|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ไทยเบฟฯ ลั่นกลองปลุกตลาดเบียร์สดระลอกใหญ่ เปิดตัวช้างดราฟท์บรรจุภัณฑ์ขวด 2 ขนาด เดินเกมสร้างพฤติกรรมนักดื่มตัวยงซื้อเบียร์ไปดื่มที่บ้าน อุดช่องว่างราคา-ดีกรีตั้งราคาช้างดราฟท์อยู่ระหว่างช้างไลท์-เบียร์ช้าง
นายสมชัย สุทธิกุลพานิช รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเบียร์ช้าง อาชา และล่าสุดช้างไลท์ เปิดเผยกับ ”ผู้จัดการรายวัน” ว่า หลังจากบริษัทฯได้เปิดตัวช้างไลท์ลงสู่ตลาดเบียร์ในเซกเมนต์ใหม่ไลท์เบียร์ ล่าสุดได้เปิดตัวเบียร์สด ”ช้างดราฟท์” บรรจุภัณฑ์ขวด 2 ขนาด คือ ขนาด 330 มล.และขนาด 640 มล. ทั้งนี้เพื่อขยายกลุ่มเป้าหมายที่ซื้อกลับไปดื่มที่บ้านเป็นหลัก จากที่ผ่านมาช้างดราฟท์จะมีจำหน่ายตามร้านอาหาร ผับ บาร์ ทำให้มีกลุ่มเป้าหมายจำกัดอยู่เฉพาะช่องทางออนพรีมิสเท่านั้น
สำหรับแผนการตลาดจะเน้นจำหน่ายผ่านช่องทางออฟพรีมิสหรือโมเดิร์นเทรด ร้านค้าสะดวกซื้อ และร้านค้าทั่วไป รวมทั้งเน้นทำตลาดตามหัวเมืองหลักมากกว่าตลาดต่างจังหวัด โดยเบียร์สดช้างมีดีกรี 5% เท่ากับมาตรฐานสากล ซึ่งบริษัทได้วางดีกรีให้อยู่ตรงกลางระหว่างเบียร์ช้างซึ่งมีดีกรีกว่า 6.4% ขณะที่ช้างไลท์มีดีกรี 4.2% เช่นเดียวกับราคาซึ่งช้างดราฟอยู่ระหว่างตรงกลางกับช้างไลท์และเบียร์ช้าง โดยบรรจุภัณฑ์ขนาด 640 มล.ช้างดราฟท์วางไว้ที่ 34-35 บาท แพงกว่าเบียร์ช้างเล็กน้อย ที่จำหน่ายราคา 33 บาท ส่วนช้างไลท์ราคาไม่เกิน 50 บาท โดยช้างดราฟท์ได้เริ่มวางตลาดได้ 2-3 วันแล้ว
“การเปิดตัวช้างดราฟท์บรรจุภัณฑ์ขวด อยู่ในแผนการตลาดที่บริษัทวางไว้ว่าจะเปิดตัวในช่วงสงกรานต์ ซึ่งถือว่าเป็นช่วงฤดูกาลขายสินค้าอยู่แล้ว ไม่ต้องทำอะไรมากสภาพตลาดก็มีอัตราการเติบโต โดยเฉพาะช่องทางออฟพรีมิสจะโตมาก เพราะคนจะซื้อกลับไปเฉลิมฉลองที่บ้านมากกว่าดื่มในร้าน ดังนั้นจึงเป็นโอกาสที่ดีที่บริษัทจะแนะนำช้างดราฟท์ในช่วงเวลานี้
แนวโน้มตลาดเบียร์สด 20 ล้านลิตร คิดเป็นมูลค่า 2,380 ล้านบาท หรือราว 4% ของตลาดเบียร์ 82,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตไม่มากนัก เนื่องจากโอกาสในการดื่มของผู้บริโภคยังมีไม่มาก โดยมากจะดื่มในช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองเป็นหลัก โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่ อีกทั้งเบียร์สดยังมีข้อจำกัดในเรื่องของราคาที่แพงกว่าเบียร์ปกติ ซึ่งจำหน่ายลิตรละ 100-160 บาท(ตามแต่ละเซกเมนต์ของเบียร์) รวมไปถึงข้อจำกัดเครื่องกดเบียร์ ทำให้เบียร์สดไม่สามารถขยายได้ในวงกว้าง โดยการแข่งขันหลักๆในเวลานี้จะอยู่ในช่องทางออนพรีมิสเป็นหลักเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เบียร์สดถือว่าเป็นโปรดักส์ตัวหนึ่งที่สามารถขยายผู้ดื่มหน้าใหม่เข้ามาทดลองดื่ม เนื่องจากดื่มได้ง่ายมากกว่าเมื่อเทียบกับเบียร์ปกติ แม้ว่าจะเป็นตลาดที่เล็กและการเติบโตของตลาดไม่สูง แต่ก็เป็นที่หมายปองของค่ายเบียร์หลายค่าย ไม่ว่าจะเป็น ไทยเอเชีย แปซิฟิค ที่ทุ่มกว่า 50 ล้านบาท เปิดตัว”อีซี่ดราฟท์”ถังเบียร์ขนาดครึ่งลิตรเบียร์ไฮเนเก้นและไทเกอร์ โดยก่อนหน้านี้ค่ายบุญรอดฯก็มีเบียร์สดบรรจุภัณฑ์กระป๋องทำตลาด แต่เนื่องจากไม่ได้รับการตอบรับมากนัก จึงได้หยุดทำตลาดไป ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะความเชื่อว่าเบียร์สดจะต้องมาจากบรรจุภัณฑ์ถังเบียร์เท่านั้น ถึงจะขึ้นชื่อว่าเป็นเบียร์สด
สำหรับไทยเบฟฯเริ่มกลับมาทำตลาดช้างดราฟท์เมื่อปี 2547 ซึ่งยอดขายเบียร์สดช้างในช่วงที่ผ่านมาเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยยอดจำหน่ายเบียร์สดช้างจะมีมากถึง 50% ของตลาดเบียร์สดหรือประมาณ 13-14 ล้านลิตรต่อปี โดยปัจจุบันจำหน่ายผ่านร้านอาหาร ผับ บาร์ 4,000 แห่งทั่วประเทศ
ตลาดเบียร์โดยรวมมูลค่า 82,000 ล้านบาท ในปี 2549 สภาพตลาดน่าจะทรงตัวหรือเติบโตเพียงเล็กน้อยประมาณ 2-3% โดยแนวโน้มการแข่งขันหลักๆ ค่ายเบียร์แต่ละค่ายจะงัดพอร์ตโฟลิหรือการมีสินค้าครอบคลุมทุกเซกเมนต์ชิงความเป็นผู้นำตลาด
ปัจจุบันไทยเบฟฯเป็นผู้นำตลาดเบียร์โดยรวมครองส่วนแบ่ง 60% ประกอบด้วยเบียร์ช้าง อาชา ช้างไลท์ และล่าสุดช้างดราฟ ส่วนค่ายท้าชิงอย่างบุญรอดฯปัจจุบันมีส่วนแบ่ง 40% โดยวางเป้าหมายสิ้นปีนี้จะขึ้นเป็นผู้นำตลาดด้วยการมีส่วนแบ่ง 47-48% มาจากสิงห์ไลท์ 2% ลีโอ 30% เบียร์สิงห์ 12-13% และที่เหลือ 2-3 % เป็น ไทเบียร์ คลอสเตอร์ อาซาฮี
|
|
|
|
|