจ และจำเป็นที่จะต้องแข่งขันกัน สร้างความเป็นหนึ่งในยุทธจักรของตนจะสนใจกิจกรรมงานค่าย และสนับสนุนให้พนักงานของบริษัทในเครือทุกระดับ ไปใช้ชีวิตร่วมกันกับชาวบ้านในชนบทที่ห่างไกล

การออกค่ายในช่วงแรกนั้น ๆ กรรมการงานค่ายก็จะมาจากกรรมการของแต่ละบริษัทในเครือ งานหลักอย่างหนึ่งของแต่ละบริษัทก็คือ ต้องช่วยกันหาทุน เช่นเมื่อมีโครงการ "น้ำใจสู้ภัยใต้" นั้น ร้านเสื้อผ้าวิทวิทอาจจะเอาเศษผ้าที่เหลือในร้านตัดเสื้อผ้าออกจำหน่ายหาทุน หนังสือรักลูกจัดนิทรรศการน้ำท่วมและออกร้านจำหน่ายสิ่งของและรับของบริจาค บริษัทแปลนทอยเอาของเล่นจำนวนหนึ่งมาขาย บริษัทแปลนกราฟฟิคขายเสื้อยืด

แม้กระทั่งในช่วงเวลาของการสู้รบทางเศรษฐกิจที่เพิ่มกระแสความรุนแรงในช่วงปี 2534-2535 หลายบริษัทกำลังเคร่งเครียดในการปรับยุทธศาสตร์ สร้างยุทธวิธีเพื่อความอยู่รอดกันอย่างเคร่งเครียด องค์กรของแปลนก็ประสบปัญหานี้เช่นกัน แต่กลับมีเวลาส่วนหนึ่งไปฟ้อนเซิ้ง ครวญเพลงแสงดาวแห่งศรัทธาอยู่ที่ชุมชนวัดหนองคู จังหวัดสุรินทร์ที่โรงเรียนบ้านหนองบัว จังหวัดสุรินทร์

"ก็เคยมีเด็กใหม่ ๆ บางคนที่เข้ามาไม่เข้าใจเหมือนกัน สถานะทางเศรษฐกิจไม่ดี แต่ประธานบริษัทกลับไปนั่งออกค่าย" ธีรพล เคยให้สัมภาษณ์ไว้ในหนังสือเล่มหนึ่ง ความขัดแย้งระหว่างนักกิจกรรมในองค์กร และเด็กใหม่ไฟแรงที่ก้าวมาในช่วงนั้นก็เกิดขึ้นบ้างเช่นกัน ถึงแม้ว่ากันว่าคนที่มาสมัครงานในบริษัทของแปลนหากเป็นเด็กที่เคยทำกิจกรรมในมหาวิทยาลัย จะได้รับความสนใจเป็นพิเศษ

"ที่เราสนใจคนกลุ่มนี้เป็นพิเศษเพราะมองว่า คนที่เคยทำกิจกรรมในมหาวิทยาลัย จะรู้จักการทำงานเป็นทีม กล้าแสดงความคิดเห็น และมีความคิดกับเราคล้าย ๆ กัน การทำงานอาจจะง่ายขึ้น" คนในแปลนคนหนึ่งเล่าให้ "ผู้จัดการ" ฟัง

ประกอบกับเนื้องานที่มากขึ้นการรับคนก็จำเป็นต้องหลากหลายเช่นกันด้วย การที่จะมุ่งเน้นรับเฉพาะเด็กกิจกรรมนั้นเป็นไปไม่ได้ เพียงแต่แปลนเป็นองค์กรทางธุรกิจที่คนกลุ่มนั้นใฝ่ฝันที่จะเข้ามาร่วมงานด้วยความเชื่อมั่น และศรัทธาในกลุ่มผู้นำองค์กรเป็นพิเศษ

อย่างไรก็ตามกิจกรรมการออกค่ายในช่วงหลังเริ่มขาดหายไป สาเหตุมาจากงานค่ายเป็นโครงการที่จำเป็นต้องใช้เวลา และกำลังคนมากพอสมควร ดังนั้นแม้การหาทุนที่เกิดขึ้นในระยะต่อมายังมีอยู่ตลบอดเวลา แต่กิจกรรมที่จะจัดขึ้นนั้น จำเป็นต้องปรับให้เล็กลงและสอดคล้องกับองค์กรนั้น ๆ แทนเช่นการไปสร้างโรงเรียนของบริษัทเฉพาะในสายสถาปัตย์ทั้ง 5 บริษัท โครงการอบรมแม่บ้านในสลัมของทีมงานหนังสือรักลูก หรือโครงการ "ผ้าป่า เพื่อป่า จ. น่าน" เมื่อวันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมา

กิจกรรมอีกอย่างหนึ่งที่เป็นรูปธรรมขององค์กรแปลนก็คือ "มูลนิธิสานแสงอรุณ" ที่ตั้งขึ้นมาเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2536 ภารกิจของมูลนิธิก็คือ การดำเนินกิจกรรมสาธารณประโยชน์อันจะสร้างความคิดและจิตสำนึกในการพัฒนาศักยภาพของคนเพื่อสร้างสรรค์คุณภาพชีวิต และสังคม

กิจกรรมที่มูลนิธิกำลังดำเนินอยู่ในโครงการสวนแสงอรุณ

ที่น่าสนใจคือ เงินในการดำเนินงานของมูลนิธิมาจากเงินปันผลในฐานะผู้ถือหุ้นในกลุ่มธุรกิจแปลน ซึ่งปัจจุบันถืออยู่ในหลายบริษัท

ในอนาคตอันใกล้ ธีรพลเล่าว่า สัดส่วนผู้ถือหุ้นของมูลนิธิจะเพิ่มขึ้น อาจสูงถึง 60% ส่วนผู้ถือหุ้นเดิม โดยเฉพาะถือในนามส่วนบุคคลจะลดลง ซึ่งก็ต้องกลับไปย้อนที่คำถามเดิมว่าถือหุ้นน้อยลง ผลตอบแทนย่อมน้อยลง ผู้ถือหุ้นพอใจหรือไม่ ถ้าพอและยินยอมให้ถือหุ้นผ่านมูลนิธิ รูปโฉมการถือหุ้นในแปลนก็จะเปลี่ยนไป และเงินเพื่อทำกิจกรรมด้านสังคมของมูลนิธิจะเพิ่มขึ้น

นอกจากผู้ก่อตั้งจะถือหุ้นในนามส่วนบุคคลแล้ว จะถือหุ้นผ่านมูลนิธิ ซึ่งมีความแตกต่างกัน เพราะเงินปันผลของมูลนิธิจะไม่แบ่งให้กับผู้ถือหุ้น แต่จะเก็บไว้เป็นทุนให้กับมูลนิธิเท่านั้น

หากโครงสร้างผู้ถือหุ้นของแปลนเปลี่ยนไปในลักษณะเช่นนี้ แปลนก็จะเป็นกลุ่มที่มีลักษณะการถือหุ้นแปลกมากบริษัทหนึ่ง และเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจก็อาจจะเปลี่ยนไปหรือมีความชัดเจนขึ้นในระยะยาว

แนวความคิดในการตั้งมูลนิธินั้น จริง ๆ แล้วเป็นแนวความคิดที่มีลักษณะต่อเนื่องกับการสร้างองค์กรของแปลน เป็นแนวความคิดเดิมที่ผู้ร่วมก่อตั้งพยายามย้อนกลับไปเพื่อหาจุดเริ่มต้นซึ่งเป็นรากเดิม โดยปล่อยให้องค์กรเก่าเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพความเป็นจริงในกระแสธุรกิจของสังคม

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us