|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
หุ้นไอทีวีราคารูดเกือบ 11% นักลงทุนเทขายหุ้นเพื่อลดความเสี่ยงจากกรณีศาลปกครองชี้ขาดให้จ่ายสัมปทานตามสัญญาเดิมในวันนี้ บล.พัฒนสิน ชี้นักลงทุนคาดไอทีวีแพ้จึงเทขายหนัก ขณะที่นักลงทุนรายใหญ่เย้ยมาตรการตลาดหลักทรัพย์ ลากราคาหุ้นไมด้า-เมดดาลิสท์วิ่งแรง 10.59%%สวนภาวะตลาดหุ้นโดยรวมที่ปรับตัวลดลงมาหนัก
การเคลื่อนไหวของราคาหุ้นบริษัทไอทีวี จำกัด (มหาชน) หรือ ITV วานนี้(10 เม.ย.) ราคาเปิดมาที่ระดับ 9.40 บาท ก่อนจะมีแรงเทขายทำกำไรออกมา จนทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลงมาต่ำสุดที่ระดับ 8.85 บาท แต่หลังจากนั้นได้มีแรงซื้อเข้ามาทำให้ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยและมาปิดที่ระดับ 9.10 บาท ลดลง 1.10 บาทหรือ 10.78% มูลค่าการซื้อขาย 211.72 ล้านบาท
นายโกสินทร์ ศรีไพบูลย์ ผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบีเคย์เฮียน(ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การที่ราคาหุ้นไอทีวีปรับตัวลดลง เนื่องจากนักลงทุนวิตกกับกรณีที่ศาลปกครองจะมีการพิจารณาเรื่องค่าสัมปทานวันนี้ (11 เม.ย.) ซึ่งได้มีการคาดการณ์ว่าไอทีวีจะแพ้ในกรณีค่าสัมปทาน ซึ่งจะต้องมีการปรับผังรายการใหม่โดยเน้นในรายการที่มีสาระมากขึ้น ส่งผลให้บริษัทมีต้นทุนการดำเนินงานมากขึ้น และกระทบต่อผลกำไรลดลง อย่างไรก็ตามก็ต้องรอคำตัดสินของศาลปกครองว่าจะตัดสินในวันนี้หรือจะไต่สวนและนัดตัดสินอีกครั้งใน 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.พัฒนสิน กล่าวว่า การปรับตัวลกลงของราคาหุ้น ITV เป็นเพราะนักลงทุนรอคำตัดสินของศาลปกครองในวันนี้เกี่ยวกับเรื่องค่าสัมปทาน ซึ่งนักลงทุนคิดว่าศาลน่าจะให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี หรือสปน .เป็นฝ่ายชนะ โดยหากไอทีวีแพ้คดีเรื่องการจ่ายค่าสัมปทาน จะทำให้ผลประกอบการจากที่มีกำไรอาจจะขาดทุนได้
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้อนุญาโตตุลาการมีคำสั่งให้ ITV จ่ายค่าสัมปทานปีละ 230 ล้านบาท
แหล่งข่าวจากโบรกเกอร์กล่าวว่า การที่ราคาหุ้นบริษัทไอทีวีปรับตัวลดลงมาแรงเนื่องจากว่าในวันนี้ศาลปกครองจะมีอ่านคำพิพากษากรณีค่าสัมปทาน ดังนั้นนักลงทุนจึงเทขายหุ้นออกมาก่อนเพื่อเป็นการลดความเสี่ยงเพราะเกรงว่าถ้าศาลปกครองตัดสินให้จ่ายค่าสัมปทานตามสัญญาเดิม โดยจ่ายขั้นต่ำในระดับ 1 พันล้านบาทต่อปีซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทได้เช่นกัน
ทั้งนี้บทวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์ ซิกโก้จำกัด(มหาชน)ได้ออกบทวิเคราะห์โดยมองใน 2 กรณีโดยกรณีแรกถ้าศาลปกครองยืนยันตามคำตัดสินเดิมของศาลชั้นต้นทุกอย่างจะเป็นไปตามการคาดการณ์เดิมโดยบริษัทไอทีวีจะยังคงเสียค่าสัมปทานที่อัตราเดิมคือขั้นต่ำ 230 ล้านบาทต่อปี ซึ่งถ้าทุกอย่างเป็นไปตามที่คาดไว้บริษัทไอทีวีจะมีกำไรสุทธิเท่ากับ 799 ล้านบาทซึ่งจะเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 18% โดยราคาที่เหมาะสมอยู่ที่ 14.1 บาท
อย่างไรก็ตามในกรณีที่ศาลปกครองตัดสินให้จ่ายค่าสัมปทานตามสัญญาเดิมคือขั้นต่ำ 1 พันล้านบาทต่อปี อาจจะเสียค่าสัมปทานย้อนหลังในปี 2547-2548 ที่ผ่านมาอีกประมาณ 1.6 พันล้านบาทโดยเบื้องต้นคาดว่าหากเป็นกรณีนี้บริษัทไอทีวีจะกลับเป็นขาดทุนทันที โดยในปีนี้มีโอกาสขาดทุนที่ 107 ล้านบาทโดยมูลค่าที่เหมาะสมจะอยู่ที่ 1.5 บาท
ด้านการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นบริษัท ไมด้า-เมดดาลิสท์ เอ็นเธอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน)หรือ MME วานนี้เปิดมาที่ระดับ 33.25%
หลังจากนั้นก็ได้มีแรงซื้อเข้ามาทำให้ราคาขึ้นมาสูงสุดที่ระดับ 39 บาทต่อมาก็มีแรงเทขายทำกำไรออกมาทำให้ราคาอ่อนตัวลงและมาปิดที่ 38 บาทเพิ่มขึ้น 3.75 บาทหรือ 10.95% มูลค่าการซื้อขาย 343.18 ล้านบาท
แหล่งข่าวจากโบรกเกอร์เปิดเผยว่า การที่ราคาหุ้นบริษัทไมด้า-เมดดาลิสท์ฯปรับตัวเพิ่มขึ้น สวนทางกับภาวะตลาดหุ้นโดยรวม เนื่องจากนักลงทุนรายใหญ่เข้ามาไล่ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น ถึงแม้ว่าตลาดหลักทรัพย์จะขยายระยะเวลาห้ามซื้อขายในลักษณะหักกลบราคาค่าซื้อกับราคาค่าขายหลักทรัพย์เดียวกันในวันเดียวกัน (Net Settlement) และห้ามสมาชิกให้ลูกค้ากู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ (Margin Trading) ชั่วคราวต่อไปอีก 60 วันทำการ ตั้งแต่วันที่ 5 เมษายนถึง 6 กรกฎาคม 2549 ซึ่งการที่ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาแรงนั้นนักลงทุนไม่ควรที่จะแห่เข้าไปเก็งกำไรตาม เพราะถือว่ามีความเสี่ยง และนักลงทุนรายใหญ่ก็มีต้นทุนอยู่ในระดับต่ำ
|
|
|
|
|