"โจนส์ แลง ลาซาลล์" ระบุตลาดเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ เขตกรุงเทพฯชั้นใน แข่งเดือดเหตุซัปพลายอยู่ระหว่างการก่อสร้างเตรียมเข้าสู่ตลาดกว่า 3,000 ยูนิต และสร้างเสร็จในปีนี้ 1,050 ยูนิต ส่วนราคาห้องปรับขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยห้องพักขนาดสตูดิโอถึง 2 ห้องนอนโครงการเกรดเอค่าเช่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจาก 1,008 บาทต่อตร.ม.ต่อเดือน เมื่อต้นปี 2548 เป็น 1,126 บาทต่อตร.ม. เมื่อต้นปี 2549

ฝ่ายวิจัย บริษัทโจนส์ แลง ลาซาลล์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมา มีเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ในเขตกรุงเทพฯ ชั้นในสร้างเสร็จเพิ่มขึ้น 586 ยูนิต เป็น 9,030 ยูนิต ณ เดือนม.ค.49 โดยโครงการสร้างเสร็จในปี 2548 อาทิ โครงการซัมเมอร์เซท พาร์ค สวนพลู สวนพลู/สาทร 45 ยูนิต, ทวินพีค สุขุมวิทซอย 17 จำนวน 72 ยูนิต, เฟรเซอร์ เพลส หลังสวน ซอยหลังสวน จำนวน 129 ยูนิต, เซ็นเตอร์พอยท์ ทองหล่อ สุขุมวิท 55 จำนวน 156 ยูนิต และโฮปแลนด์ (เฟส 1) สุขุมวิท 24 จำนวน 160 ยูนิต ทั้งนี้ ทำเลย่านสุขุมวิทยังคงเป็นทำเลยอดนิยม สำหรับการสร้างโครงการเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ ดังจะเห็นได้จากโครงการใหม่ๆ ที่สร้างเสร็จเพิ่มขึ้นในย่านนี้

นอกจากนี้ ปัจจุบันมีเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้างรวมทั้งสิ้นประมาณ 3,000 ยูนิต ซึ่งในจำนวนนี้มีกำหนดจะสร้างเสร็จในปีนี้ 1,050 ยูนิต โดย 675 ยูนิตจาก 4 โครงการจะสร้างเสร็จในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ทั้งนี้ 648 ยูนิตจะบริหารโดยเชนบริหารระหว่างประเทศ ประกอบด้วยโครงการโซฟิเทล เรสซิเด้นท์ พาร์ค อเวนิว โครงการโซฟิเทล เรสซิเด้นท์ อโศกและเดอะ คอลัมน์ ส่วนที่เหลืออีก 27 ยูนิตจะเป็นของโครงการโฮปแลนด์ บริหารโดยผู้ประกอบการไทย

สำหรับโครงการเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ที่คาดว่าจะสร้างเสร็จในครึ่งแรกของปี 2549 ได้แก่ โฮปแลนด์ เฟส 2 สุขุมวิท 24 จำนวน 27 ยูนิต, โซฟิเทล เรสซิเด้นท์ อโศก สุขุมวิท 19 จำนวน 72 ยูนิต, เดอะคอลัมน์ (โอ๊ควูด) รัชดาภิเษก จำนวน 226 ยูนิต และโซฟิเทล เรสซิเด้นท์ พาร์ค อเวนิว สุขุมวิท 6 จำนวน 350 ยูนิต

ทั้งนี้ สองโครงการของโซฟิเทลจับกลุ่มเป้าหมายระดับบน มีกำหนดสร้างเสร็จในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ซึ่งจะทำให้กลุ่มแอคคอร์มีเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ภายใต้การบริหารเพิ่มขึ้นเป็น 710 ยูนิตใน 4 โครงการ ส่วนเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ของอาคารเดอะคอลัมน์จะบริหารโดยกลุ่มโอ๊ควูด ซึ่งปัจจุบันบริหารโครงการโอ๊ควูด ซิตี้ เรสซิเดนส์ ในย่านถนนนราธิวาสราชนครินทร์ ซึ่งเมื่อเปิดโครงการใหม่ จะทำให้โอ๊ควูดมีเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ภายใต้การบริหารในกรุงเทพฯ เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 780 ยูนิต

ในส่วนของความต้องการในตลาดเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ในเขตกรุงเทพฯ ชั้นในยังคงมีอยู่สูง ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของจำนวนชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ สถิติตัวเลขจากกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมระบุว่า ในปีที่ผ่านมามีการออกใบอนุญาตทำงานให้กับชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นรวมทั้งสิ้น 21,540 ใบ เทียบกับ 18,469 ใบในปี 2547

อัตราการเข้าใช้ห้องพักโดยเฉลี่ยปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยในปีที่ผ่านมา ในขณะที่โครงการเกรดเอบวกมีอัตราการเข้าใช้ห้องพักเฉลี่ยคงที่ เนื่องจากมีโครงการใหม่ๆ ในระดับเดียวกัน สร้างเสร็จเพิ่มขึ้นในช่วงปลายปีที่ผ่านมา โดยอัตราการเข้าใช้ห้องพักไม่แบ่งเกรดเฉลี่ย 81.2% ในเดือนมกราคม 2548 เทียบกับ 84.7% ในเดือนมกราคม 2549 ส่วนอัตราการเข้าใช้ห้องพัก เกรดเอบวกเฉลี่ย 86.7% ในเดือนมกราคม 2548 เทียบกับ 86.7% ในเดือนมกราคม 2549

ส่วนราคาค่าห้องพัก เนื่องจากความต้องการที่มีอยู่ในระดับสูงสำหรับเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์คุณภาพดีในทำเลที่ดี ทำให้อัตราค่าเช่าในย่านสุขุมวิทและซีบีดีปรับเพิ่มสูงขึ้น โดยห้องพักขนาดสตูดิโอถึง 2 ห้องนอนในโครงการเกรดเอ มีค่าเช่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจาก 1,008 บาทต่อตร.ม.ต่อเดือน ณ ต้นปี 2548 เป็น 1,126 บาทต่อตร.ม. เมื่อต้นปีนี้

ทั้งนี้ แนวโน้มคาดว่า ความต้องการในตลาดเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ในกรุงเทพฯ จะยังคงมีระดับที่แข็งแกร่งในปีนี้ ซึ่งสะท้อนจากยอดจำนวนการออกใบอนุญาตทำงานสำหรับชาวต่างชาติที่เพิ่มจำนวนมากขึ้น และจากการที่โครงการส่วนใหญ่สามารถรับแขกระยะสั้นได้ หลังจากที่เจ้าของโครงการสามารถขอใบอนุญาตประกอบการโรงแรม

อย่างไรก็ตาม จำนวนยูนิตที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต จะเป็นปัจจัยที่กำหนดระดับความเข้มข้นของการแข่งขันในแต่ละทำเล ทั้งนี้ จากการที่โครงการใหม่ส่วนใหญ่มีกำหนดจะสร้างเสร็จในย่านสุขุมวิท คาดว่าการแข่งขันในย่านดังกล่าวจะเพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่ย่านซีบีดีจะมีการแข่งขันน้อยกว่า เนื่องจากมีโครงการใหม่ไม่มาก นอกเหนือจากคุณภาพโครงการและทำเลที่ตั้ง ปัจจัยเสริมความสามารถในการแข่งขันที่สำคัญคือ คุณภาพมาตรฐานของการให้บริการของแต่ละโครงการ